เมื่อเอ่ยถึง ‘ไวน์บาร์’ ภาพจำแรกของใครหลายคนอาจจะเป็นบาร์ที่มีความหรูหราและทางการ แต่หากคุณกำลังมองหาไวน์บาร์ที่มีความโฮมมี่ ไม่ต้องคว้าสูทหรือชุดราตรีมาใส่ และยิ่งถ้าเป็นสาย Natural Wine ด้วยแล้ว เราอยากให้ลองแวะไปเช็กอินที่ Proper ไวน์บาร์ใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเวิ้งของสุขุมวิท ซอย 31 การเดินทางครั้งใหม่ของ เชฟศรีล โรจนเมธินทร์ แห่ง Small Dinner Club ที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่บรรยากาศที่เข้าใจง่ายและซีเล็กชันของไวน์เท่านั้น แต่ยังจริงจังกับวัตถุดิบและขั้นตอนการรังสรรค์ที่ละเอียดอ่อนในทุกจาน
The Vibe
ตัวร้านเป็นไวน์บาร์เล็กๆ ที่มีทั้งโซนอินดอร์และเอาต์ดอร์ ให้ความรู้สึกเหมือนแวะมาบ้านเพื่อน ซึ่งสามารถรองรับได้ราวๆ 25-30 คน ภายในร้านยังมีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับใครที่อยากแวะมาจิบไวน์คนเดียวแบบเพลินๆ
หากเดินไปที่เชลฟ์ไวน์ก็จะเห็นถึงซีเล็กชันของ Natural Wine ที่น่าสนใจตามฤดูกาล และอย่างที่บอกว่าร้านนี้เน้นความเข้าใจง่าย ในส่วนของราคาไวน์ก็ยังมีความเข้าใจง่ายเช่นกัน โดย By Glass จะอยู่ที่ 390 บาทราคาเดียว ส่วน By Bottle จะเริ่มต้นที่ 1,900-7,000 บาท
The Taste
หัวใจสำคัญของอาหารที่นี่คือใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน รวมถึงการเคารพวัตถุดิบตามฤดูกาล ระหว่างกางดูเมนูสีส้มเด่นพลางจิบไวน์ที่ทางร้านแนะนำไปเพลินๆ ได้แป๊บเดียวอาหารจานแรกก็มาแลนดิ้งที่โต๊ะ
ประเดิมกันด้วย Oyster of the Day (470 บาท ต่อ 3 ชิ้น) ปรุงรสด้วยซอส Mignonette และ Finger Lime หรือที่บางคนจะเรียกว่ามะนาวคาเวียร์ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย ยิ่งกินกับสาหร่ายพวงองุ่นสดกรอบที่เสิร์ฟมาด้วยแล้วยิ่งสดชื่น
ต่อด้วย Dry-aged Beef Tartare (450 บาท ต่อ 2 ชิ้น) เนื้อดรายเอจทาร์ทาร์คลุกซอสสโมกมาโยท็อปด้วยหอมเบิร์น เสิร์ฟบนขนมปังซาวโดวจ์ทอด กัดเต็มปากเต็มคำแล้วได้เท็กซ์เจอร์ความกรอบของขนมปังที่มีความชิววี่เล็กๆ เข้ากับรสชาติครีมมี่กลมกล่อมของเนื้อที่หอมกลิ่นรมควันจางๆ
ใครชอบคร็อกเกต้องไม่พลาดกับ Duck Croquettes (290 บาท) เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ท็อปด้วย Balsamic Onion Jam และหอมแดงดอง ซึ่งความเปรี้ยวของซอสเข้ากันได้ดีกับรสชาติที่เข้มข้นของคร็อกเก ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด
มาถึงจานไฮไลต์ (แรก) ที่เราอยากแนะนำ Thousand Layered Potato with Salted Egg Yolk & Chive Cream (360 บาท) มองผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นครัวซองต์ ด้วยเลเยอร์และพื้นผิวที่เรียงรายมาสวยงาม แต่ความจริงแล้วมันคือมันฝรั่งทั้งลูกที่ทำไปสไลซ์ ปรุงรส แล้วนำกลับคืนที่เดิม โดยตัวมันฝรั่งจะมีการนำไปนึ่งและทอด เสิร์ฟคู่กับซอสครีมไชว์ส โรยด้านบนด้วยไข่แดงเค็ม เวลากินแนะนำให้หั่นแนวขวางเพื่อกินเป็นเลเยอร์ แล้วจิ้มกินกับซอสครีมเต็มปากเต็มคำ รู้ตัวอีกทีก็หมดจานเสียแล้ว
จานไฮไลต์ต่อมาที่เราต้องยกนิ้วให้คือ Slow-Roast Red Cabbage (380 บาท) กะหล่ำปลีอบกับซอสแอนโชวีกระเทียม ที่ไม่ได้มีดีแค่เท็กซ์เจอร์ที่นุ่มพอดี แต่ยังมีแอปเปิ้ลกับพรุนแทรกอยู่ด้วย เรียกว่าเป็นจานคอมฟอร์ตฟู้ดที่มีมิติรสชาติแปลกใหม่ แต่อร่อยลงตัวในทุกคำ
มาเพิ่มโปรตีนกันบ้างกับ Flathead Lobster (690 บาท) เนื้อกั้งที่ทางร้านใช้นั้นมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีความสด กรอบ และเด้ง เข้ากันดีกับซอสฮอตบัตเตอร์หอมๆ
อีกจานไฮไลต์ของค่ำคืน 30-Day Aged Biodynamic Pork (750 บาท) หมูจากสวนในจังหวัดขอนแก่นที่ถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและอ้วนท้วนสมบูรณ์ จนได้ระดับไขมันที่เหมาะกับการดรายเอจ เนื้อหมูมีความนุ่ม แน่น และแทรกมัน ยิ่งกินกับใบไทม์หอมๆ และซอสแอปเปิ้ลมัสตาร์ดที่เสิร์ฟมาด้วยแล้วยิ่งอร่อย
และถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นแนะนำให้สั่ง Proper Salad (340 บาท) มาแกล้มด้วย จานนี้เป็นสลัดที่ได้ผักออร์แกนิกมาจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีทั้งผักดองย่างและอองดีฟที่มีรสขมนิดๆ เป็นเอกลักษณ์ แต่ให้ความกรอบและสด กินด้วยกันกับผักดองเปรี้ยวๆ ในจานแล้วสดชื่นตาตื่น
อิ่มเอมท้องตึงกับอาหารแค่ไหนก็ต้องเหลือพื้นที่ไว้ให้ของหวานเสมอ สายดาร์กช็อกโกแลตมีฟินแน่นอนกับ Salted Caramel Prachuap Dark Chocolate Tart (380 บาท) ที่ขอเน้นย้ำว่า ‘เข้ม ข้น มาก’ เรียกว่าเข้มข้นสาแก่ใจ เนื้อมูสช็อกโกแลตมีความหวานขมพอดี ตัดรสเค็มนิดๆ ของ Salted Caramel มั่นใจได้ว่าจานนี้จะถูกใจสาวกช็อกโกแลตเหมือนเราไม่น้อย
ส่งท้ายกันด้วย Lemon, Lemongrass Ginger & Ginkgo Crepe Brülée (380 บาท) เครปบรูเลหวานฉ่ำอุ่นๆ ที่ถูกตัดรสด้วยซอสเลมอนสุดจี๊ดจ๊าด ถือเป็นจานของหวานที่ตัดเลี่ยนได้ดีเลยล่ะ
Good For
Proper เหมาะจะเป็นที่แฮงเอาต์สบายๆ กับเพื่อนหลังเลิกงาน รวมถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้ชวนเพื่อนมากันหลายๆ คน เพราะเชื่อเถอะว่าคุณจะอยากลองไปเสียทุกเมนู หรือถ้าใครอยากจะจัดไพรเวตปาร์ตี้ที่นี่ก็รองรับอีกเช่นกัน นอกจากดินเนอร์แล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟบรันช์อีกด้วย โดยจะมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-15.00 น. เรียกว่าสามารถมานั่งชิลจิบไวน์ได้ตั้งแต่หัววันเลยล่ะ
Proper
Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น., บรันช์เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-15.00 น.
Address: สุขุมวิท ซอย 31
Tel: 08 1145 3856
Budget: เริ่มต้นที่ 280 บาท
Map: https://maps.app.goo.gl/LTBUABf2oK4e8UeA9