×

สวนป่า น้ำตก โคมไฟปลากัดตัวผู้ และอาหารใต้หรอยแรงจังฮู้ ที่ ‘ขมิ้น Camin Cuisine’

14.03.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • ร้านอาหารใต้ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของชาวใต้ ผู้อยากจะให้คนใต้ที่มาอยู่กรุงเทพฯ สามารถคลายคิดถึงบ้านได้ โดยการลิ้มรสอาหารรสชาติหรอยแรงที่คุ้นเคย โดยไม่ต้องกลับบ้านไปไกลถึงต่างจังหวัดทางภาคใต้ ขมิ้น Camin Cuisine คือร้านที่เราสัมผัสได้ว่า เจ้าของร้านใส่ ‘หัวใจ’ ลงไปในร้านนี้ด้วย 
  • ลูกค้าสามารถเลือกนั่งในสวนร่มรื่นดีไซน์สวนป่า พร้อมฟังเสียงน้ำตกจำลองไหลเอื่อยชวนผ่อนคลาย หรือจะเลือกนั่งในตัวบ้านเรือนกระจกเพดานสูงโปร่งก็ย่อมได้ เมนูเด็ดของที่นี่ซึ่งเราประทับใจว่าหรอยแรงเด็ดจริงคือ ยำบ้านขมิ้น น้ำพริกหยำ และยำไตปลาแห้ง

บ้านเก่า 2 หลัง ภายในพื้นที่ 1 ไร่ ภายในซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ฟื้นคืนชีพกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง หลังหนึ่งถูกปรับให้เป็นคาเฟ่ ส่วนอีกหลังตั้งใจให้เป็นร้านอาหาร แรกที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่นี้ เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของผู้เป็นเจ้าของที่สร้างร้านนี้ขึ้นมา และเมื่อยิ่งรู้ถึงรายละเอียดต่างๆ ยิ่งทำให้ทึ่งและมั่นใจว่า เธอใส่ ‘หัวใจ’ เข้าไปในร้านนี้ด้วย 

 

คุณเบียร์-จุฑาทิพย์ เพชรเรือนทองล่าถึงความเป็นมาของร้าน ขมิ้น Camin Cuisine & Cafe ให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของร้านนี้เกิดจากความที่คุณเบียร์และสามีผู้เป็นคนใต้กันทั้งคู่ เมื่อถึงสุดสัปดาห์ทีไร ก็มักจะต้องไปสรรหาร้านอาหารใต้ที่ถูกใจหรอยจังฮู้รับประทานกัน จนวันหนึ่งก็คุยกันว่า “แล้วทำไมเราไม่ลองเปิดร้านของตัวเองกันดูล่ะ” ว่าดังนั้นคู่สามีภรรยาชาวใต้จึงตัดสินใจร่วมกันเปิดร้านอาหารใต้เป็นของตัวเองกัน แต่เนื่องจากในพื้นที่กว้างขวางนี้มีบ้านเก่าถึงสองหลัง จึงได้เกิดปิ๊งไอเดียเปิดเป็นร้านคู่ดูโอ้ ให้ฝั่งหนึ่งเป็นร้านอาหารใต้ตามความตั้งใจเดิม ส่วนอีกฝั่งเป็นคาเฟ่ตามสมัยนิยม 

 

เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์และความภูมิใจในความเป็นชาวใต้ของผู้เป็นเจ้าของ คุณเบียร์และสามีจึงตกลงใจตั้งชื่อร้านว่า ขมิ้น Camin Cuisine & Cafe เพราะขมิ้นนั้นถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ทำให้เครื่องแกงของใต้มีความโดดเด่นแตกต่างจากอาหารไทยภาคอื่น ซึ่งในวันนี้ THE STANDARD POP จะพาไปเที่ยวชิมร้านขมิ้นฝั่ง Cuisine หรือฝั่งร้านอาหารกันก่อน 

 

The Vibe

 

 

บ้านทางฝั่งขวาของพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษๆ แวดล้อมด้วยสวนร่มรื่นดีไซน์สวนป่า คือที่ตั้งของร้านขมิ้นฝั่งอาหาร ตัวบ้านเก่าที่ได้รับการรีโนเวตใหม่ยังรักษาโครงสร้างเดิมไว้ แต่ถูกปรับให้เป็นเรือนกระจกเพดานสูงโปร่ง โดดเด่นด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ดีไซน์เก๋ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘ปลากัดไทย’ ซึ่งดูพลิ้วไหว มองทีแรกอาจจะคิดว่าเป็นผ้า แต่อันที่จริงแล้วทำจากสเตนเลส ซึ่งคุณเบียร์บอกว่า เป็นปลากัดตัวผู้ ให้เป็นคู่กับโคมแขวนอีกอันรูปปลากัดตัวเมียทางฝั่งคาเฟ่ ซึ่งทำมาจากทองแดง 

 

 

ด้านเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะเก้าอี้ของร้านส่วนหนึ่งเลือกใช้วัสดุหวายเพื่อแสดงออกถึงความเป็นพื้นบ้านไทยโบราณ แต่ดีไซน์ร่วมสมัย เช่นเดียวกับของตกแต่งอื่นๆ ที่ประดับประดาเอาไว้ตามจุดต่างๆ ภายในร้าน เช่น เครื่องทองเหลืองแท้ที่มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อที่จะสื่อถึงความเป็นใต้ 

 

เพดานสูงโปร่ง โคมไฟได้รับแรงบันดาลใจจากปลากัดไทย

ตัวร้านถูกปรับมาจากบ้านเก่า ซึ่งรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้ดีมาก

 

บริเวณชั้นสองที่เป็นห้องส่วนตัวได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องยาไทยโบราณ​ แต่ถ้าไม่อยากจะนั่งภายในร้าน ก็ขอบอกว่า ด้านนอกในสวนที่ดีไซน์มาในคอนเซปต์สวนป่าหลากพืชพรรณพร้อมน้ำตกจำลองถึง 7 จุด ก็ได้บรรยากาศแสนร่มรื่น

 

สวนสวยร่มรื่นที่ดีไซน์ออกมาในคอนเซปต์สวนป่า

พร้อมน้ำตกจำลอง 

 

The Dishes

ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้คนใต้ซึ่งมาอยู่กรุงเทพฯ​ ได้คลายคิดถึงบ้านด้วยการรับประทานอาหารใต้ที่อร่อยถูกปากถูกใจในรสชาติที่คุ้นเคยโดยไม่ต้องเดินทางไกลกลับไปถึงบ้านเกิดที่ภาคใต้ อาหารของร้านขมิ้นจึงเน้นที่รสใต้แท้ๆ แต่แน่นอนว่า คนภาคอื่นที่ชื่นชอบรสชาติจัดจ้านก็ย่อมเอ็นจอยกันได้ด้วย และเพื่อให้มั่นใจได้ ดังนั้น คุณเบียร์จึงคัดสรรวัตถุดิบหลายอย่างให้ส่งตรงมาจากภาคใต้เลยทีเดียว 

 

‘เซตจังฮู้’ 

ชุดสำรับเรียกน้ำย่อยเซตใหญ่

 

เริ่มต้นกันด้วย เซตจังฮู้ (380 บาท) ชุดสำรับเรียกน้ำย่อยเซตใหญ่ที่ถูกจัดมาพอดีคำอย่างสวยงาม ได้แก่ ไก่ใบเตย ปลาแห้งแตงโม กุ้งพันตะไคร้ แต่ที่เราว่าน่าสนใจและแสดงถึงความเป็นใต้ได้ดีมากก็คือ เมี่ยงมะม่วงเบากับหมูกอและ แต่ถ้าอยากจะได้เซตเล็กที่ย่อมเยากว่านี้ เพื่อสำรองท้องไว้ให้กับอาหารจานหลัก ทางร้านก็ยังมี เซตหิดหุ้ย (230 บาท) อันเป็นสำรับเรียกน้ำย่อยชุดเล็กให้เลือก ซึ่งจะมีเพียง 3 อย่าง ได้แก่ ไก่ใบเตย เมี่ยงมะม่วงเบากับหมูกอและ

 

‘ยำบ้านขมิ้น’ 

ยำกุ้งแม่น้ำตัวโต เมนูเด่นของทางร้าน 

 

ยำบ้านขมิ้น (420 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มันเยิ้มย่างราดน้ำยำขมิ้นขาวรสดี เสริมความเป็นกุ้งยกกำลังสองด้วยกุ้งเสียบ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถือเป็นหนึ่งจานเด็ดของทางร้าน ส่วนจานของทอดคือ ปลาทรายทอดขมิ้น (220 บาท) จานนี้หอมขมิ้นอ่อนๆ ไม่ได้กลิ่นขมิ้นที่จัดจนเกินไป ทั้งยังรู้สึกได้ถึงความสดของเนื้อปลา ซึ่งทอดมาได้กรอบพอดิบพอดี

 

‘น้ำพริกหยำ’ และ ปลาทรายทอดขมิ้น’ 

 

น้ำพริกหยำ (210 บาท) เป็นอีกจานที่เราชอบสำหรับอาหารมื้อนี้ เพราะอุดมไปด้วยผักเหนาะ (ผักเคียงภาษาใต้) พื้นบ้านนานาชนิดให้เลือกจิ้มกินกับน้ำพริกหยำที่ปรุงมาจากกะปิที่สั่งมาเป็นพิเศษจากชาวบ้านในชุมชนจังหวัดกระบี่ กินน้ำพริกคู่กับปลาทอดขมิ้นคือดีงาม และยังมีดีตรงที่ในสำรับน้ำพริกยังมีกุ้งหวานกับหมูหวานเคียงมาให้กินเบรกความเผ็ดด้วย 

