วานนี้ (1 ธันวาคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา เผยว่า เขาอาจตัดสินใจเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย หากผู้นำรัสเซียต้องการจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ขณะนี้ดำเนินมานานกว่า 9 เดือนแล้ว เพียงแต่ว่าปูตินยังไม่ส่งสัญญาณหรือแสดงท่าทีเหล่านั้นให้เห็นแต่อย่างใด
การประกาศจุดยืนของผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้มีขึ้นขณะที่ไบเดนกำลังต้อนรับการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ไบเดนก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 2021
โดยการเดินทางเยือนครั้งนี้เป็นไปเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และฝรั่งเศสให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมประสานความร่วมมือและผลประโยชน์ในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุน การรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการส่งมอบความช่วยเหลือให้กับยูเครนที่กำลังตกอยู่ในสมรภูมิสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างรัสเซีย
ทั้งไบเดนและมาครงต่างเป็นผู้นำประเทศที่มีบทบาทสำคัญไม่น้อยในการสนับสนุน และส่งมอบความช่วยเหลือทั้งด้านการทหารและด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่งจะเตรียมจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีก 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.87 พันล้านบาท) ช่วยรัฐบาลยูเครนรับมือวิกฤตขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูหนาว หลังถูกกองทัพรัสเซียเดินหน้าโจมตีแหล่งผลิต และแจกจ่ายพลังงานที่สำคัญภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: Kevin Dietsch / Getty Images
อ้างอิง:
