เงินเยนแข็งค่ากลับมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 140 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบเดือน ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.465% หลังตลาดคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินภายในเดือนนี้
ข้อมูลทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ออกมา เช่น อัตราค่าจ้างในเดือนพฤษภาคมที่ปรับสูงขึ้นถึง 2.5% และอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่ทรงตัวอยู่เหนือระดับ 2% อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ทำให้ตลาดพากันคาดการณ์ว่า BOJ น่าจะเข้าใกล้จุดที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินแล้ว
ที่ผ่านมา BOJ ยังคงย้ำจุดยืนที่จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ ซึ่งสวนทางกับกระแสการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อของธนาคารกลางหลักทั่วโลก เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหลุดออกจากภาวะเงินฝืดเรื้อรังหรือทศวรรษที่สาบสูญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กรุงศรีฯ แนะคนมีแผนเที่ยวญี่ปุ่นทยอยซื้อเงินเยนเก็บ หลังอ่อนค่าทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 26 ปี มอง BOJ อาจยกเลิกมาตรการ YCC ในไตรมาส 4
- เงินเยนอ่อนค่าหนักสุดในรอบ 26 ปีเมื่อเทียบบาท! กูรูแนะจับตาวันพฤหัสบดีนี้ เยนมีโอกาสอ่อนอีกหาก BOE ขึ้นดอกเบี้ย
- ทำความรู้จัก ‘Yield Curve Control’ หลัง BOJ ปรับนโยบายแบบช็อกตลาด
การดำเนินนโยบายที่สวนทางของ BOJ ส่งผลให้นับจากต้นปีที่ผ่านมา เงินเยนถือเป็น 1 ใน 10 สกุลเงินที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด โดยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐฯ ไปแล้วเกือบ 9%
ในเดือนที่ผ่านมา คาซุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณระหว่างเข้าร่วมงานสัมมนาของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่า ญี่ปุ่นจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน หาก BOJ พบว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
ขณะที่ ชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการของ BOJ เคยกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nikkei ว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากขึ้นแล้ว หลังจากที่คุ้นเคยกับการดำเนินธุรกิจในภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของญี่ปุ่นยังได้ออกมาให้ความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนนโยบาย Yield Curve Control ควรเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงได้แล้ว
อ้างอิง: