หุ้นกลุ่ม JMART บวกยกแผง หลังแม่ทัพใหญ่เคลียร์ปมเทขายหุ้นบิ๊กล็อตให้นักลงทุนสถาบันว่าเป็นเพราะถูก Margin Call พร้อมยันเดินหน้าธุรกิจตามแผน
ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่ม JMART จำนวน 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART, บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท ประเทศไทย หรือ J, บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT, บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER และ บมจ.เอสจี แคปปิตอล หรือ SGC ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้าในช่วงการซื้อ-ขายภาคเช้าวันนี้ (20 กุมภาพันธ์) หลังวานนี้ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JMART ออกโรงชี้แจงการขายหุ้นบิ๊กล็อตจำนวนรวม 54 ล้านหุ้น ที่ราคาขาย 26.50 บาท เมื่อวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566
โดยวันนี้หุ้น JMART ปิดการซื้อ-ขายที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 6.42%
หุ้น JMT ปิดการซื้อ-ขายที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.64%
หุ้น J ปิดการซื้อ-ขายที่ 3.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.68%
หุ้น SINGER ปิดการซื้อ-ขายที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท หรือ 13.29%
หุ้น SGC ปิดการซื้อ-ขายที่ 3.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.22%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘อดิศักดิ์’ เปิดใจขาย Big Lot หุ้น JMART เหตุโดน Margin Call จริง แจงเป็นปัญหาส่วนตัวไม่กระทบบริษัท ยันมีฐานทุนแข็งแรง
- “นี่เป็นราคาที่เราพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย” เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยกล่าวหลัง Jaymart ควักเงิน 1.2 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 30% เผยปีหน้าเล็งขยายไปสระบุรี สุพรรณบุรี และโคราช
- ‘JMART’ แจงหุ้นใหญ่ ‘อดิศักดิ์-ยุวดี’ ขายบิ๊กล็อตรวม 54 ล้านหุ้นให้นักลงทุนสถาบัน ไม่กระทบการบริหาร พร้อมซื้อบิ๊กล็อต BKD 9.20% ลุยธุรกิจรับเหมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงรายการกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ราคาขาย 26.50 บาท ช่วงวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวนรวม 54 ล้านหุ้น โดยเป็นการขายในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งหมด 2 ราย คือ
- อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ขายหุ้น 14 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.96% ส่งผลถือหุ้นลดลงจาก 13.41% เหลือสัดส่วน 12.45%
- ยุวดี พงษ์อัชฌา ขายหุ้น 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.75% ส่งผลถือหุ้นจาก 7.61% เหลือสัดส่วน 4.86%
ขณะเดียวันเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บมจ.เอสจี แคปปิตอล หรือ SGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บุษบา กุลศิริธรรม ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทและกรรมการผู้จัดการ เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว
การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทจะเร่งดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทและกรรมการผู้จัดการแทนตำแหน่งดังกล่าวที่ว่างลง
โดย SGC เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2665 ด้วยราคา IPO ที่ 3.90 บาท