×

#อย่าเข้าใจฉันผิด ไขปริศนา 5 ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับไวน์โรเซ

25.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • แม้จะดื่มง่ายและคุณอาจคิดว่าโรเซก็คือไวน์ขาวเวอร์ชันแบ๊วในแจ็กเก็ตสีชมพู แต่หาได้แปลว่าราคาจะถูกกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ โดยมีราคาที่สูงตั้งแต่ 100 เหรียญสหรัฐ (3,000 กว่าบาท) ไปจนถึง 300 เหรียญ (ราวๆ 9,600 บาท) ไม่ต่างกับไวน์แดง ไวน์ขาว หรือแชมเปญ
  • ไวน์โรเซมักนำมาเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มก่อนเริ่มงานเคียงข้างแชมเปญ ทว่าน่าน้อยใจนักที่น้องในชุดชมพูไม่เคยได้รับเชิญไปร่วมนั่งที่งานดินเนอร์กับเขาบ้างเลย ทั้งๆ ที่นี่คือไวน์ที่สามารถจับคู่กับอาหารได้ไม่แพ้พี่น้องขาวและแดงในตระกูลสักนิด

ความฮอตของเทรนด์เครื่องดื่มสีชมพูอย่างไวน์โรเซยังคงมาแรงไม่หยุด จนหากแวะเข้าไปในร้านขายไวน์ จะเห็นว่าแถบที่ขายขวดน้ำสีชมพูเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะดื่มง่าย แลดูมุ้งมิ้ง จะเพศไหนดื่มก็แลดูพาสเทลน่ารักขึ้นทันตา ทั้งยังรสชาติที่เข้าถึงนักหัดดื่มไวน์ได้ง่าย ทำให้ไวน์โรเซนี้น่าจับตามอง (พร้อมยกขึ้นจิบ) เป็นอย่างมาก

 

แต่คุณรู้เรื่องราวของไวน์โรเซกันมากน้อยเพียงไหนกัน เราไขปริศนาข้อเท็จจริงที่คุณอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับไวน์โรเซตลอดมามาให้ดังนี้

 

#อย่าเข้าใจฉันผิด

 

 

เห็นใสๆ อย่างนี้หนูก็มีค่า

ส่วนหนึ่งของความท้าทายในการผลิตไวน์โรเซคือการทำไวน์ให้ดื่มง่ายได้เรื่อยๆ ทุกวันในราคาที่เอื้อมถึงได้ตามท้องตลาด ทั้งนี้แม้จะดื่มง่ายและคุณอาจคิดว่าโรเซก็คือไวน์ขาวเวอร์ชันแบ๊วในชุดสีพาสเทล แต่หาได้แปลว่าราคาจะถูกราวกับไวน์พร้อมดื่มในร้านสะดวกซื้อเสมอไป ป้ายบนแท็กของไวน์โรเซบางประเภทอาจทำคุณตาโตด้วยราคาที่สูงตั้งแต่ 100 เหรียญสหรัฐ (3,000 กว่าบาท) ไปจนถึง 300 เหรียญ (ราวๆ 9,600 บาท) เลยทีเดียว ไม่ต่างกับไวน์แดง ไวน์ขาว หรือแชมเปญเลย เหตุเพราะกระบวนการทำที่หาได้แตกต่างหรือทำง่ายกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ นั่นเอง

 

โรเซไม่ใช่แค่ไวน์ดื่มหน้าร้อน

ถูกต้องแล้ว เพราะบ้านเราหน้าไหนก็ร้อนเท่าเทียมกัน ดังนั้นเราจึงดื่มโรเซได้ตลอดทั้งปี! เดี๋ยว…เปล่าเสียหน่อย แท้จริงแล้วโรเซเป็นไวน์ที่นิยมดื่มกันเป็นว่าเล่นในช่วงฤดูร้อนแถบยุโรป (โดยเฉพาะฝรั่งเศส) ก็จริง แต่ข้อดีของการดื่มโรเซนอกฤดูนั้นคือราคาที่มักถูกลงเนื่องจากความต้องการที่ลดลง ทั้งเมื่อนำไปแช่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมราวๆ 7-13 องศาเซลเซียส น้ำสีชมพูชวนมองนั้นจะยิ่งอร่อยเหาะ และยังเหมาะกับการเปิดเน็ตฟลิกซ์ละเลียดหน้าทีวีวันฝนพรำ หรืออารมณ์ครึ้มๆ หลังเลิกงาน ไปจนแกล้มมื้อพิเศษชวนฉลองกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ หรือจะนำไปทำค็อกเทลเด็ดๆ ช่วงเทศกาลที่อากาศเย็นๆ ก็ดีงามไม่แพ้กัน

 

 

เห็นดูหวานๆ แต่หนูไม่ได้มาเล่นๆ

คุณไม่ใช่คนเดียวแน่ที่เห็นไวน์โรเซเป็นเพียงเครื่องจิบ ‘โหมโรง’ ก่อนงานเริ่ม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราได้เห็นไวน์สีชมพูถูกนำมาเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มก่อนเริ่มงานเคียงข้างแชมเปญ (เรียกว่าไม่แชมเปญก็โรเซละกัน!) ทว่าน่าน้อยใจนักที่น้องในชุดชมพูไม่เคยได้รับเชิญไปร่วมนั่งที่งานดินเนอร์กับเขาบ้างเลย นี่ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากหัวใจสำคัญของการจับคู่ไวน์และอาหารที่ดีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเป็นกรด (acidity) และไวน์โรเซส่วนมากมีสิ่งนั้น ไม่เชื่อลองทดสอบทฤษฎีนี้ด้วยการโทรหาเพื่อนๆ ชวนจัดโรเซไวน์ดินเนอร์ขึ้นมาสักมื้อ โดยอาจเริ่มจากสปาร์กลิงโรเซสดชื่นๆ ค่อยๆ ไล่ระดับความเข้มไปจนถึงจบกับโรเซที่หวานนิดสดชื่นหน่อยที่เหมาะจับคู่กับขนมหวานก็ได้ ส่วนจะจับคู่โรเซแสนสวยกับอาหารจานไหนนั้น เราขอมอบหน้าที่นี้ให้กับคุณ เพราะสุดท้ายแล้วอย่าลืมว่าการลองผิดลองถูกจับคู่อาหารคือเรื่องสนุกในโลกของไวน์ ดังนั้นก่อนจะถือนโยบายบอกว่า “ไม่” ไปเสียหมด แนะให้ลองชิมดูเสียก่อน เพราะคุณอาจทึ่งว่าผัดกะเพราปลาหมึกนั้นช่างรสนัวสุดๆ เมื่อจับคู่กับโรเซจากออสเตรเลียตอนใต้ก็เป็นได้!

 

 

เก๋าได้ไม่กึ้ก

อย่าคิดว่าสีชมพูพาสเทลราวเคที เพอร์รีแบบนี้จะเป็นเครื่องดื่มแบบป๊อปๆ ที่ซื้อมาแช่เย็นแล้วต้องดื่มทันที หารู้ไม่ว่าโรเซเองก็สามารถเก็บได้จนเก๋า ไม่แพ้รุ่นพี่อย่างไวน์ขาวหรือหรือแดงรุ่นวินเทจเลย! ไวน์โรเซมักเก็บได้ราวๆ 1 ปี โดยไวน์โรเซอย่างดีที่มักราคาสูงนั้นสามารถเก็บหรือ ‘เอจ’ ได้เพื่อเพิ่มความอร่อยเป็นทวีคูณ ผู้ผลิตไวน์บางรายยังเลือกที่จะเอจไวน์โรเซก่อนจะนำออกวางตลาด เพื่อให้ไวน์พัฒนารสชาติให้มีความซับซ้อน (complex) เติมสุนทรียรสของการดื่มให้เยี่ยมขึ้นอีกด้วย

 

สีจี๊ดแต่ไม่หวานนะจ๊ะ

ความคิดที่ว่าสีชมพูของไวน์โรเซที่เข้มกว่าแปลว่าจะต้องหวานกว่านั้นไม่ถูกต้องเสมอไป เช่นเดียวกับสีชมพูที่จางกว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะดราย (dry) กว่าเสียเมื่อไร นักดื่มหลายคนอาจเข้าใจผิดเมื่อนึกถึงไวน์โรเซ ว่าสีที่เข้มกว่าของน้ำแปลว่าความหวานที่มากกว่า แต่ถ้าอย่างนั้นสีชมพูเข้มบอกอะไรได้? น้ำไวน์ที่คุณเห็นผ่านการสัมผัสเปลือกองุ่นมากหรือนานกว่า หรืออาจแปลได้ว่าเป็นไวน์ที่ใช้องุ่นที่มีเปลือกหนาหลากหลายชนิดนั่นเอง และเนื่องจากโรเซที่มีสีเข้มกว่ามักผ่านการสัมผัสหรือแช่กับตัวเปลือกองุ่นนานกว่า นั่นอาจทำให้ไวน์นั้นมีความฟูลบอดี้ หมายถึงเนื้อไวน์มีความเข้มข้น (นึกถึงรสสัมผัสของนมแบบรสชาติแน่นมาเต็มเข้าไว้) ทั้งยังมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า หรือมีแทนนินที่สูงกว่า แต่โดยมากแล้วหากปิดตา คุณแทบจะเดาถึงสีของโรเซแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

 

บอกแล้ว #อย่าเข้าใจฉันผิด

 

อ่านเรื่องเหตุผลที่เครื่องดื่มสีชมพูกำลังฮอตสุดๆ บนอินสตาแกรมคืออะไรได้ที่นี่

ภาพประกอบ: Pichamon Wannasan

อ้างอิง:

FYI
  • ผู้บรรลุนิติภาวะควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหากบริโภคแอลกอฮอล์
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising