×

‘การบินไทย’ เดินหน้าตามแผนฟื้นฟู หลังศาลล้มละลายเห็นชอบ แต่เบื้องต้นต้องเร่งหากระแสเงินสดเข้ามาเสริมให้ทันภายในสิ้นปีนี้

15.06.2021
  • LOADING...
การบินไทย

ในวันนี้ (15 มิถุนายน) ศาลล้มละลายกลางได้กำหนดนัดฟังคำสั่งศาลในการพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของ บมจ.การบินไทย (THAI) ซึ่งหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางได้รับคำคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้จำนวน 2 ฉบับ คำชี้แจงของผู้ทำแผน ตลอดจนความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในประเด็นต่างๆ แล้ว ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไขตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 

 

ซึ่งมีผลให้ผู้บริหารแผนที่ถูกเสนอชื่อตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไข กล่าวคือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, พรชัย ฐีระเวช, ศิริ จิระพงษ์พันธ์, ไกรสร บารมีอวยชัย และชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้บริหารแผน ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารธุรกิจของบริษัท และดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป 

 

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย (THAI) กล่าวว่า บริษัทต้องขอบคุณศาลล้มละลายกลาง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี เจ้าหนี้ ลูกค้า คู่ค้า ผู้ทำแผนทั้ง 7 ท่าน และพนักงานทุกคนที่มีส่วนทำให้แผนฟื้นฟูกิจการได้รับความเห็นชอบ มอบโอกาสให้การบินไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ผู้บริหารแผนและพนักงานทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้แผนฟื้นฟูกิจการประสบความสำเร็จ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าหนี้ทุกราย 

 

ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหนี้และลูกค้าของการบินไทยเชื่อมั่นว่าการบินไทยพร้อมที่จะกลับมาดำเนินธุรกิจและให้บริการ เพื่อกลับมาเป็นองค์กรที่สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างความภาคภูมิใจแก่ประเทศไทยและคนไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังมีความท้าทายสำหรับการบินไทยในเวลานี้คือ กระแสเงินสดที่ค่อยๆ ลดลง ทำให้บริษัทต้องนำสินทรัพย์ออกขายมากขึ้น รวมถึงเจรจากับเจ้าหนี้และจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ จากกระแสเงินสดในปัจจุบันหากไม่จัดหาเพิ่มเติมอาจจะไม่เพียงพอถึงสิ้นปี 2564 นี้ 

 

“ส่วนของกระแสเงินสดเพิ่มเติมเราได้คุยกับสถาบันการเงินไว้บ้างแล้ว จากแผนฟื้นฟูนี้ จำนวนเงินทั้งหมดที่การบินไทยต้องใช้จะมาจากการสนับสนุนของภาครัฐ 2.5 หมื่นล้านบาท และจากภาคเอกชนอีก 2.5 หมื่นล้านบาท” 

 

ในแง่การหารายได้เพิ่มเติม บริษัทคาดว่าการกระจายวัคซีนที่มากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 รวมถึงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่จะเกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้คนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น และปีหน้าจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 

 

ในเบื้องต้นมีการจองที่นั่งสำหรับเที่ยวบินแรกที่จะเดินทางมาภูเก็ตแล้วกว่า 100 ที่นั่ง และคาดว่าทั้งเดือนกรกฎาคมน่าจะมีจำนวนผู้โดยสารในหลักพันคน ทำให้รายได้ของบริษัทในไตรมาส 3 จะสูงกว่าช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 แน่นอน 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising