มีเพลงจำนวนมากมายในประวัติศาสตร์โลกที่หยิบยกเอาเรื่องของ ‘ความรัก’ ขึ้นมาพูดถึงเป็นประเด็นหลักๆ ทั้งรักหวานซึ้ง รักช้ำๆ รักเขาข้างเดียว หรือจะรักตัวเองก็ตาม และคุณรู้หรือไม่ว่าในบรรดาเพลงรักเหล่านั้นมีเพลงจำนวนไม่น้อยที่หยิบเอาเครื่องดื่มสีสวยอย่าง ‘ไวน์’ ขึ้นมาอุปมาอุปไมยกับเรื่องความรักหรือเรื่องราวที่เพลงต้องการจะสื่อสารอยู่บ่อยครั้ง
และครั้งนี้ THE STANDARD ขอรวบรวม 7 บทเพลงน่าฟังที่ว่าด้วยเรื่องของไวน์มาไว้ให้คุณ และไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า เราขอให้ไวน์ในบทเพลงเหล่านี้ช่วยอธิบายความรู้สึกของคุณแล้วกัน
‘ไวน์’ แม็กซ์ เจนมานะ จากอัลบั้ม Let There Be Light (2017)
“เปลี่ยนไวน์ให้เป็นน้ำ เปลี่ยนฉันให้ไม่รักเธอคงไม่ได้”
สารภาพว่าแทบจะนึกเพลงไทยที่เกี่ยวข้องกับไวน์ไม่ได้เลย แต่เรานึกถึงเพลงนี้ของศิลปิน ‘แม็กซ์ เจนมานะ’ ขึ้นมาเพราะตัวเพลงเองชื่อ ‘ไวน์’ นั่นก็หมายถึงการเล่าเรื่องไวน์กันโต้งๆ เลย ว่าด้วยเรื่องของความรักที่เปรียบเปรยกับไวน์ และไอ้ครั้นจะเปลี่ยนไวน์ให้เป็นน้ำทำไม่ได้ฉันใด ก็คงเหมือนกับที่เปลี่ยนฉันให้ไม่รักเธอคงไม่ได้ฉันนั้น บาดลึกถึงความรู้สึกจริงๆ แถมยังเป็นมิติใหม่ๆ ของเพลงไทยที่หยิบยกเอาเครื่องดื่มแบบระบุชนิดมาเขียนเป็นเนื้อเพลง ถ้าเบื่อจะเข้าป่าแล้ว ลองฟังเพลงนี้ของแม็กซ์ เจนมานะ คู่กับจิบชาร์ดอนเนย์ดูสิ!
‘Sangria Wine’ – Pharrell Williams และ Camila Cabello (2018)
“Let’s float around like the fruit at the top”
เรียกว่าเป็นเพลงจากฝั่งอเมริกาเพลงล่าสุดที่พูดถึงตัวไวน์ได้อย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะการที่สาวคามิลาร้องเพลงนี้ทั้งเนื้อที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาสเปน เรารักท่อนที่ร้องว่า Let’s float around like the fruit at the top คือการชี้ชวนให้คนฟังไปสนุกกับเพลง ล่องลอยหมุนวนไปเหมือนกับผลไม้ที่ลอยอยู่เหนือแก้วแซงเกรีย และแน่นอนว่าเครื่องดื่มที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับดื่มระหว่างฟังเพลงนี้ก็ต้องเป็นแซงเกรียจากไวน์แดงรสเข้มอมผลไม้หอมๆ อย่างแน่นอน
‘Never Tear Us Apart’ – INXS จากอัลบั้ม Kick 30 (1987)
“If I hurt you, I’d make wine from your tears”
แค่ประโยคเดียวที่เพลงนี้อ้างอิงถึงไวน์ก็สั่นสะเทือนต่อมความรักของเราเหลือเกิน เพราะเรื่องราวของเพลงนี้กล่าวถึงความรักของคนสองคนที่ไม่มีอะไรมาพรากจากกันได้ โดยมีท่อนที่ร้องว่า ‘เราจะอยู่ด้วยกันเป็นพันๆ ปี แต่ถ้าฉันทำให้เธอเจ็บ ฉันจะเอาน้ำตาของเธอมาทำไวน์’ ลองนึกภาพตามคุณก็อาจจะพอเข้าใจกับความรู้สึกของการที่รักใครสักคนมากๆ รักมาก เสียจนแม้แต่น้ำตาของเขา เราก็ยังไม่อยากให้สูญค่าเลย แต่มันจะอร่อยเหรอ (ถ้าเวอร์ชันนี้เก่าไป เขามีอีกเวอร์ชันที่ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades Freed โดย บิชอป บริกส์ ด้วยนะ)
https://www.youtube.com/watch?v=E5kPK0f3cC8&feature=youtu.be
‘Wine and Woman’ – Bee Gees (1965)
“Wine and woman and song will only make me sad”
วง Bee Gees เองก็เคยมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับไวน์ อันว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชายเหงาๆ ที่ดูหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต โดยเขาเองกำลังพร่ำเพ้อถึงเรื่องราวต่างๆ รอบตัว และประโยคขึ้นต้นเพลงที่ว่า ‘Wine and woman and song will only make me sad. Love and kisses and hugs, the thing I never had’ ก็ได้เล่าเรื่องความเศร้าและความเหงาของชีวิตผู้ชายคนนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ทั้งยังมีการขยายความไปถึงเรื่องของอาการซึมเศร้าก็ย่อมได้ เพราะตัวละครในเพลงนั้นเศร้า ร้องไห้อยู่แทบตลอด ทั้งยังพูดถึงการจบความรู้สึกแบบนี้ เพราะเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอะไรอีกแล้ว โถ อย่าเศร้าขนาดนั้นเลย ดื่มไวน์ให้สบายใจดีกว่านะ ลองชีราซรสเข้มๆ ย้อมใจสักแก้ว เราบอกเลยว่าไม่เลว!
‘Scenes from an Italian Restaurant’ – Billy Joel จากอัลบั้ม The Stranger (1977)
“A bottle of white… a bottle of red… perhaps a bottle of rosé instead?”
ไม่น่าเชื่อว่าในประวัติศาสตร์โลกดนตรีจะมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับการไวน์แพริ่ง! ใช่ เพลงของบิลลี โจล เพลงนี้ที่ชื่อ ‘Scenes from an Italian Restaurant’ คือเพลงที่เล่าเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่กลับมาเจอกับคนรักเก่าในร้านอาหารอิตาเลียนที่เขาทั้งคู่ต่างคุ้นเคย มานั่งคุยกันถึงเรื่องคืนวันเก่าๆ อันหอมหวานที่เคยผ่านมาด้วยกัน ซึ่งในเพลงก็ทำให้เรานึกไปถึงบรรยากาศของร้านอาหารแบบอิตาเลียนจริงๆ และคิดดูว่าฝ่ายชายอยากเจอฝ่ายหญิงขนาดไหน เพราะเขาบอกว่าจะไวน์ขาวสักขวด ไวน์แดงสักขวด หรือโรเซไวน์ก็ได้แล้วแต่อาหารที่คุณสั่ง แค่บอกมาเมื่อไรก็ตาม ฉันจะไปเจอเธอที่ร้านอาหารร้านเดิมของเรา
https://www.youtube.com/watch?v=7n4OSlpnD_4
‘Wine After Whiskey’ – Carrie Underwood จากอัลบั้ม Blown Away (2012)
“Now everything after you is like having wine after whiskey”
แคร์รี อันเดอร์วูด คือศิลปินหญิงคันทรีคนหนึ่งที่มีเสน่ห์ทั้งเสียงร้องและเนื้อหาที่เธอเล่า และกับเพลง ‘Wine After Whiskey’ ของเธอนั้น อ่านจากแค่ชื่อเพลงคุณอาจจะจินตนาการถึงความบอบช้ำทางจิตใจของคนเล่าได้แล้ว เพราะคิดดูว่าการดื่มไวน์ตามหลังวิสกี้ ถูกเปรียบเปรยกับความช้ำใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกว่าทำอะไรให้ผู้ชายคนหนึ่งไปเท่าไรก็ดูจะไม่มีค่า เหมือนดื่มไวน์ตามวิสกี้เข้าไปก็คงรสชาติแข็งแรงไม่พอสู้วิสกี้ได้ โอ้โห ล้ำลึกมาก!
‘For the First Time’ – The Script จากอัลบั้ม Science & Faith (2010)
“But we’re gonna start by drinking old cheap bottles of wine, sit talking up all night”
จริงๆ แล้วเพลงนี้แทบจะพูดถึงไวน์เพียงเล็กน้อย แต่ไวน์ในเพลงนี้ทำให้เกิดเป็นบรรยากาศของความสุขระคนทุกข์ และฟังไปผ่านๆ ก็จะรู้สึกอิ่มเอมและขนลุกกับสถานการณ์ในเพลงได้ เพลงนี้ของวงดนตรีจากไอร์แลนด์พูดถึงเรื่องคู่รักที่ผ่านเรื่องราวความทุกข์ยาก ประสบปัญหาการเงินในช่วงที่คนใดคนหนึ่งในความสัมพันธ์นี้เกิดไม่มีงานทำขึ้นมา พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนั่งพูดคุยกันอย่างเปิดอกว่าจะแพลนชีวิตกันต่ออย่างไร โดยมีไวน์ราคาถูกๆ สักขวดเป็นเพื่อน และพอยิ่งพูดคุย ยิ่งได้ดื่ม ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนกับครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน แต่จะว่าไปพอฟังอย่างตั้งใจและดูมิวสิกวิดีโอไปด้วยก็เกือบร้องไห้เหมือนกันนะ
หาไวน์ถูกใจและดื่มคู่กับเพลงที่คุณชอบ อย่างมอสคาโตกับเพลงจังหวะเบาๆ ชวนขยับนิดๆ หรือจะไวน์แดงดับเบิลบาเรลกับเพลงร็อกล้ำลึก รับรองว่าคุณจะยิ่งอินขึ้นอีกเท่าตัว ไม่เชื่อลองดูสิ…
เอ้า เชียร์ส!
อ่านเรื่องเปลี่ยนบรรยากาศไวน์แพริ่ง! จะกัมมี่แบร์หรือช็อกโกแลตก็จับคู่ไวน์ได้น่าทึ่งทั้งนั้นได้ที่นี่
ภาพประกอบ: Thiencharas W.
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
- หากไม่อยากลุกออกจากบ้านให้วุ่นวาย สามารถช้อปปิ้งไวน์ออนไลน์ได้แล้วที่นี่
- ผู้บรรลุนิติภาวะควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหากบริโภคแอลกอฮอล์
- หมายเหตุ: สุราเป็นเหตุก่อมะเร็ง เซ็กซ์เสื่อม ก่อให้พิการและเสียชีวิต เป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรม สามารถทำร้ายครอบครัวและทำลายสังคมได้