×

ไขเรื่องราวอายุขัยของไวน์หลังเปิดขวดทิ้งไว้ คุณยังจะดื่มได้อีกถึงเมื่อไร?

09.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • ตัวร้ายที่จะทำให้ไวน์ของคุณเปลี่ยนรสชาติไปคือ ‘ออกซิเจน’ เพราะออกซิเจนจะทำปฏิกิริยาออกซิเดชันกับไวน์หลังจากคุณเปิดไวน์ทิ้งไว้นานๆ เมื่อมันโดนออกซิเจนนานๆ มันจะเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์คล้ายกลิ่นตุๆ อับๆ
  • แต่ก็ใช่ว่าออกซิเจนจะเป็นตัวร้ายไปเสียทีเดียว เพราะไวน์บางชนิดเมื่อโดนออกซิเจนแรกเปิดขวด มันจะช่วยขับกลิ่นและรสชาติออกมามากขึ้น
  • คุณควรจะต้องเปลี่ยนภาชนะใส่ไวน์ให้พอดีกับปริมาณไวน์ที่เหลือ เพื่อไม่ให้เหลือพื้นที่ให้ออกซิเจนได้เข้าไปทำลายรสชาติได้รวดเร็วนัก

เวลาเราหาซื้อไวน์มาสักขวด เราก็อยากจะดื่มมันให้หมดจดทุกหยดเพื่อให้คุ้มค่ากับราคาที่เสียไป แต่ถ้าคุณดื่มไม่หมดแล้วทิ้งมันไว้ล่ะ จะยังดื่มต่อได้หรือเปล่า แน่นอนว่าสภาพของไวน์ทั้งสี กลิ่น และรสชาติย่อมเปลี่ยนไปแน่นอน แต่มันจะเปลี่ยนไปอย่างไร และเราจะมีวิธีการดูแลไวน์ในขวดให้ดื่มได้ยาวนานอย่างไร มาค้นหาคำตอบกัน

 

Photo: giphy.com

 

เปิดไวน์ครั้งหนึ่ง คือจุดจบของรสชาติ?

จะว่าเช่นนั้นก็ได้ หากคุณเปิดไวน์รสชาติเยี่ยมที่เพิ่งจะซื้อมาหนึ่งครั้ง ขันก๊อกออกปุ๊บ แล้วดันกินไม่หมด พอทิ้งไว้ก็เท่ากับสูญเสียรสชาติแล้วจริงหรือ? จริงๆ ต้องบอกว่าตัวร้ายที่จะทำให้ไวน์ของคุณเปลี่ยนรสชาติไปคือ ‘ออกซิเจน’ เพราะออกซิเจนจะทำปฏิกิริยาออกซิเดชันกับไวน์หลังจากคุณเปิดไวน์ทิ้งไว้นานๆ เมื่อมันโดนออกซิเจนนานๆ ก็จะเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ซึ่งทำให้กลิ่นและรสชาติของไวน์ผิดเพี้ยนไป นั่นก็เพราะแบคทีเรียในไวน์ที่มาจากองุ่นและการหมักซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ไวน์มีรสชาติ และความเปรี้ยว พวกมันต้องการออกซิเจนเพื่อเจริญเติบโต ดังนั้นเมื่อมันยิ่งพบเจออากาศภายนอก ก็จะเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงสภาพไวน์ไปทันที มันจะเปรี้ยวมากขึ้น เปลี่ยนสีไป หรืออาจจะเกิดฟองฟอดอันไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไร

 

Photo: giphy.com

 

คุณอาจสงสัยว่า แล้วระหว่างการผลิตนั้น มันจะไม่พบเจอออกซิเจนเลยหรือ? คำตอบก็คือ กระบวนการผลิตไวน์จะต้องปลอดออกซิเจนทั้งหมด ก็เพราะว่าขณะที่ยีสต์กำลังเปลี่ยนสภาพน้ำตาลให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ มันได้ปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่า แต่ก็ใช่ว่าออกซิเจนจะเป็นตัวร้ายไปเสียทีเดียว เพราะไวน์บางชนิดเมื่อโดนออกซิเจนแรกเปิดขวด มันจะช่วยขับกลิ่นและรสชาติออกมามากขึ้น นอกจากนี้ไวน์ที่มีอายุมากกว่า มักจะระเหยและสูญเสียกลิ่นได้เร็วกว่าไวน์ที่มีอายุน้อยกว่า รวมไปถึงไวน์ที่มีรสความเปรี้ยวสูง และปริมาณน้ำตาลสูงจะระเหยช้าและสูญเสียรสชาติช้ากว่า

 

Photo: giphy.com

 

เปิดไวน์แล้ว ควรจะเก็บไว้อีกกี่วัน?

ไวน์แต่ละชนิดมีอายุการเก็บที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับมวลไวน์และประเภทของไวน์ที่ส่งผลต่างกัน หากเอาที่คุณสบายใจ คุณควรดื่มให้หมดภายใน 3 วันถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดไม่ว่าจะกับไวน์ประเภทไหนก็ตาม หลังจากเปิดขวดแล้วคุณต้องรีบปิดก๊อกแช่เย็นทันที ส่วนสปาร์กกลิงไวน์ คุณต้องห่อพลาสติกไว้บนปากขวดเพื่อเก็บกักไม่ให้ฟองระเหยไปหมดก่อนนำไปแช่ แต่ไวน์อย่างไวน์ขาวมวลเบา และโรเซไวน์นั้นสามารถมีอายุการดื่มได้ถึง 5 วัน เพราะรสชาติของมันจะเจือจางช้ากว่าไวน์ชนิดอื่นๆ

 

Photo: giphy.com

 

หลากวิธีรักษารสชาติไวน์ให้อยู่ยั้งยืนยง

เมื่อคุณเปิดไวน์และดื่มไม่หมด สิ่งที่คุณควรจะต้องทำเพื่อรักษาไวน์ทั้งหมดที่ยังเหลือให้ยังดื่มได้ไปอีกหลายๆ วันคือการแช่เย็น วิธีง่ายๆ คือปิดจุกก๊อกกลับเข้าไป แล้วพาเจ้าขวดไวน์นั้นกลับเข้าไปนอนแช่เย็นในตู้เย็น เพื่อให้อุณหภูมิต่ำในตู้เย็นคอยรักษาไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปกระทบกับไวน์ด้านใน และถ้าจะให้เวิร์กกว่าคุณควรจะต้องเปลี่ยนภาชนะใส่ไวน์ให้พอดีกับปริมาณไวน์ที่เหลือ เพื่อไม่ให้เหลือพื้นที่ให้ออกซิเจนได้เข้าไปทำลายรสชาติได้รวดเร็วนัก

 

เพียงแค่คุณรู้จักวิธีดูแลรักษาไวน์ให้ยอดเยี่ยมดังนี้ คุณก็จะสามารถลิ้มรสชาติไวน์ให้ถึงหยดสุดท้ายอย่างคุ้มค่าได้

 

เชียร์ส!

ภาพประกอบ: Pichamon Wannasan

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising