‘ยายปวด’ ร้านอาหารเตาถ่านเจ้าเด็ดประจำจังหวัดชุมพร ที่ไม่ไปกินคือผิด!

ยายปวด ร้านอาหารใต้ที่จัดว่าเด็ดประจำจังหวัดชุมพร ต้องบอกเลยว่าถ้าเดินทางผ่านมาหรือแวะท่องเที่ยวจังหวัดนี้ หรือจะ #เที่ยวทิพย์ แล้วสั่งส่งกรุงเทพฯ ก็ต้องบอกว่า “ยายปวดไม่เคยทำให้ผิดหวัง”

ร้านยายปวดขายอาหารพื้นถิ่น ต้ม ผัด แกง ทอด ด้วยเตาถ่านแบบดั้งเดิม แม้ว่าโลกดิจิทัลจะดิสรัปต์ไปทั่วทุกหนแห่ง ความยืนหนึ่งเรื่องนี้ของยายปวดยังคงได้รับความนิยมล้นหลาม เพราะแม้ว่าตัวร้านจะอยู่ในซอยเล็กๆ นอกตัวเมืองชุมพรไม่ไกล ทันทีที่เปิดร้านตอน 11 โมง ลูกค้าก็มากันแน่นแล้ว

จักรวาลอาหารรสมือแม่ ย่า ยาย ผูกพันกับผู้เขียนมายาวนาน จนถึงทุกวันนี้ที่กาลเวลาพัดผ่าน การได้กินอาหารรสชาติในความทรงจำ มันคือความเอร็ดอร่อยที่นอกจากความสุขสัมผัสได้ตรงหน้า ยังเป็นการย้อนไปเก็บเกี่ยวรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกือบหลงลืมไปแล้ว

มื้อเที่ยงวันนั้น หลังจากเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานข้างๆ ก็มองเห็นร้านยายปวดที่เปิดโล่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ล้อมรอบด้วยต้นไม้ประดับประดาแบบบ้านๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกผูกพันเหมือนเป็นร้านญาติสนิทมิตรสหาย มีโต๊ะอยู่ราวๆ 10-12 โต๊ะ ทั้งแบบโต๊ะเล็ก โต๊ะยาวสำหรับครอบครัว ส่วนครัวที่ประกอบอาหารอยู่ข้างบ้านด้านหนึ่ง ที่จะมองเข้าไปเห็นเตาถ่านอยู่หลายเตา ทำให้พอมั่นใจได้ว่าแม้จะปรุงอาหารด้วยไฟฟืน แต่ก็ไม่ใช่ว่าอาหารจะช้าอย่างที่คิด

ระหว่างรอเมนูที่เลือกสรรมาบรรจงเสิร์ฟบนโต๊ะ ก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารร้านยายปวดมาว่า ทุกๆ เช้ามืดทางร้านตื่นมาต้มน้ำซุปสำหรับใช้ปรุงอาหารล่วงหน้าเป็นเวลา 5 ชั่วโมง และทยอยทำวัตถุดิบสดใหม่เตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่ทั้งสั่งจอง สั่งให้ส่งไปกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ซึ่งทางร้านยืนยันว่า “ร้านเราทำอาหารสดใหม่ทุกวัน”

ปลาอินทรีทอด (เริ่มต้น 180 บาท) เป็นเมนูแนะนำที่อยากให้ได้ลอง เพราะใช้เวลาค่อนข้างนานในการทอดด้วยไฟอ่อนๆ กลิ่นหอมจะลอยจากครัวมายั่วยวนให้เราที่รออาหารอยู่ และคุ้มค่าการรอคอยด้วยปลาทอดที่ทอดมาดีมาก มีโรยแป้งเพิ่มความกรุบกรอบด้านนอก ส่วนเนื้อปลาด้านในก็หวานหอม ยีเนื้อปลาลงบนข้าว คลุกด้วยพริกน้ำปลาของที่ร้าน แค่นี้ก็แทบไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

แต่มาร้านยายปวดทั้งทีต้องมีเมนูอื่นแนะนำ ยำผักกูด (100 บาท) เป็นเมนูที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ผักกูดก้านอวบๆ ที่ลวกน้ำร้อนน็อกน้ำแข็งให้คงความกรอบผัดกับกะทิ มะพร้าวคั่ว กะปิ น้ำตาลปี๊ป ฯลฯ พร้อมหมูสับรวน ใส่ปลาหมึกลงไปด้วย โรยหอมเจียวเพิ่มกลิ่นยั่วน้ำลาย ก็ทำให้เมนูบ้านๆ กลายเป็นอาหารรสทิพย์ได้ไม่ยาก

ปลาเค็มทอดกะทิ (140 บาท) สูตรของยายปวดคิดเอง คั่วด้วยกะทิ มะพร้าวคั่ว ยามที่คลุกลงไปในข้าวสวยร้อนๆ ก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว สำหรับเมนูนี้หากินยาก ทางร้านบอกว่ามีที่นี่ที่เดียว หมูคั่วเค็ม (140 บาท) เมนูที่ย้อนคืนความทรงจำวัยเด็กออกมาได้ชัดเจน เพราะน่าจะเป็นเมนูยอดฮิตสำหรับหลายๆ บ้านที่มักจะผัดหมูคั่วออกรสหวาน-เค็มเป็นอาหารหลัก คลุกกับข้าว ทอดไข่เจียว ไข่ดาวตามไปก็เป็นมื้อสำหรับเด็กๆ ที่ทุกคนน่าจะติดใจ

ต้มส้มปลากะพง (140 บาท) เป็นต้มส้มที่รสดี ไม่เผ็ดร้อน ออกไปทางน้ำซุปที่ให้ความสดชื่น โดยทางร้านใช้น้ำส้มจากซึ่งมาจากต้นจาก นำเอาไปหมักเพื่อให้เกิดรสเปรี้ยว พอใช้ทำอาหารก็ได้รสเปรี้ยวแทนมะนาว เป็นรสเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี ส่วนเนื้อปลากะพงชิ้นใหญ่ๆ ก็สดจนได้รสหวานออกมาจากเนื้อปลา

กุ้งผัดสะตอกะปิ (200 บาท) เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด เพราะขึ้นชื่อว่าอาหารใต้ สะตอผัดกะปิต้องมา รสชาติกลมกล่อม อาจจะติดหวานนิดหน่อย แต่ทุกจานรสจัดจ้านในแบบที่ลองได้กินแล้วจะไม่ลืม

ความใส่ใจในรายละเอียดอย่างหนึ่งคือเมนูของร้านยายปวด ที่นอกจากจะมีตัวเล่มใหญ่โตพร้อมรูปประกอบสวยงาม ยังมีแบบแผ่นพิเศษที่เน้นเมนูแนะนำ รวมทั้งเมนูประจำฤดูกาลที่ควรสั่งในช่วงนั้นๆ พร้อมสนนราคาที่อาจจะสูงสำหรับร้านอาหารต่างจังหวัด แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วก็ต้องยอมรับในเหตุผล ที่จานเนื้อสัตว์จะมีราคาเกิน 100 บาทขึ้นไป อย่างเช่นความสดของปลากะพงในแกงส้มที่สดระดับที่ว่าส่งรสน้ำแกงให้ใสสดชื่นขึ้นไปอีกหลายระดับ หรือปลาอินทรีสดที่เราจะได้รสสัมผัสของปลาทะเลชัดเจน หรือเนื้อกุ้ง ปลาหมึกที่เด้งสู้ฟันมากๆ

อาหารถิ่นชุมพรของร้านยายปวด ยังมีเมนูน่าสนใจอีกมากมาย ทั้งแกงคั่วกระดูกอ่อนลูกกล้วย, แกงส้มไข่ปลาริวกิว หรือในช่วงที่เราไปชิมก็เป็นเมนู แกงส้มทุเรียน ที่เอาทุเรียนอ่อนมาแกงส้มได้รสชาติแปลกใหม่ และทุเรียนชุมพรในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ก็ต้องบอกว่าหอม หวาน มัน ไม่เสียชื่อจังหวัดที่ปลูกทุเรียนเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากจันทบุรี สำหรับทุเรียนแปรรูป ทางร้านยายปวดก็มีทั้งทุเรียนเชื่อม ทุเรียนกวน ทุเรียนทอดที่ซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากได้ด้วย

ส่วนวัตถุดิบสำคัญเบื้องหลังความอร่อยอย่าง กะปิ ทางร้านยายปวดทำเอง ขายเอง แนะนำให้ซื้อกลับไปเป็นเคล็ดลับความอร่อยต่อเนื่องได้อีกยาวๆ ซึ่งกะปิทำเองของร้านยายปวดก็ทำสดใหม่วันต่อวันเช่นกัน (อาจต้องสั่งล่วงหน้าแล้วมารับ) ราคากิโลกรัมละ 200 บาท

สำหรับเครื่องดื่มแนะนำน้ำส้มจี๊ดที่หากินไม่ได้ง่ายๆ ให้ความสดชื่นดับร้อนในวันอากาศไม่เป็นใจ สำหรับใครที่เดินทางไปในวันหยุดยาวที่คนน่าจะเยอะก็ควรใจเย็นสักหน่อย เพราะอย่างที่บอกว่าร้านใช้เตาถ่านปรุงอาหารทุกจาน ก็จะใช้เวลาในการทำพอสมควร

สรุปส่งท้าย คงต้องยืนตามรายการ ครัวคุณต๋อย ที่เคยมาถ่ายทำรายการเทปร้านยายปวดไปเรียบร้อยแล้วว่า “ถ้าไปชุมพร ไม่ไปกินร้านยายปวดคือผิด”