TASTE: ‘ข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร’ เพื่อนคู่คิดยามหิวจากครัวสุพรรณิการ์

หลังจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์และอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารและดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ เราเห็นถึงการปรับตัวของร้านต่างๆ ที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับสุพรรณิการ์กรุ๊ป ซึ่งเดิมมีร้านอาหารในเครืออย่าง ‘สุพรรณิการ์’ และ ‘ส้มตำเด้อ’ อยู่ก่อนแล้ว ต่อมาก็ได้ขยายแบรนด์ข้าวคั่วพริกเกลือเดลิเวอรี ‘สุดคั่ว บาย สุพรรณิการ์’ และล่าสุดกับป๊อปอัพข้าวต้มกุ๊ย ‘รวยมิตร’ ที่อยู่ใต้ชายคาเดียวกับห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ ทองหล่อ หากแต่ปรับบรรยากาศชั้น 2 ให้มีชีวิตชีวาและเป็นใจสำหรับการพุ้ยข้าวต้มมื้อดึกมากขึ้น

รวยมิตร เกิดขึ้นจากความต้องการทำแบรนดิ้งร้านอาหารที่เป็น Everyday Dining และด้วยความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทย ไอเดียของร้านข้าวต้มกุ๊ยจึงผุดขึ้นมา ช่วงแรกยังไม่มีแบรนด์แยกออกมา เน้นทำข้าวต้มแห้งสำหรับเดลิเวอรีเป็นหลัก

ซึ่งเมื่อเปลี่ยนไปทำข้าวต้มกุ๊ยจึงพบจุดขายที่โดดเด่นและควรแตกแบรนด์ใหม่ จึงเกิดเป็นแบรนด์รวยมิตรในที่สุด ซึ่งที่มาของชื่อเป็นการจับคำชนกันระหว่าง รวย – คำมงคลอวยพรที่ติดปากคนไทย กับมิตร – เพื่อนฝูง

ด้วยความที่เป็นร้านป๊อปอัพ จึงใช้พื้นที่ชั้น 2 ของห้องทานข้าวสุพรรณิการ์เป็นร้านชั่วคราว แต่ปรับโทนสีและตกแต่งใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศร้านข้าวต้ม โดยเน้นโทนสีเขียวที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องถ้วยชามจีน ตัดด้วยสีทองกับสีเหลือง และเสริมลูกเล่นด้วยป้ายไฟนีออนชวนถ่ายรูป ส่วนหน้าร้านถาวรจะเปิดที่สาทรเร็วๆ นี้

ความพิเศษของข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตรคือการใส่ใจและจริงจังกับวัตถุดิบ โดยเฟ้นหาของดีทั่วไทย เพื่อทำให้ข้าวต้มกุ๊ย อาหารข้างทางที่เราคุ้นเคย ให้ดูดีและสนุกมากขึ้น รวมถึงการต่อยอดกับข้าวที่คุ้นชินให้มีลูกเล่นที่พิเศษ รวมถึงการปรับเมนูทุก 3 เดือน เพื่อให้เมนูไม่น่าเบื่อ มีของใหม่ๆ คอยอัปเดตอยู่ตลอด

ตามชื่อร้าน รวยมิตร การรับประทานข้าวต้มกุ๊ยให้อร่อยต้องนั่งล้อมวงกันหลายคนจึงจะดีที่สุด เพราะจะได้สั่งกับข้าวหลายอย่างมาแบ่งกัน ใครที่มีเพื่อนเยอะก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะมีโอกาสสั่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น และทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครื้นเครง

กับข้าวที่นี่เน้นการปรุงแบบไทย-จีน ผัดไฟแรงให้เกิดกลิ่นหอมกระทะ ต้มและตุ๋นซุปต่างๆ ด้วยไฟอ่อนและใช้เวลานานเพื่อให้เครื่องเทศและส่วนผสมต่างๆ เข้าเนื้อ

เริ่มด้วยเมนูยอดนิยมสำหรับกินคู่ข้าวต้มอย่าง ยำเกี่ยมฉ่ายกุ้งแก้ว (150 บาท) ที่เพิ่มความพิเศษด้วยกุ้งแก้วตัวเล็กจากเพชรบุรี คั่วกรอบแล้วโรยหน้ายำเกี่ยมฉ่าย ตัวน้ำยำรสจัดจ้านไม่เบามือ ความรู้สึกเดียวกับเมื่อกินข้าวต้มข้างทาง

