อีกไม่กี่วัน City Run ‘Eco-Life Running on Tour’ งานวิ่งสนุกๆ ที่ทาง THE STANDARD LIFE จับมือกับ ON Running ชวนผู้อ่านไปลองวิ่งชมเมืองเพลินๆ แบบ Eco-Running ที่จะให้ทั้งความรู้เรื่อง Eco-Life พร้อมฮอปปิ้งตามคาเฟ่และร้านอาหารชิมเมนูพิเศษอร่อยๆ ไปพร้อมกัน กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ทว่าก่อนไปถึงวันนั้น เราอยากให้หลายคนโดยเฉพาะนักวิ่งมือใหม่เตรียมตัวให้พร้อม เพราะการวิ่ง City Run ถือเป็นการผจญภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเยอะมาก และนี่คือ 7 ทริกเตรียมตัวก่อนวิ่ง City Run ว่าต้องเตรียมอะไร และพกอะไรไปบ้าง
1. ทำความรู้จักเส้นทาง
แม้เสน่ห์ของการวิ่ง City Run คือได้ออกไปผจญภัยตามซอกซอยต่างๆ ได้ชมเมืองและพบเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่นักวิ่งก็ควรทำความรู้จักเส้นทางก่อนไปวิ่งเสมอ เพราะการศึกษาเส้นทางวิ่งย่อมทำให้รู้ว่า เราต้องเจออะไรบ้างระหว่างทาง เริ่มตั้งแต่พื้นฐานอย่าง ระยะทาง สภาพพื้นถนน มีจุดไหนที่ควรระวัง สามารถเข้าห้องน้ำที่ไหนได้บ้าง ไปจนถึงวิ่งเสร็จแล้วจะกินอะไรต่อดี? (ใครว่าอันนี้ไม่สำคัญ) ซึ่งทั้งหมดนอกจากจะทำให้คาดการณ์และเตรียมตัวล่วงหน้าได้แล้ว ยังช่วยให้เราหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงจุดอันตรายได้อีกด้วย
Tips: ทริกง่ายๆ ก็คือ ลองปักหมุดวางแผนเส้นทางง่ายๆ ใน Google Maps นอกจากจะเห็นภาพโดยรวมแล้ว ยังสามารถเช็กสภาพถนนและการจราจรที่ต้องวิ่งผ่านได้
2. เลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสม
ปัจจุบันมีรองเท้าวิ่งหลากหลายแบรนด์ แต่ใช่ว่าทุกคู่จะถูกออกแบบให้เหมาะกับการวิ่ง City Run เช่น รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าค่อนข้างสูง รองเท้าพื้นเรียว หรือพื้นที่ใต้เท้าน้อย เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขาพลิกได้ ฉะนั้นควรเลือกรองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึกทะมัดทะแมง มีโฟมหนาไว้ซัพพอร์ตเท้าแต่ไม่ต้องขนาดใส่แล้วรู้สึกสูงขึ้น เคลื่อนไหวได้คล่องตัว ใส่แล้วไม่กลัวการลงน้ำหนัก หลีกเลี่ยงรองเท้าสีขาว เพราะเราไม่รู้ว่าระหว่างต้องเจอกับดักทางเท้าใดบ้าง
Tips: ถ้าไม่รู้ว่าคู่ไหนเหมาะหรือไม่เหมาะ แนะนำให้เลือกคู่ที่เขียนว่า All Terrain แปลว่าใส่ลุยได้ทุกสภาพพื้น ดอกยางจะได้ไม่สึกไว
3. วิ่งสบายๆ แบบ Happy Pace
เพซ (Pace) คือความเร็วในการวิ่งที่คำนวณจากเวลาต่อ 1 กิโลเมตร ฉะนั้น Happy Pace จึงหมายถึงการวิ่งที่สบายๆ ชิลๆ ไม่ต้องเร่งรีบ การวิ่ง City Run ไม่จำเป็นต้องทำเวลาดีที่สุด เพราะความสนุกของการวิ่ง City Run ไม่ใช่การทำความเร็ว แต่เป็นการชมเมือง ได้เจอกับสถานที่แปลกใหม่ ผู้คนหลากหลาย นอกจากตื่นตากับวิวเมือง นักวิ่งยังต้องโฟกัสกับพื้นผิวถนนมากขึ้น ฉะนั้นวิ่งให้ช้าลงหน่อย เพื่อความปลอดภัยของตัวนักวิ่งเองและคนอื่นด้วย
Tips: ปกติวิ่งอยู่เพซเท่าไร เวลาวิ่ง City Run ให้ลบออกไป 1 เช่น ปกติวิ่งด้วยเพซ 6 เวลาวิ่ง City Run ก็ประมาณเพซ 7-8
4. ปักจุดเติมน้ำและเกลือแร่
