เนวาดา-อิลลินอยส์ 2 รัฐล่าสุดในสหรัฐฯ อัดฉีดเงินรางวัลก้อนใหญ่ในลอตโต สร้างแรงจูงใจฉีดวัคซีนโควิด-19

วานนี้ (17 มิถุนายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐเนวาดาและรัฐอิลลินอยส์กลายเป็น 2 รัฐล่าสุดในสหรัฐอเมริกาที่ทางการอัดฉีดเงินรางวัลก้อนใหญ่ในลอตโต เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้พลเมืองออกไปเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันมากขึ้น หลังอัตราการเข้ารับการฉีดวัคซีนในประเทศเริ่มชะลอตัว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคอย่าง CDC ของสหรัฐฯ เผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีเพียง 6 รัฐที่มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรกอย่างน้อยราว 1 ใน 4 ของช่วงที่มีผู้มาเข้ารับวัคซีนมากที่สุด ในขณะที่มีอีก 6 รัฐที่มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรก คิดเป็นเพียง 10% ของช่วงที่มีผู้มาเข้ารับวัคซีนมากที่สุดเท่านั้น

ทางด้าน เจฟฟ์ ไซแอนส์ ผู้ประสานงานเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ของทำเนียบขาวระบุ “เรากำลังมุ่งหน้าสู่ช่วงซัมเมอร์แห่งความสุข ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เป็นอิสระจากเชื้อไวรัส แต่อย่างไรก็ตาม ทุกมาตรการรับมือที่เราพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นทั้งประเทศ แต่เราต้องยอมรับว่า ยังมีชุมชนอีกจำนวนมากที่ยังคงมีความเสี่ยง เนื่องจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

การเข้ารับการฉีดวัคซีนที่ต่ำในบางชุมชนเป็นสิ่งที่เรากังวลตอนนี้มากกว่าสิ่งที่จะเราจะเผชิญในอนาคตข้างหน้า ยิ่งมีเชื้อกลายพันธุ์ที่อันตรายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเชื้อกลายพันธ์ุ สายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2)”

ทั้งรัฐเนวาดาและรัฐอิลลินอยส์ประกาศแผนสร้างแรงจูงใจดังกล่าววานนี้ โดยรัฐเนวาดาจะทุ่มเงินสด 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 157 ล้านบาท) และรางวัลอื่นๆ อีกมากมายให้กับผู้โชคดีราว 2,000 รายที่อาศัยอยู่ภายในรัฐและเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ขณะที่รัฐอิลลินอยส์ทุ่มเงินรวม 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 314 ล้านบาท) โดย 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเงินรางวัลลอตโตเป็นหลายๆ รางวัล ตั้งแต่ 1 แสน-1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีก 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้เป็นเงินรางวัลทุนการศึกษา สำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือวัยรุ่นอเมริกันภายในรัฐที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว

ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ เดินหน้าฉีดวัคซีนไปแล้ว 314.96 ล้านโดส มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในเชิงปริมาณ รองจากจีน มีพลเมืองราว 175.8 ล้านรายเข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ 147.7 ล้านราย หรือคิดเป็น 44.5% เข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม พลเมืองอเมริกันจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความลังเลใจและไม่ต้องการเข้ารับวัคซีน นับเป็นความท้าทายที่สำคัญของรัฐบาลโจ ไบเดน ในการผลักดันและสร้างแรงจูงใจให้พลเมืองหันกันมาเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันกลุ่มให้ได้ และหากต้องการบรรลุเป้าที่ไบเดนตั้งไว้ว่า จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ให้ได้อย่างน้อย 70% ทางการสหรัฐฯ จะต้องเพิ่มการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็น 7.22 แสนรายต่อวัน จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ หลายรัฐจึงเริ่มทยอยออกมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการฉีดวัคซีน

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ตั้งเป้าส่งวัคซีนโควิด-19 ช่วยเหลือประชาคมโลกไว้อย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/g-7-summit-coronavirus-pandemic/
โควิด-19 กลายพันธ์ุสายพันธ์ุต่างๆ มีชื่อเรียกใหม่ว่าอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/new-name-covid-19-in-diferrent-species/
สำรวจราคาวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก โดสละเท่าไร เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/price-survey-of-covid-19-vaccine/
ผลข้างเคียงวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก อาการเป็นอย่างไรบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/side-effects-of-the-covid-19-vaccine-2/
เช็กประสิทธิภาพวัคซีนต้านโควิด-19 ล่าสุด อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/coronavirus-vaccine-potential-update/