Q: ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหนุ่มๆ หรือสาวๆ ก็ชอบออกกำลังกายด้วยกันทั้งนั้นค่ะ ทั้งเพื่อรักษาสุขภาพและรักษารูปร่าง แต่อย่างหนึ่งที่ไม่แน่ใจว่าเข้ามาอยู่ในความกังวลของเหล่าผู้ชายที่ชอบออกกำลังกายได้อย่างไร คือความสงสัยหนึ่งที่เจอเมื่อเสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่ว่า
“จริงหรือไม่ การออกกำลังกายมีผลทำให้อวัยวะเพศชายเล็กลง”
จึงอยากให้คุณหมอช่วยไขข้อสงสัยว่าจริงหรือไม่ และอะไรที่ทำให้เป็นแบบนั้น
A: สำหรับคำถามข้อนี้ ตอบได้เลยค่ะว่ามีทั้งส่วนที่จริงและไม่จริง
ส่วนจริงคือหากออกกำลังกายหนักมาก เลือดจะไปเลี้ยงส่วนกล้ามเนื้อแขนขา ทำให้ขณะและหลังออกกำลังกายใหม่ๆ จะดูเหมือนอวัยวะเพศชายและถุงอัณฑะมีขนาดเล็กลง
ส่วนที่ไม่จริงคือการเล็กลงนั้นจะเกิดกับคนที่ออกกำลังกายหนักเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่เป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดออกกำลังกาย ขนาดก็จะกลับมาเป็นปกติ
มีคำถามที่ถามต่อว่าจริงหรือไม่ที่การออกกำลังกายทำให้อวัยวะเพศชายใหญ่ยาวขึ้น นี่ก็เป็นความเชื่อที่ไม่จริงอีกเช่นกัน การออกกำลังกายไม่ทำให้อวัยวะเพศชายใหญ่ยาวขึ้น เนื่องด้วยโครงสร้างของอวัยวะเพศชายประกอบด้วยเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำเป็นโพรงภายในที่ทำให้เลือดเข้าไปคั่ง ทำให้แข็งตัว มีสามมัด สองมัดแรกที่อยู่ด้านบนคือ กล้ามเนื้อคอร์ปัส คาเวอร์โนซัม (Corpus cavernosum) อีกหนึ่งมัดด้านล่าง ได้แก่ กล้ามเนื้อคอร์ปัส สปอนจิโอซัม (Corpus spongiosum) ซึ่งอยู่ระหว่างกลางของกล้ามเนื้อสองมัดแรก เนื้อเยื่อเหล่านี้ไม่ขยายตัวขึ้นจากการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม อวัยวะเพศชายอาจมีขนาดเล็กลงชั่วคราวจากการที่มีเลือดไปเลี้ยงลดลง
นอกจากการออกกำลังกายหนักแล้ว ความกลัว เครียด วิตกกังวล ก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้ ดังเช่นประติมากรรมหินอ่อนแกะสลักรูปเดวิด (Michelangelo’s David) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งแสดงอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ก็มีการตั้งสมมติฐานว่าทำไมอวัยวะเพศชายจึงมีขนาดเล็ก นอกจากธรรมเนียมสมัยกรีกโบราณที่นิยมขนาดเล็กแล้ว การมีอวัยวะเพศชายใหญ่โตแสดงถึงความหยาบกระด้าง เกเร ไม่ใช่ผู้ดี จากสีหน้าของเดวิดเชื่อว่าเขากำลังกลัวและเครียดที่ต้องต่อสู้กับยักษ์โกไลแอท (Goliath) พลอยทำให้จู๋และอัณฑะหดไปด้วย
ที่น่าทึ่งคือแม้การออกกำลังกายไม่เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย แต่เพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sexual Medicine 2015 [3] ยืนยันว่าเมื่อควบคุมปัจจัยอื่นๆ เช่น ชาติพันธุ์และอายุของผู้เข้าร่วมงานวิจัยจำนวนเกือบ 300 คนแล้ว การออกกำลังกายหนักเพิ่มประสิทธิภาพในการมีเซ็กซ์ ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว หลั่งได้ดี เพิ่มความถี่และคุณภาพในการมีเซ็กซ์ โดยต้องออกกำลังกายประมาณ 18 MET (หน่วยของพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหว ออกแรง ออกกำลังกาย และเวลาที่ใช้) ต่อสัปดาห์ ส่วนชายที่ออกกำลังกายน้อยกว่านั้น รวมทั้งชายที่มีอายุมากหรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ สูบบุหรี่ คุณภาพและความถี่ของเซ็กซ์จะลดลง
อย่างไรก็ตาม ขนาดอวัยวะเพศชายเป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมและสังคมว่าสัมพันธ์กับความเป็นชายและประสิทธิภาพทางเพศ ขนาดปกติเมื่ออวัยวะเพศชายอ่อนตัวจะยาว 7-13 เซนติเมตร หากยาวต่ำกว่า 7 เซนติเมตรจึงถือว่าเล็ก (Micropenis) ชายที่มีความกังวลกับขนาดมากมักจะไม่มีความสุขด้านเซ็กซ์ ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีขนาดเล็ก
ชายเหล่านี้มักลงเอยด้วยการหาวิธีเพิ่มขนาด เช่น ปรึกษาแพทย์เพื่อผ่าตัดเสริมขนาด ดูดไขมันที่หัวหน่าวออก ฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดไขมันเข้าไปในอวัยวะเพศชาย เลือกใช้เครื่องมือปั๊มขนาด เป็นต้น บางคนถึงกับฉีดสารอันตราย เช่น พาราฟิน น้ำมันมะกอก น้ำมันมวย ซึ่งเกิดอันตรายเป็นสารตกค้าง ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อีก ต้องไปผ่าตัดแก้ไข
สำหรับชายที่วิตกกังวลกับขนาดมากจนไม่กล้าให้ใครเห็นอวัยวะเพศชายของตนเองในห้องน้ำหรือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า คอยวัดเปรียบเทียบกับขนาดของชายอื่น กลัวการมีเซ็กซ์ เมื่อมีเซ็กซ์ก็ไม่กล้าให้คู่นอนเห็น ต้องปิดไฟมืด มีเซ็กซ์ที่ไม่สุขสมเพราะเครียดเรื่องขนาด ย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องหาวิธีเพิ่มขนาดถือว่าไม่ปกติ ควรพบจิตแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Veale D, Miles S, Bramley S, Muir G, Hodsoll J. "Am I normal? A systematic review and construction of nomograms for flaccid and erect penis length and circumference in up to 15,521 men". BJU International 2015 ;115 (6): 978–986.
- Veale D, Miles S, Read J, Troglia A, Wylie K, Muir G. Sexual Functioning and Behavior of Men with Body Dysmorphic Disorder Concerning Penis Size Compared with Men Anxious about Penis Size and with Controls: A Cohort Study. Sex Med . 2015; 3(3): 147–155.
- Simon RM, Howard L, Zapata D, Frank J, Freedland SJ, Vidal AC. The Association of Exercise with Both Erectile and Sexual Function in Black and White Men. The Journal of Sexual Medicine 2015;12(5):1202-10.