วันนี้ (11 ก.ค.) พรรคเสรีรวมไทย ทำการส่งจดหมายร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้พิจารณาวินิจฉัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 3 (สายสามัญประจำปีครั้งที่ 1) และการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2562 เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 159 วรรคสอง และมาตรา 272 วรรคแรก หรือไม่ โดยมีข้อความระบุได้ว่า
“ข้าพเจ้า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีรวมไทย ได้รับเชิญให้เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 3 (สายสามัญประจำปีครั้งที่ 1) และการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2562 ในการประชุมดังกล่าว นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีรวมไทย ได้อภิปรายในวาระ (7) เรื่องอื่นๆ การเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 159 วรรคสอง
ซึ่งควรจะดำเนินการในที่ประชุม แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้บรรจุไว้ในวาระการประชุม ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรวินิจฉัยและดำเนินการให้ถูกต้อง แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมิได้วินิจฉัยและกล่าวปิดประชุมทันที ต่อมาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้ขออภิปรายเช่นเดียวกับนายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช และขอให้ประธานวินิจฉัย แต่ประธานไม่ยอมวินิจฉัย พร้อมกับดำเนินการประชุมต่อไป ในวาระ (5) เรื่องที่เสนอใหม่ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 จนเสร็จสิ้นการประชุม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนน 500 คะแนน ส่วน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ 244 คะแนน ประธานวุฒิสภาจึงนำชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอโปรดเกล้าฯ เพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
การที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกัน ดำเนินการประชุมโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 159 วรรคสอง และมาตรา 272 วรรคแรกดังกล่าว ทำให้ข้าพเจ้าถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพโดยตรง และได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ
เนื่องจากในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่บรรจุวาระการประชุมเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอชื่อบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับรอง ข้าพเจ้าในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงขาดโอกาสเสนอชื่อและรับรองบุคคล ซึ่งข้าพเจ้าเห็นสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ประธานรัฐสภากก็รวบรัดให้เสนอชื่อบุคคลเพียง 2 ท่าน เพื่อรับรองว่าเป็นบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อรับรองแล้วก็ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคแรกโดยทันที ทำให้บุคคลที่ข้าพเจ้าตั้งใจเสนอชื่อและรับรองขาดโอกาสได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าจึงถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ และได้รับความเสียหายตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
