บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft หนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกผู้เป็นหนอนหนังสือตัวยง เผยว่า หนึ่งในหนังสือเล่มโปรดที่อยากแนะนำในปีนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับ AI ที่เมื่อได้อ่านแล้วจะเป็นหนังสือที่เตือนทุกคนว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า AI จะมีบทบาทสำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานแทบทุกอุตสาหกรรมบนโลก
โดยหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า The Coming Wave: Technology, Power, and the Twenty-first Century’s Greatest Dilemma ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2023 เขียนโดย มุสตาฟา สุไลมาน ผู้บุกเบิกด้าน AI และผู้ร่วมก่อตั้งห้องวิจัย DeepMind เขาขายหนังสือเล่มนี้ให้กับ Google ในปี 2014 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Microsoft AI
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตอนอายุ 20 ต้นๆ ผมไม่เชื่อในวันหยุดและพักร้อน แต่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เตือนเสมอ มีเงินก็ซื้อเวลาไม่ได้…
- คอนเนกชัน ความสดใส และเวลา’ อ่าน 7 เรื่องราวผ่านตัวตนที่ซ่อนอยู่ใน Taylor Swift…
- หนังสือ 5 เล่มที่ Bill Gates แนะนำสำหรับปลายปี 2024
- 7 อาชีพเสริมสุดปัง ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา อยู่มุมไหนของโลกก็สามารถทำได้ อัปค่าตัวสูง 300 ดอลต่อชั่วโมง
“นี่คือหนังสือเกี่ยวกับ AI ที่ผมอยากแนะนำมากกว่าเล่มอื่นๆ เลย ซึ่งเหมาะกับทั้งผู้นำประเทศ ผู้นำธุรกิจ และทุกๆ คน เพราะหนังสือเล่มนี้ให้สิ่งที่หาได้ยาก ทั้งมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับโอกาส และความเสี่ยงอันแท้จริงที่รออยู่ข้างหน้า” เกตส์เขียนไว้ในบล็อกโพสต์
ภายในหนังสือของสุไลมานทำนายว่า ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนา AI จะเปลี่ยนวิธีการทำงานในแทบทุกอุตสาหกรรมอย่างสิ้นเชิง
สุไลมานหยิบยกงานศึกษาวิจัยในปี 2023 ของ McKinsey ซึ่งประเมินว่า รูปแบบการทำงานกว่าครึ่งจะถูกกลืนกินด้วย AI การทำงานทั่วโลกจะกลายเป็นระบบอัตโนมัติ และกว่า 400 ล้านคนอาจต้องเปลี่ยนอาชีพหรืองานใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นชัดเจนภายในปี 2030
สอดคล้องกับผลสำรวจของ Slack’s Workforce Lab ในเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งระบุว่า ปัจจัยสำคัญในการจ้างงานสำหรับนายจ้างเกือบ 70% คือการเลือกจ้างพนักงานที่มีทักษะพื้นฐานด้าน AI
เกตส์บอกอีกว่า สิ่งที่ควรไฮไลต์ไว้คือท่อนที่สุไลมานเขียนว่า “แม้เครื่องมือเหล่านี้จะเสริมสติปัญญาของมนุษย์เพียงชั่วคราว และจะทำให้เราฉลาดขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นชั่วขณะหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันจะเป็นแรงขับเคลื่อนและปลดล็อกการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกมหาศาล เพราะโดยพื้นฐานแล้วเครื่องมือเหล่านี้ก็เข้ามาแทนที่แรงงานนั่นเอง”
AI สึนามิแรงงาน อาชีพอะไรบ้างเสี่ยงตกงาน
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างเด่นชัดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเริ่มเห็นตั้งแต่การผลิตทางกายภาพไปจนถึงแรงงานทางปัญญา และการปฏิวัติ AI พร้อมที่จะส่งผลกระทบต่อแทบทุกอุตสาหกรรม
และท้ายที่สุดจะมีบางอุตสาหกรรมที่มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะ AI ได้ และจะเข้ามาทดแทนคนทำงานในสำนักงานอย่างรวดเร็ว เช่น งานธุรการ งานบริการลูกค้า และงานสร้างสรรค์คอนเทนต์
ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ AI จะสร้างงานใหม่มากพอที่จะชดเชยกับงานที่สูญเสียไปอีกด้วย
นอกจากนี้ รายงาน The Future of Jobs Report 2025 ของ World Economic Forum ประเมินว่า AI จะสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 78 ล้านตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่จะถูก AI เข้ามาทดแทนภายในปี 2030 เสียอีก
แต่แม้แต่ผู้ที่เห็นต่างก็มองแง่ดีเกี่ยวกับ AI ซึ่งเห็นด้วยว่า AI จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการทำงานของผู้คน
สุไลมานทำนายไว้ในหนังสืออีกว่า งานใหม่ที่เกิดจากความก้าวหน้าของ AI จะตามไม่ทัน และไม่เกิดขึ้นเร็วพอที่จะกอบกู้แรงงานทั่วโลกที่มีจำนวนมาก
แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในการสนทนากับ แซลลี คอร์นบลูธ ประธาน MIT เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ว่า “AI ทำให้งานจำนวนมากหายไป และจะมีงานบางประเภทที่หายไปโดยสิ้นเชิง”
โดยรวมแล้วทั้งสุไลมานและเกตส์ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพของ AI ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น
หากคนงานและผู้นำเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกคนควรจะได้รับประโยชน์จากการรักษาที่ก้าวหน้าสำหรับโรคร้ายแรง วิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสำหรับทุกคน” เกตส์ย้ำ
ทั้งนี้ แรงงานและผู้นำองค์กรควรต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก AI โดยสุไลมานเตือนอีกว่า การเตรียมรับมือที่ดีที่สุดนั้น มนุษย์จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำงานกับ AI ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันและอาชีพ อาจเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ AI ออนไลน์ฟรี ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, โมเดลภาษา, หลักสูตรออนไลน์ เพื่อเรียนรู้ทักษะ AI เช่น Prompt Engineering
ในตอนท้ายของหนังสือ สุไลมานย้ำว่า นี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของ AI ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันในศตวรรษนี้และศตวรรษต่อๆ ไป และวันนี้เริ่มเห็นแล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงอีกต่อไปแล้ว
อ้างอิง: