วานนี้ (4 มกราคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าจำนวนยอดผู้ติดโควิดภายในประเทศจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์แห่งความท้าทายกำลังจะมาถึงในไม่ช้า หลังยอดติดเชื้อรายใหม่เพิ่มทะลุ 1 ล้านรายภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อวานที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอน
โดยไบเดนพยายามกระตุ้นให้พลเมืองอเมริกันใช้ข้อได้เปรียบที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าผลักดันการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อรับมือการติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มที่ตรวจหาเชื้อให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบุว่า “ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด”
นอกจากนี้ทางการสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มการสั่งซื้อยาเม็ดรักษาโควิดอย่าง แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จาก Pfizer จาก 10 ล้านคอร์สเป็น 20 ล้านคอร์สอีกด้วย แม้ทางการสหรัฐฯ จะสามารถลดจำนวนผู้ที่ยังไม่เข้ารับวัคซีนโควิดจาก 90 ล้านราย ลดลงเหลือ 35 ล้านรายได้ภายใน 6 เดือน แต่ 35 ล้านรายก็ยังคงเป็นจำนวนที่มากพอที่จะให้สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศรุนแรงขึ้นมาอีก
“คุณตื่นตัวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอนได้ แต่อย่าตื่นตระหนก แต่ถ้าคุณยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน คุณอาจมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้คุณอาจรู้สึกตื่นตระหนก เพราะพวกคุณอาจมีอาการรุนแรงภายหลังจากการติดเชื้อ ถ้าคุณติดโควิดขณะที่คุณยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน คุณอาจจะเสียชีวิตได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้นได้โปรดไปเข้ารับการฉีดวัคซีนตอนนี้”
สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสม 56.3 ล้านราย ติดเชื้อเพิ่มในช่วง 28 วันที่ผ่านมาสูงถึง 6.9 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 8.25 แสนราย มากเป็นอันดับที่ 1 ในประชาคมโลก พลเมืองราว 206 ล้านราย หรือคิดเป็น 62.2% ของพลเมืองทั้งหมดเข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว ในจำนวนนี้ 34.7% เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก Omicron โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล
- A Pandemic of the Unvaccinated คืออะไร ทำไมผู้ติดเชื้อในยุโรปถึงพุ่งอีกครั้ง
- เทียบประสิทธิภาพยาเม็ดรักษาโควิดของ Merck vs. Pfizer
ภาพ: Win McNamee / Getty Images
อ้างอิง: