บริษัทแม่ของ Uniqlo เพิ่งประกาศเพิ่มค่าจ้างของพนักงานในญี่ปุ่นขึ้น 40% ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฟากประเทศไทยก็ไม่รอช้าออกมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
Uniqlo ประเทศไทยระบุว่า พนักงานทั้งหน้าร้านและสำนักงานใหญ่จะได้รับการปรับเงินเดือนขึ้น 5-25% ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานแต่ละคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เมื่อ ‘Uniqlo’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นเงินเดือน’ สร้างแรงกระเพื่อมให้ธุรกิจยกระดับค่าจ้าง เพื่อรักษาคนเก่งไม่ให้ลาออก
- จะไม่หยุดอยู่แค่นี้! ซีอีโอ UNIQLO ลั่น จะสร้างรายได้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี หลังตลาดแฟชั่นในจีน-ญี่ปุ่นเติบโตอย่างมาก
- บริษัทแม่ของ Uniqlo ประกาศเพิ่มค่าจ้างของพนักงานในญี่ปุ่นขึ้น 40% ทำให้ผู้จบใหม่จะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 76,000 บาท
โดยจะประเมินการทำงานตามผลงานอย่างแท้จริง (ประวัติ, การศึกษา, อายุ, เพศ, อายุการทำงาน และอื่นๆ ไม่มีผลต่อการประเมิน) ซึ่งจะมีการประเมินสายงานทุกๆ 3 เดือน (สำหรับพนักงานที่ร้านสาขา) และ 6 เดือน (สำหรับพนักงานที่สำนักงานใหญ่และผู้จัดการ)
นอกจากนี้พนักงานหญิงสามารถลาคลอดได้สูงสุด 365 วัน (พร้อมจ่ายเงินเดือน 90 วัน) Uniqlo ประเทศไทยยังระบุด้วยว่า มีพนักงานหญิงกว่า 75% อยู่ในระดับผู้จัดการ และจะผลักดันด้านความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร
Mercer เพิ่งออกผลสำรวจที่ระบุว่า เพื่อรองรับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น นายจ้างในประเทศไทยประมาณ 27% ที่เข้าร่วมตอบแบบผลสำรวจ (ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยจากการสำรวจนายจ้างทั้งภูมิภาคเอเชีย) มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่พนักงานที่ได้รับเงินเดือนน้อยกว่าค่ากลางของตลาด
นอกจากนั้น ยังมีองค์กรธุรกิจในประเทศไทยกว่า 30% ที่ตอบแบบสำรวจ (ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชียที่ระดับ 22%) มีการปรับเพิ่มเฉพาะในส่วนของเงินทดแทนค่าใช้จ่ายในการยังชีพ หรือเพิ่มค่าจ้างในส่วนอื่นๆ ซึ่งนับเป็นการบริหารจัดการค่าตอบแทนขององค์กรที่ยั่งยืนกว่า
สำหรับ Fast Retailing ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ต่อจากนี้ไป ค่าตอบแทนใหม่ของพนักงานแต่ละคนจะถูกตัดสินโดยเกณฑ์ที่สอดคล้องกันทั่วโลก” โดยค่าตอบแทนจะพิจารณาจากประสิทธิภาพการทำงานและผลงาน รวมถึงความสามารถในการมีส่วนร่วมในธุรกิจ Fast Retailing ซึ่งโดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะเพิ่มต้นทุนแรงงานของผู้ค้าปลีกแฟชั่นในญี่ปุ่นประมาณ 15%
ทาดาชิ ยานาอิ เจ้าของแบรนด์ Uniqlo กล่าวว่า ที่ผ่านมา Fast Retailing พยายามแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของรายได้พนักงานภายในกลุ่มบริษัท โดยส่วนใหญ่รายได้พนักงานยุโรปและอเมริกานั้นสูงขึ้นอย่างมาก จึงตัดสินใจยกระดับค่าจ้างในญี่ปุ่น เพื่อรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้
ทั้งนี้ ปัจจุบันพนักงานของ Fast Retailing ในญี่ปุ่นมีทั้งหมด 8,400 คน ซึ่งจะเริ่มปรับค่าจ้างในเดือนมีนาคม โดยเงินเดือนพนักงานใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 เยน (75,633 บาท) ต่อเดือน ส่วนผู้จัดการร้านอยู่ที่ 390,000 เยน (98,422 บาท) ต่อเดือน