วันนี้ (30 เมษายน) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง ประจำปี พ.ศ. 2568 มีวาระสำคัญคือการตั้งกระทู้ถามสดของ นภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ถึงความคืบหน้าในการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ซึ่งยังคงค้างชำระและสร้างภาระดอกเบี้ยมหาศาลให้กับกรุงเทพมหานคร
นภาพล ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้ย้ำถึงรายงานผลการศึกษาที่เสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่กลับล่าช้าในการดำเนินการต่อ พร้อมแจกแจงภาระหนี้สินคงค้างรวมกว่า 27,700 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ BTS ฟ้องร้องตั้งแต่ มิถุนายน 2564 ถึง ตุลาคม 2565 รวมต้นและดอกเบี้ย 12,245 ล้านบาท และส่วนที่ค้างชำระหลังช่วงฟ้องร้องตั้งแต่ พฤษภาคม 2565 ถึง ธันวาคม 2566 รวมต้นและดอกเบี้ยอีก 15,499 ล้านบาท
นภาพล กล่าวเน้นว่า ปัจจุบัน กทม. ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยสูงถึงวันละ 5.4 ล้านบาท และตั้งคำถามถึงผู้ว่าฯ กทม. ถึงความคืบหน้าหลังรายงานของคณะกรรมการฯ เสนอไปแล้ว 3 สัปดาห์ ซึ่งดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 113 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า ปัญหาหนี้ BTS เป็นเรื่องหนักใจและซับซ้อนอย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมหาศาล ซึ่ง กทม. ได้ชำระไปแล้วกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีประเด็นละเอียดอ่อนที่ต้องพิจารณา ทั้งการตรวจสอบของ ป.ป.ช. และสถานะของสัญญาจ้างส่วนที่ 2 ที่ไม่เคยผ่านการพิจารณาของสภา กทม. มาก่อน
ชัชชาติย้ำว่า การนำเงินภาษีประชาชนไปใช้จ่ายต้องทำด้วยความรอบคอบรัดกุม และเนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่ง จึงต้องตรวจสอบทุกมิติอย่างละเอียด แม้จะทราบดีว่าดอกเบี้ยเดินหน้าทุกวัน การปรึกษาหน่วยงานภายนอกอย่าง ป.ป.ช. และคณะกรรมการกฤษฎีกา (ซึ่งแนะนำให้สอบถามมหาดไทยต่อ) เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความรอบคอบและเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน
ด้าน วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า กรุงเทพธนาคม (KT) ได้เจรจากับ BTS แล้ว 3 ครั้ง เพื่อขอปรับลดเงินต้นโดยอ้างอิงปัญหาความถี่การเดินรถช่วงสะพานตากสิน และขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจาก BTS นอกจากนี้ กทม. ยังคงรอคำตอบจาก ป.ป.ช. ว่าสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ ส่วนการสอบถามอัยการสูงสุด ได้รับคำตอบเมื่อวานนี้ (29 เมษายน) ว่า ไม่สามารถให้ความเห็นในส่วนหนี้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลได้ แต่ กทม. สามารถพิจารณาชำระหนี้ส่วนที่เกิดขึ้นหลังการฟ้องร้องได้ตามอำนาจหน้าที่ ซึ่ง กทม. จะนำความเห็นนี้ไปหารือกับฝ่ายกฎหมายต่อไป
นภาพลได้ตั้งซักถามถึงการดำเนินการหลังได้รับความเห็นจากอัยการ รวมถึงความคืบหน้าที่ล่าช้าในการได้รับคำตอบจาก ป.ป.ช. ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ซึ่งชัชชาติย้ำว่าการสอบถามทุกหน่วยงานเป็นไปเพื่อความรอบคอบ
ประเด็นค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงในอนาคต ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นมา ซึ่งยังไม่มีการชำระ นภาพลได้สอบถามถึงกำหนดการชำระ วิศณุชี้แจงว่า สำนักการจราจรและขนส่งได้ทำเรื่องขอเบิกจ่ายแล้ว และเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการที่สำนักการคลัง เพื่อนำเงินรายได้ค่าโดยสารมาชำระต่อไป
อย่างไรก็ตามการประชุมสภา กทม. ในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการชำระหนี้ก้อนใหญ่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยฝ่ายบริหาร กทม. ยืนยันในแนวทางการดำเนินการด้วยความรอบคอบรอบด้าน ท่ามกลางความซับซ้อนทางกฎหมายและสัญญา ขณะที่ภาระดอกเบี้ยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
