‘CPN’ เผยไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,154% จากการฟื้นตัวธุรกิจโรงแรม-การบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า เดินหน้าตามแผน 5 ปี มุ่งบริหารจัดการค่าใช้จ่าย เพิ่มสภาพคล่องการเงิน พร้อมศึกษาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN กล่าวว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายลง ประกอบกับนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้บรรยากาศการการจับจ่ายกลับมาคึกคัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- CPN ทุ่ม 1.4 หมื่นล้านบาท ลงทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ เซ็นทรัลนครสวรรค์ และ เซ็นทรัลนครปฐม เคาะเปิดไตรมาส 1-2 ปี 2567
- CPN เปิดแผน 5 ปี ลงทุน 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มศูนย์การค้าและพัฒนามิกซ์ยูส ดันสัดส่วนรายได้โครงการมิกซ์ยูสแตะ 30%
- เปิดแล้ว โรงแรม Centara Korat จิ๊กซอว์สุดท้ายในโครงการมิกซ์ยูสหมื่นล้าน ‘เซ็นทรัล โคราช’ การลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในอีสานของ CPN
เช่นเดียวกับบริษัทได้มีรายได้เพิ่มมาจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ศรีราชา, เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล จันทบุรี รวมถึงการเข้าซื้อบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น 13% ทำให้ภาพรวมรายได้ธุรกิจให้เช่าและบริการเติบโตขึ้น และที่สำคัญบริษัทได้บริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/65 บริษัทมีรายได้รวม 9,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,154%
สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2565-2569) บริษัทเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้วและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม Mixed-Use Development โครงการที่พักอาศัย ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัว 2 โครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ เซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม รวมมูลค่าลงทุน 14,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณไตรมาส 1-2 ปี 2567
นอกจากนี้เตรียมเปิดให้บริการโรงแรม Centara Korat ภายในโครงการมิกซ์ยูสหมื่นล้าน เซ็นทรัล โคราช ในเดือนกันยายน 2565 ตามแผน ซึ่งลงทุนและพัฒนาโดยเซ็นทรัลพัฒนา และบริหารโดย Centara Hotels & Resorts เป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ของบริษัท และเปิดขายคอนโดมิเนียม Escent Ville สุราษฎร์ธานี
รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน ควบคู่กับการศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการและการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่
ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนาบริหารจัดการศูนย์การค้ารวมทั้งหมด 39 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพลานาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกาบางนา และคอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร