ทุกวันนี้ชีวิตคนเมืองเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้อง ‘รับมือ’ มากมาย ทั้งสภาพแวดล้อมภายนอก มลพิษ ฝุ่นละออง การจราจรที่ติดขัด และภัยสังคมที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจ ก่อให้เกิดความเครียด บางคนนอนไม่หลับ และสุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาสุขภาพและผิวพรรณตามมา ทำให้สิ่งที่คนเมืองต้องทำนอกจากการ ‘รับมือ’ แล้ว ยังต้อง ‘รับฟัง’ เสียงของร่างกายและจิตใจให้มากขึ้นด้วย THE STANDARD มีโอกาสได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเคล็ดลับความงามและวิธี Work-Life Balance จากสองสาวเก่ง ผ้าป่าน-สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ และ บี-เอกนรี วชิรบรรจง ซึ่งเป็นหนึ่งใน Key Opinion Leader คนสำคัญของแบรนด์ THREE ที่จะมาช่วยตอกย้ำความสำคัญของการค้นหาสมดุลในชีวิตเพื่อการมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เธอจะมีเคล็ดลับอย่างไร ไปอ่านพร้อมกันเลย
ผ้าป่าน-สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ สาวร่างเล็กที่พกความเก่งกาจสไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน ทั้งอาชีพ Curator ภัณฑารักษ์อิสระ, ช่างภาพอิสระ และยังเป็นกรรมการสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หากใครติดตาม Instagram ของเธออยู่แล้ว จะทราบดีว่าไลฟ์สไตล์ในแบบของผ้าป่านเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สะท้อนถึงพลังงานด้านบวกผ่านหลายสิ่งที่เธอทำ การจะทำอะไรได้ขนาดนี้แบบไม่มีวันหมดแพสชัน เธอทำได้อย่างไร ไปฟังคำตอบของเธอกันเลย
“ป่านให้ความสำคัญเรื่องการดูแลอาหารการกินของตัวเองเป็นพิเศษ ส่วนตัวป่านจะมีปัญหาเรื่องการย่อย จึงต้องลดการทานเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแดง และเน้นไปทานผักผลไม้เป็นหลัก ป่านจะไม่ดื่มน้ำอัดลมเลย เครื่องดื่มจะเลือกดื่มเป็นชาหรือไม่ก็น้ำเปล่า ช่วงนี้ป่านทำ IF (Intermittent Fasting) 8 ชั่วโมง จากการที่ป่านได้อ่านบทความจากคุณหมอชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ทำให้รู้ว่าการปรับวิธีการทานอาหารเป็นแบบ IF จะสามารถป้องกันการเป็นอัลไซเมอร์ได้ด้วยค่ะ
“ส่วนการดูแลตัวเองด้านผิวพรรณ ป่านให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวมากๆ เพราะป่านเป็นคนผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวป่านจึงเป็นสกินแคร์ประเภทออยล์ต่างๆ เช่น น้ำมันนวดหน้า น้ำมันล้างหน้าหรือเครื่องสำอาง วันไหนถ้าต้องออกงาน ป่านจะใช้วิธีมาสก์หน้าก่อนสัก 10 นาที แล้วโบกด้วยครีมบำรุงตาม จะช่วยให้ผิวของป่านมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
“ส่วนเรื่องความเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เอาจริงๆ ป่านไม่เคยหนีความเครียดเลย ความเครียดที่น่ากลัวคือเราไม่รู้ตัวว่าเรากำลังเครียดอยู่ พอมารู้ตัวอีกทีก็เครียดไปแล้ว ส่งผลต่อร่างกายคือร่างกายพัง เราก็รู้ตัวนะว่าถึงเวลาที่ต้องแบ่งเวลาในการดูแลตัวเอง ต้องออกกำลังกาย ต้องทำสมาธิ และหัดอยู่กับตัวเอง ฝึกจิตกับลมหายใจไปด้วย มันคือวิธีบาลานซ์ตัวเองที่ได้ผล ป่านว่าการฟังเสียงของร่างกายตัวเองจะช่วยให้เราฟื้นคืนพลังขึ้นมาได้
“สำหรับป่าน ภาพลักษณ์ ความดูดี มันก็สำคัญในแง่ที่ว่ามันเป็นสิ่งที่คนจะเห็นเราเป็นอย่างแรก เรียกว่าเป็น First Impression เมื่อเราปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น เราต่างก็มีภาพลักษณ์ในแบบของเรา แต่ป่านคิดว่าภาพลักษณ์เหล่านั้นไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เพราะสิ่งที่สำคัญมากกว่าที่เราต้องดูแลและบาลานซ์ให้ได้คือสิ่งที่อยู่ข้างในใจของเรามากกว่า ถ้าถามว่าความสวยหล่อของคนมันมีความหมายไหม สำหรับป่านความสวยหล่อคือการที่คุณดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์หรอก แต่มันอยู่ที่เสน่ห์ที่สื่อออกมาผ่านทางคำพูด ตัวตน สิ่งที่คุณเป็น และความคิดของคุณ”
อีกหนึ่งสาวตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็น Working Women ไม่แพ้กันคือ บี-เอกนรี วชิรบรรจง เธอคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นั่นเอง หลังกลับจากเมืองนอก เธอก็มาลุยงาน Line Producer ทันที แม้งานจะยุ่งแค่ไหน แต่ก็ไม่ลืมดูแลตัวเองเป็นอย่างดีในทุกมิติ
“การดูแลตัวเองเรื่องการกิน ต้องบอกว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนอยู่ออสเตรเลียจะเป็นสายกินคลีนเลยค่ะ แล้วก็ออกกำลังกายเยอะมาก บีชอบแสงแดดมาก อยู่เมืองนอกนี่จะขี่จักรยานไปทำงานตลอด พอกลับมาอยู่เมืองไทยก็มีงานในวงการบ้าง เช่นงานถ่ายแบบต่างๆ ทำให้ต้องหันกลับมาดูแลผิวหน้ามากขึ้น ส่วนเรื่องอาหาร ด้วยไลฟ์สไตล์ที่มีความเร่งรีบแบบคนเมือง ก็จะเน้นง่ายๆ แบบ Grab & Go ด้วยความที่แต่ก่อนออกกำลังกาย เลยรู้เรื่องโภชนาการอาหารค่อนข้างเยอะ เวลาจะเลือกทานอะไร ก็จะเลือกเฉพาะสิ่งที่ไม่ทำร้ายร่างกาย นอกจากเรื่องอาหารแล้วยังต้องจัดสรรเวลาชีวิตด้วย โดยเฉพาะเรื่องการนอนก็สำคัญ
“วิธีบาลานซ์ชีวิตในแบบของบี จะพยายามหาเวลาให้ตัวเอง บีเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่งเขาบอกว่า Let’s yourself be bored for a while เราควรปล่อยให้ตัวเองว่างบ้าง แล้วทำอะไรสนุกๆ เช่นคุยกับหมา หรือทำอะไรก็ได้ที่สบายใจ ช่วยให้จิตใจไม่ว้าวุ่น”
ภาพ: Courtesy of Brand, @Pahparnsirima, @bewachi/ Instagram
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า