คนทำงานในเมืองใหญ่น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า หากต้องสมัครงานกับหน่วยงานสักแห่ง ระยะทางและเวลาเดินทางไปยังที่ทำงานนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาไม่แพ้เงินเดือน ตอนทำงานก็เครียดแล้ว ใครๆ ก็อยากถึงบ้านพักผ่อนไวๆ และไม่อยากติดอยู่บนถนนหรือรถไฟฟ้าเป็นชั่วโมง
ไม่น่าแปลกเลยที่การทำงานใกล้บ้านเป็นสิ่งที่คนทำงานยุคใหม่มองหาจากบริษัท หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลกคือ ‘เมือง 15 นาที’ หรือ 15-Minute City ที่มีคอนเซปต์ง่ายๆ ว่า ในอนาคต เราต้องเดินทางจากบ้านไปถึงสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองได้ภายใน 15 นาที
ออฟฟิศที่ช่วยสร้างสมดุลของชีวิต
หากมองเข้ามาในโลกแห่งการทำงาน เราอาจเห็นได้ว่ามีระบบที่คล้ายๆ เทรนด์ 15-Minute City ที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือพื้นที่การทำงานอย่างยืดหยุ่น (Hybrid Work) ที่ออฟฟิศหลายแห่งนั้นตัดสินใจเช่าสถานที่เพื่อตั้งสำนักงานแบบรวมศูนย์ใกล้บ้าน (Centralized Office) เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าออฟฟิศได้ตามสะดวกในทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ
“ในอนาคต เมืองใหญ่ไม่เพียงแต่จะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้คนต้องการเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงที่อยู่อาศัย ซึ่งเอื้อให้สามารถทำงานและใช้ชีวิตในบริเวณใกล้กันได้” Mark Dixon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง IWG บริการให้เช่าออฟฟิศระดับโลกกล่าว
เมื่อมีออฟฟิศอยู่ใกล้บ้าน คนทำงานก็สามารถควบคุมสมดุลในชีวิตของตัวเองได้ โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในชานเมืองหรือชนบทที่ห่างไกลเมืองใหญ่ที่อาจเหนื่อยเหลือเกินกับการเดินทางเข้าเมือง เมื่อจบงานในแต่ละวัน พวกเขาก็ยังเหลือเวลาที่จะใช้ไปกับการออกกำลังกายและครอบครัวของตัวเอง
คนทำงานได้ประโยชน์ ออฟฟิศก็ได้ประโยชน์
มากกว่าจะทำให้คนทำงานประหยัดเงิน สบายกระเป๋าและสบายใจ เพราะค่าเดินทางน้อยลง การเช่าสำนักงานแบบรวมศูนย์กลางใกล้บ้านยังเป็นประโยชน์ต่อนายจ้างและเจ้าของธุรกิจ
ในแง่ที่ว่าสำนักงานจะไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ตายตัว แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในสำนักงานจะเกิดขึ้นตามจริง แค่ตอนที่พนักงานเข้ามาใช้เท่านั้น ทำให้ออฟฟิศก็ประหยัดเงินได้อีกมาก
นี่คือวิถีการทำงานแห่งโลกยุคใหม่ถือเป็น Win-Win Situation สำหรับบริษัทที่เช่าสำนักงานแบบยืดหยุ่นและพนักงาน
ทำงานได้ในทุกที่ที่ต้องการ
ปัจจุบันมีบริการให้เช่าออฟฟิศเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในบริการที่ได้รับความไว้ใจจากธุรกิจและบริษัทหลายแห่งคือ IWG บริการที่ช่วยให้ผู้คนสามารถทำงานได้ในทุกที่ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเขตชานเมืองหรือใจกลางเมืองใหญ่
ในกรุงเทพฯ Regus, Spaces และ HQ ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้เครือ IWG ก็มีสถานที่ให้เลือกกว่า 40 แห่ง นำเสนอตัวเลือกสถานที่ทำงานแบบยืดหยุ่นที่อำนวยความสะดวกสบายเพื่อการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด โดยมีบริการทั้งออฟฟิศส่วนตัว, Co-Working Space, ห้องประชุม รวมถึงสำนักงานเสมือน (Virtual Offices) ที่พนักงานจะนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ แต่ในนามบัตรสามารถใช้ที่อยู่ของสำนักงานนี้
ปีที่ผ่านมา เครือ IWG มีการเพิ่มออฟฟิศแห่งใหม่มากถึง 8 แห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการการทำงานของบริษัทและพนักงานให้มากขึ้น ได้แก่ สาขาเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ทั้งทาวเวอร์เอและบี, รัชดา วัน, Sukhumvit Hills, SV City Tower, เตียวฮงสีลม, ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ และสเปซ ราชเทวี
ในปี 2024 พวกเขาก็เปิดสำนักงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ได้แก่ อาคารชินวัตร 3, เซ็นทรัลทาวเวอร์ที่เซ็นทรัลเวิลด์, EnCo Terminal, สุขุมวิท 26 และเดอะ ไรซ์ ทาวเวอร์
โดยมีแผนที่จะเปิดสถานที่เพิ่มเติมเร็วๆ นี้ที่อาคารบลูชิพส์ ทองหล่อ, ซัมเมอร์เซ็ท ทองหล่อ, วานิชเพลซอารีย์, OSC ลาดกระบัง อีกด้วย และต่างจังหวัดจะเปิดสาขาที่ PKCD ภูเก็ต, Bukis Phuket, โรงแรมไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา และ The OfficePlus เชียงใหม่
พูดได้เลยว่าธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ จะมีพนักงานแค่หนึ่งคนหรือหลายพันคน ก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกของ IWG ได้ และใช้บริการจองโต๊ะทำงานร่วมกัน ห้องประชุม และสำนักงานส่วนตัวได้ตามแต่สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Regus หรือ Spaces มากกว่านั้น สมาชิกยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของ IWG ที่เข้าถึงสถานที่นับพันแห่งในกว่า 120 ประเทศอีกด้วย
IWG ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 โดยมีการทำงานร่วมกับบริษัทมากกว่า 83% ของทั้งหมด ด้วยความเชื่อที่ว่าอยากส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานให้กับทุกคน รวมถึงอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IWG ได้ที่ iwgplc.com และ Regus.com