มาถึงจานที่ขาดไม่ได้ หอยลายผัดน้ำพริกเผา (200 บาท) และ หมูสับผัดหนำเลี้ยบ (150 บาท) ที่รวยมิตรคัดเฉพาะหอยลายดำตัวโตเต็มวัยจากเกาะลันตา ซึ่งเก็บโดยชาวประมงท้องถิ่นและต้องดำเก็บหอยทีละตัว เอกลักษณ์ของหอยลายที่นี่คือ ตัวโต เนื้อแน่น เต็มปากเต็มคำ ตักเนื้อหอยลายแล้วราดซอสน้ำพริกเผาขลุกขลิก ตามด้วยข้าวต้มคำใหญ่ นี่แหละสวรรค์ที่สัมผัสได้ ส่วนหมูสับผัดหนำเลี้ยบ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การผัดไฟแรงเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมกระทะ พร้อมใส่หนำเลี้ยบเยอะจุใจ เสิร์ฟพร้อมเครื่องยำเผื่อใครนิยมคลุกเคล้าก่อนรับประทาน

ไข่เยี่ยวม้าทองคำห่อหมูสับปลาเค็มทอด (180 บาท) อีกหนึ่งกับข้าวห้ามพลาด หมูสับปลาเค็มที่ทวิสต์ด้วยการนำไปห่อไข่เยี่ยวม้าแล้วทอด มาพร้อมเครื่องยำและมะนาวให้ปรุงรสเพิ่มตามความต้องการ จุดเด่นของจานนี้คือไข่เยี่ยวม้าทองคำ ไร้กลิ่นแอมโมเนีย และมีสีทองใส ไข่แดงสวย จากสูตรลับเฉพาะประจำตระกูลของผู้ผลิตไข่เยี่ยวม้า

น่องเป็ดทอดกระเทียมพริกไทย (220 บาท) ของดีประจำร้าน เพราะนำน่องเป็ดไปซูวีด์จนเนื้อนุ่ม จากนั้นทอดให้ผิวนอกเกรียม ส่วนเนื้อในยังคงความนุ่มไว้อยู่ กระเทียมทอดอย่าลืมกิน คลุกข้าวสวยก็เพลิน กินกับข้าวต้มก็อร่อย

สั่งกับข้าวหลายอย่าง อย่าลืมซุปร้อนๆ คล่องคอ สายข้าวต้มรอบดึกคงจะคุ้นเคยกับต้มเกี่ยมบ๊วยหมูสับ เราอยากให้ลองอีกเวอร์ชัน นั่นคือ หมูสับต้มอุเมะ (120 บาท) ซึ่งใช้บ๊วยญี่ปุ่นแทนที่ ได้ความหอมหวานเพิ่มเข้ามา จากน้ันนำไปต้มกับน้ำสต๊อกกระดูกหมู ใส่เห็ดหอมสด หมูสับ และพริกไทยเป็นอันเสร็จพิธี

กะหล่ำปลีผัดปลาเค็มไฟแดง (120 บาท) ทวิสต์จากผัดผักไฟแดงทั่วไปด้วยการผัดพร้อมปลาอินทรีเค็มส่งตรงจากเกาะช้าง เมื่อผัดกับไฟแดงกะหล่ำปลีก็ยิ่งเพิ่มรสชาติอีกเท่าตัว

ไล่เรียงดูเมนูผัดไข่ แนะนำ ไข่เจียวไชโป๊ (120 บาท) ไชโป๊หวานใส่แบบไม่ยั้งในไข่เจียว คีบเพลินแบบไม่ต้องพึ่งซอสพริก อีกจาน ปลาหมึกแห้งผัดไข่ (150 บาท) หมึกกล้วยตากแห้ง แช่น้ำ จากนั้นผัดไฟแรงกับไข่ ใส่พริกและเกลือหิมาลัย คั่วให้เข้ากันจนกลิ่นหอมตีขึ้นกระทะ รสเค็มๆ เผ็ดๆ เข้ากับข้าวต้มที่สุด

กับข้าวเยอะขนาดนี้แน่นอนว่าข้าวต้มเพียงถ้วยเดียวคงไม่อยู่ท้อง รวยมิตรจึงออกโปรโมชันถาวร เติมข้าวต้มหอมมะลิใบเตยได้ไม่อั้นในราคาเดียว หัวละ 25 บาทอีกด้วย