วันนี้ (30 เมษายน) กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้า แถลงข่าวที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชี้แจงและตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นคลายล็อกเปิด 6 กิจกรรม ว่า
“กรณีร้านอาหารพวกหาบเร่แผงลอยเปิดได้ทั้งหมด แต่ต้องทิ้งระยะห่าง แต่ละร้านควรห่างกันไม่ต่ำกว่า 1 เมตร คนขายควรใส่หน้ากาก คนซื้อควรใส่หน้ากากเช่นเดียวกัน ถ้ามีเจลล้างมือยิ่งดีเข้าไปใหญ่”
ในตลาดร้านเสื้อผ้าขายได้ แต่ต้องจัดระยะห่าง จากเดิมที่ให้ขายอาหารอย่างเดียว
ส่วนคำถามว่า ไปครอบครัวเดียวกัน มีนโยบายอย่างไร ครอบครัวเดียวกันไปทานอาหารในโต๊ะเดียวกันได้หรือเปล่านั้น
“คงต้องทิ้งระยะห่าง 1 เมตร ถ้าเป็นไปได้ต้องเอาของไปกินที่บ้านเหมือนเดิมก่อนในช่วงนี้
“คือตอนนี้ที่ประกาศคือร้านอาหารทั่วไป คำจำกัดความคือไม่เกิน 2 คูหา ร้านอาหารใหญ่ๆ ยังไม่เปิด ไว้เป็นเฟสถัดไป ถ้าติดแอร์ เป็นไปได้มีเครื่องดูดอากาศออกหน่อยก็จะเป็นประโยชน์ แต่เราจะมีมาตรการหลักและมาตรการเสริมให้ และจะมีคู่มือออกให้ด้วย เป็นคู่มือกลาง และร้านอาหารในห้างสรรพสินค้ายังไม่เปิด” กลินท์กล่าว
นักข่าวถามด้วยว่า ร้านอาหารประเภทสุกี้-ชาบูเปิดได้หรือไม่
กลินท์กล่าวว่า “เปิดได้ แต่ลำบากหน่อย ต้องกินคนเดียว อาจจะหม้อเล็กหน่อย กินคนเดียว มาเป็นครอบครัวก็นั่งหลายๆ โต๊ะ ลำบากหน่อย”
ทั้งนี้ วิธีการปฏิบัติที่มองตอนนี้คือ ยังอยากให้ซื้อกลับไปทานที่บ้านอยู่เหมือนเดิม ถ้าจะเปิด ไปเป็นครอบครัวก็ต้องนั่งแยกกัน
ส่วนถนนคนเดินก็ขอให้ผู้ประกอบการทิ้งระยะห่างด้วยอย่างน้อย 1 เมตร และควรใส่หน้ากากอนามัย คนจัดสถานที่อาจจะต้องเผื่อระยะสักหน่อย อาจจะเว้นให้มากขึ้น ให้มันแตกต่างจากปกติที่ทำอยู่
ขณะที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ถ้าระหว่างนี้ประชาชนช่วยกัน หน่วยงานภาคเอกชนยังไม่เลิก Work from Home พยายามหลีกเลี่ยงการออกมาสู่ที่ชุมชน ที่สาธารณะ ถ้าดำเนินการได้ดีใน 14 วัน จำนวนผู้ป่วยใหม่ไม่น่าเพิ่มเกิน 20-30 คน ก็สามารถดำเนินการเปิดในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไปได้”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล