จิบน้ำชายามบ่ายที่ห้องอาหารโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok

ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาสวยงามที่สุดแห่งปี การได้จิบน้ำชายามบ่ายในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้และผีเสื้อนั้นคงเป็นความฝันของใครหลายคน และวันนี้ แอนเดรีย โนลี หัวหน้าเชฟครัวขนมหวานประจำโรงแรมห้าดาวอย่าง ‘Waldorf Astoria Bangkok’ ได้ทำความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริงด้วยชุดน้ำชายามบ่ายใหม่ล่าสุดของโรงแรม

ห้องอาหาร Peacock Alley ตั้งอยู่ที่ชั้น Upper Lobby ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok บรรยากาศภายในห้องอาหารนั้นหรูหรา เรียบง่าย ผ่อนคลาย เหมาะแก่การนั่งจิบน้ำชาคุยธุรกิจหรือคุยกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันนาน

บรรยากาศภายในห้องอาหาร Peacock Alley

ชาร้อนของที่นี่เลือกใช้เป็นชามาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) จากประเทศฝรั่งเศส มีให้เลือกทั้งชาดำ ชาแดง ชาขาว และชาสมุนไพรที่ไม่มีกาเฟอีน เราจึงเลือกเป็น ‘Marco Polo Rouge’ ชาสมุนไพรสีแดงที่หอมกลิ่นดอกไม้นานาชนิดจากประเทศจีนและธิเบต กับ ‘Lemongrass Pandan Butterfly’ ชาสมุนไพรสีฟ้าจากดอกอัญชัน หอมกลิ่นตะไคร้จางๆ ดื่มแล้วผ่อนคลายมากๆ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งแชมเปญเพิ่มได้อีกด้วย

ชา Lemongrass Pandan Butterfly

ชา Marco Polo Rouge

ในชุดน้ำชาของห้องอาหารโรงแรมแห่งนี้จะมีทั้งของคาวและของหวาน ทุกเมนูถูกทำขึ้นมาเป็นชิ้นพอดีคำเพื่อกินคู่กับเครื่องดื่ม ของหวานนั้นน่าประทับใจทีเดียวกับการนำสีสันของฤดูใบไม้ผลิมารังสรรค์เป็นขนมแสนสวยอย่างเค้กแครอตเสิร์ฟในกระถางต้นไม้ ทาร์ตโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง ทีรามิสุรังนก ทาร์ตต้นซากุระ และไฮไลต์ของชุดน้ำชานี้ก็คือมาการองผีเสื้อเสิร์ฟบนกระถางหญ้าที่ชวนให้นึกถึงสวนหลังบ้านสมดั่งความตั้งใจของเชฟ นอกจากนี้ยังมีสโคนและฟินองเซียที่เป็นขนมคู่บุญของชุดน้ำชาเสิร์ฟมาให้ด้วย

ชุดน้ำชายามบ่ายสำหรับสองท่าน

ชุดขนมหวานและฟินองเซีย

ถ้าช่วงบ่ายวันหยุดยังไม่มีแผนไปไหน มานั่งจิบชาร้อนๆ กินขนมแสนสวยเหล่านี้ที่ห้องอาหาร Peacock Alley โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ราคาอยู่ที่ 2,200++ บาท สำหรับ 2 ท่าน เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น. บริการชุดน้ำชายามบ่ายเวลา 13.00-17.00 น.

แล้วคุณจะตกหลุมรักการนั่งพักผ่อนจิบชาในบรรยากาศดีๆ แบบนี้

ติดตามบทความร้านอาหารกันต่อได้ที่

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์