นักวิ่งบางคนสามารถวิ่งได้เป็นสิบๆ กิโลเมตรโดยไม่ต้องดื่มน้ำ แต่ส่วนใหญ่แล้วการจิบน้ำระหว่างวิ่ง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำแล้ว ยังเพิ่มกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ แก่นักวิ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ชอบถืออะไรให้รุงรัง เราแนะนำให้เลือกเส้นทางที่ผ่านร้านค้า สามารถเติมเชื้อเพลิงระหว่างทาง จะได้ไม่คอแห้งกลับบ้านเหมือนเพิ่งผ่านทะเลทรายมา
Tips: ดื่มน้ำสลับกับเกลือแร่ ช่วยให้โอกาสเกิดตะคริวน้อยกว่าการดื่มน้ำเพียวๆ
5. อย่าลืมพกของส่วนตัวไปด้วย
แม้การวิ่ง City Run จะไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์มากมายเหมือนไปวิ่งเทรล แต่เพื่อการวิ่งที่สนุก เราแนะนำให้คุณพกไอเท็มเหล่านี้ติดตัวไปด้วย เช่น หมวก แว่นตากันแดด กระเป๋าใส่โทรศัพท์สำหรับใครอยากพกโทรศัพท์ เลือกได้ทั้งแบบคาดเอวหรือรัดต้นแขน เอาตามที่ตัวเองถนัด ขวดน้ำเล็กๆ สำหรับคนที่พกไหว และสุดท้ายคือนาฬิกา นอกจากจะช่วยบันทึกสถิติเก็บไว้ดูความก้าวหน้าของตัวเองแล้ว บางรุ่นยังสามารถดาวน์โหลดเส้นทางวิ่งที่เราเตรียมไว้มาดูได้อีกด้วย อ้อ ถ้าให้ดี อย่าลืมพกบัตรประชาชนและเศษเงินสดติดไว้ด้วย เผื่อไว้เหตุฉุกเฉิน ซื้อน้ำ หรือแวะกินหมูปิ้งข้างทาง
Tips: ศึกษาเส้นทางก่อนพก จะทำให้เราพกสิ่งของน้อยลง และที่สำคัญควรหาถุงซิปล็อกใส่โทรศัพท์ไว้อีกชั้นเพื่อกันความชื้น แม้พนักงานที่ร้านจะบอกว่ากระเป๋ารุ่นนี้กันเหงื่อกันน้ำก็ตาม
6. ไปเป็นแก๊งสนุกกว่า
ความสนุกของการวิ่ง City Run คือการไปเป็นทีม บอกได้เลยว่าสนุกกว่าการไปวิ่งคนเดียวเป็นไหนๆ โดยเฉพาะตอนที่พากันเลี้ยวผิดซอยนี่แหละ หรือจะหาธีมสำหรับการวิ่งในแต่ละครั้ง เช่น วันนี้จะไปวิ่งรีวิวร้านอาหารหรือร้านกาแฟแถวบ้าน อย่างน้อยถ้าการวิ่งยังจูงใจได้ไม่พอ ขอให้อาหารเยียวยาคุณเอง นอกจากไปเป็นแก๊งจะสนุกกว่าแล้ว ยังมีคนช่วยดูแลยามเกิดอุบัติเหตุ อย่าลืมว่า City Run ไม่ใช่การวิ่งในสนาม แต่ถนนและทางเท้าเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
Tips: หากหลอกล่อแก๊งด้วยการวิ่งไม่ได้ ให้ใช้อาหารเป็นจุดขาย วิ่งไปกินตรงโน้นตรงนี้เดี๋ยวก็มีคนหลงตามมาเองแหละ ไหนๆ ไปวิ่งกันหลายคน ช่วยกันดูเวลาข้ามถนนด้วย หลายตาดีกว่าคู่เดียวเสมอ
7. อย่าเปิดเพลงดังไป ‘ฟังเสียงเมือง’ ด้วย
การฟังเพลงหรือพอดแคสต์ไปด้วยขณะวิ่ง ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น สามารถวิ่งได้เพลินๆ โดยที่ร่างกายไม่รู้สึกเหนื่อย (หรือเปล่า?) เหล่านักวิ่งจึงชอบเปิดเพลย์ลิสต์ส่วนตัว หาอะไรฟังเพลินๆ ขณะวิ่ง แต่! การวิ่ง City Run ไม่ได้แวดล้อมด้วยสิ่งแวดล้อมไร้กังวลขนาดนั้น ข้างทางเต็มไปด้วยรถยนต์ มีฝูงชน คนเดิน หรือสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เต็มไปหมด ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เราไม่ได้ห้ามให้คุณไม่ฟังเพลงโปรด แต่การฟังเสียงเมืองด้วยย่อมดีกว่า เปิดให้พอได้ยินเสียงแตรของรถยนต์ หรือเวลามีคนทักเตือนว่า “เชือกรองเท้าหลุดแล้ว” ด้วย
Tips: เปลี่ยนจากฟังเพลงมาเป็นชวนเพื่อนคุย พูดเรื่องเส้นทางวิ่ง ร้านที่จะไปกิน หรือหัดอิ่มเอมกับข้างทางให้มาก แล้วจะพบว่าสิ่งแวดล้อมสองข้างทางที่เปลี่ยนไป เป็นเสน่ห์การของวิ่ง City Run
ภาพ: Shutterstock