 

 

 ‘กุ้งผัดสะตอ’ และ ‘ยำไตปลาแห้ง’ 

 

จานต่อมาคือ กุ้งผัดสะตอ (250 บาท) ซึ่งใช้กะปิดีจากชุมชนเดียวกัน ยิ่งได้กุ้งสดอวบเบอร์นี้ยิ่งอร่อยกันไปใหญ่ ส่วนอีกจานที่แสดงออกถึงความเป็นใต้ได้ดีมากๆ คือ ยำไตปลาแห้ง (180 บาท) ไตปลาเป็นอาหารที่ทางภาคใต้นิยมรับประทานกันมาก นำมาหมักกับเกลือ แล้วมักนำไปปรุงต่อเป็นแกงไตปลาหรือยำไตปลา ซึ่งเราว่าหาที่อร่อยกินไม่ได้ง่ายๆ เลย แต่ต้องยอมรับว่า ทางร้านขมิ้นปรุงออกมาเป็นยำไตปลาแห้งที่มีรสชาติครบรสจัดจ้าน และได้กรุ่นกลิ่นของสมุนไพรดีทีเดียว

 

 

 

ไม่ใช่ว่าจะมีแต่อาหารรสจัดเพียงอย่างเดียว ทางร้านยังมีอาหารใต้อื่นๆ ให้เลือกรับประทานอีกหลายอย่าง เช่น ใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด (250 บาท) ชามนี้ออกมารสละมุนกลมกล่อม ช่วยซดดับเผ็ดจากอาหารจานอื่น สร้างความสมดุลให้กับอาหารหรอยแรงมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนอีกจานที่ช่วยเบรกความเผ็ดได้ดีนักแลคือ ผัดผักริมรั้ว (150 บาท) ที่ใช้ทั้งผักตำลึง ผักกูด และผักหวาน ซึ่งล้วนเป็นผักริมสดรั้วมาผัดอย่างง่ายๆ ทว่า ได้รสชาติที่ดี 

 

 

 

และอีกจานไฮไลต์ที่ทุกคนมักจะนึกถึงเมื่อพูดถึงอาหารใต้ก็คือ แกงส้ม ซึ่งในวันนี้สั่งมาเป็น แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว (260 บาท) รสชาติแสนจัดจ้านสมศักดิ์ศรีเป็นแกงส้มแบบใต้ จานนี้ยังมีดีตรงที่สัมผัสได้ถึงความสดของเนื้อปลา และความกรอบหวานของในตัวเองของยอดมะพร้าว 

 

ร้านขมิ้นยังมีอาหารอีกหลายจานที่น่าอร่อย นอกจากนี้ถ้าอยากรับประทานขนมหรือของหวาน ก็เพียงแค่เดินข้ามไปยังฝั่งคาเฟ่ที่อยู่ใกล้กันเพียงอึดใจ หรือจะสั่งข้ามฝั่งมาส่งที่ร้านอาหารก็ยังได้ เขามีทั้งขนมไทยและขนมฝรั่งที่ประยุกต์ใส่ความเป็นใต้ของไทยเข้าไปได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเราจะแนะนำให้ฟังกันในลำดับถัดไป 

 

What Else You Should Know: 

  • ที่ร้านขมิ้นมีข้าวให้เลือกรับประทาน 2 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาวเป็นข้าวหอมมะลิ และข้าวกล้องสังข์หยดแท้จากจังหวัดพัทลุง ซึ่งนอกจากจะนุ่ม กินเพลินแล้ว ยังมีความดีงามตรงที่เป็นข้าวที่มีโปรตีนสูง ทั้งยังช่วยลดการเกิดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย 
  • ร้านขมิ้นให้ความสำคัญมากกับรสชาติของวัตถุดิบที่สดใหม่ และคุณเบียร์ผู้เป็นเจ้าของร้านยังกำชับคนครัวอีกว่า ห้ามใส่ผงชูรสโดยเด็ดขาด
  • ทางร้านมีเครื่องดื่มต้อนรับที่จะหมุนเวียนไปในแต่ละวัน เช่น ในวันที่เราไปเยือนนั้นเป็นชาบัวเย็นหอมชื่นใจ  

 

ขมิ้น Camin Cuisine 

Open: ทุกวัน เวลา 11.00-22.30 น.

Address: 151/3 ซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

Budget: ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 120 บาทขึ้นไป

Contact: โทร. 09 5615 6615

Page: www.facebook.com/camin.cuisineandcafe.th

Map:

 


 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising