×

‘ความสำเร็จที่จ่ายด้วยราคาแพง’ เด็กหญิงจากสวีเดนเรียกร้องผู้นำโลกบนเวที WEF หยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาโลกร้อน

30.01.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • เกรตา ธันเบิร์ก เด็กหญิงวัย 16 ปี จากสวีเดน เป็นคนไม่ค่อยชอบพูดคุยนัก แต่เวลานี้เธอกลายเป็นกระบอกเสียงสำคัญของเยาวชนทั่วโลก เพื่อเรียกร้องให้คนที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
  • การประชุม World Economic Forum ประจำปี 2019 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งเวทีที่ธันเบิร์กโดดเด่นไม่แพ้ผู้นำทางการเมือง และผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมประชุม
  • เธอหวังว่า เสียงของเธอจะดังก้องกังวานไปถึงผู้นำทั่วโลก เพื่อให้หยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่ง “เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดเท่าที่มนุษย์กายวิภาคปัจจุบัน (โฮโม เซเปียนส์) เคยเผชิญมา”

การต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก “เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดเท่าที่มนุษย์กายวิภาคปัจจุบัน (โฮโม เซเปียนส์) เคยเผชิญมา”

 

“ความสำเร็จที่ผู้คนกล่าวถึงอาจต้องจ่ายด้วยราคาแพงจนไม่อาจคาดคิดได้”

 

นี่คือเสียงเล็กๆ จากเด็กผู้หญิงวัยเพียง 16 ปี ที่กำลังกลายเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ เพราะเธอได้สร้างอิมแพ็กและแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ในยามที่โลกกำลังป่วยจากปัญหามลพิษ

 

เธอเคยสร้างความฮือฮาด้วยการกล่าวสุนทรพจน์อันจับใจในที่ประชุมรัฐภาคีสหประชาชาติครั้งที่ 24 (COP24) ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ที่เมืองคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ซึ่งครั้งนั้นธันเบิร์กประกาศตัวว่า เป็น ‘ผู้ทวงความยุติธรรมให้กับภูมิอากาศโลก’ ซึ่งถือเป็นตัวแทนที่ก้าวออกมาเป็นปากเสียงให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาที่ผู้ใหญ่ก่อไว้ นั่นคือตัวการทำลายสิ่งแวดล้อม

 

 

และเป็นอีกครั้งที่เด็กหญิงจากสวีเดนโดดเด่นบนเวทีระดับโลกในระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2019 ที่เมืองดาวอส หรือ Davos 2019 ซึ่งเป็นเวทีที่บรรดาผู้นำทางการเมือง ตลอดจนผู้นำภาคธุรกิจและองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงต่างๆ เข้าร่วมถกประเด็นปัญหาที่เป็นวาระสำคัญของโลก  

 

“ณ สถานที่อย่างดาวอส ผู้คนชอบเล่าถึงเรื่องราวความสำเร็จ แต่ความสำเร็จทางการเงินที่พวกเขาได้รับ ล้วนต้องจ่ายด้วยราคาแพงจนไม่อาจคาดคิดได้” เกรตา ธันเบิร์ก กล่าวในที่ประชุม WEF

 

“แต่เรายังคงแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้ ทว่า หากเราไม่ยอมรับถึงความล้มเหลวของระบบโดยรวมในปัจจุบัน เราก็อาจไม่หลงเหลือโอกาสอีกต่อไป” เธอเตือน

 

ธันเบิร์กเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองยึดมั่นพันธกรณีในข้อตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมุ่งควบคุมไม่ให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส

 

ในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ธันเบิร์กถูกตั้งคำถามว่า สาส์นจากเธอจะไปถึงผู้คนหรือไม่ ธันเบิร์กตอบว่า “ฉันคิดว่าผู้คนได้ยินเสียงของฉันค่ะ แต่อาจยังไม่ใช่บุคคลสำคัญที่สุด

 

“อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ชอบพูดคุยกับผู้คนนัก แต่ฉันจะพูดก็ต่อเมื่อฉันจำเป็นต้องพูดจริงๆ”

 

ธันเบิร์กคิดว่า เสียงของเธอจะดังก้องกังวานเป็นพิเศษ “เพราะฉันยังเป็นเด็ก”

 

“เมื่อฉันเคยบอกว่า พวกคุณขโมยช่วงเวลาวัยเด็กของฉัน รวมถึงอนาคตของคนรุ่นใหม่ ฉันคิดว่าพวกผู้ใหญ่จะต้องรู้สึกผิดอย่างมาก” เธอกล่าว

 

ธันเบิร์กยอมรับว่า การต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน “เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดเท่าที่มนุษย์กายวิภาคปัจจุบัน (โฮโม เซเปียนส์) เคยเผชิญมา”

 

“แต่ทางออกหลักนั้นง่ายดายมาก จนแม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็สามารถเข้าใจได้ เราต้องหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั่นเอง”

 

“หากเราไม่เลือกความศิวิไลซ์ต่อ เราก็ต้องไม่มีมัน เพราะไม่มีพื้นที่สีเทาเพื่อความอยู่รอด”

 

คูมิ ไนดู เลขาธิการองค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ว่า เยาวชนคนรุ่นหลังจะเป็นผู้รับผลกระทบจากความล้มเหลวของผู้นำในการแก้ปัญหาโลกร้อน

 

 

ที่ผ่านมา นอกจากการพูดบนเวทีแล้ว ธันเบิร์กยังทำหน้าที่นักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยการรณรงค์ให้เยาวชนรวมพลังเพื่อสร้างเสียงที่ก้องกังวานไปถึงผู้นำทั่วโลก โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (25 ม.ค.) เธอนำนักเรียนและเด็กๆ หลายสิบคนออกมารวมตัวกันในบริเวณศูนย์ประชุมดาวอสภายใต้แคมเปญ ‘School Strike’ หรือนัดหยุดเรียน เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

 

“ผมงดเข้าเรียน เกรตาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเข้าร่วมเคลื่อนไหวครั้งนี้ และตอนนี้ผมก็อยู่ที่นี่ และนั่งอยู่ข้างเธอ” แม็กซิมิเลียน คริสเตียน เด็กนักเรียนมัธยมวัย 15 ปี จาก Coire กล่าว

 

ก่อนหน้านี้ธันเบิร์กให้สัมภาษณ์กับ AFP หลังเดินทางด้วยรถไฟเป็นเวลา 32 ชั่วโมงจากกรุงสตอกโฮล์มถึงดาวอสว่า “ฉันเลิกเดินทางด้วยเครื่องบิน ด้วยเหตุผลเรื่องของภูมิอากาศ” นอกจากนี้ ธันเบิร์กยังขอให้พ่อแม่ทำแบบเดียวกับเธอ และหันมารับประทานอาหารมังสวิรัติด้วย

 

การที่เธอเป็นนักปฏิบัติด้วยนี่เอง ทำให้เธอกลายเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกภายในเวลาอันรวดเร็ว และผู้คนก็พร้อมจะฟังเธอพูด

 

“เธอทำให้ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ เด็กผู้หญิงคนนี้สร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง” มาร์ก โอเคอร์สตรอม ตัวแทนจาก Expedia Group บริษัทเทคโนโลยีท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ แสดงความเห็น

 

ขณะที่ คริสเตียนา ฟิเกอเรส นักการทูตชาวคอสตาริกา ซึ่งเป็นหัวหอกผลักดันข้อตกลงปารีสปี 2015 กล่าวว่า “ธันเบิร์กเป็นเสียงที่ทรงพลังมาก”

 

“เธอคือเสียงของคนรุ่นเยาว์ และเป็นเสียงแห่งความคับแค้น”

 

จากนี้ไปธันเบิร์กจะเป็นพลังของคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน กับบทบาทที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หรือก่อนการประชุม COP24 ที่โปแลนด์ เธอนำทัพเด็กนักเรียนหยุดเรียนประท้วงที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาสวีเดนทุกวันศุกร์ และหลังจากนั้น สุนทรพจน์ของเธอบนเวทีสหประชาชาติได้สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนหลายหมื่นคนทั่วโลกนัดหยุดเรียนประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง

 

และในเวที WEF ธันเบิร์กได้ปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมย้ำเตือนภัยพิบัติที่ทุกคนควรตระหนักและเตรียมรับมือได้แล้ว

 

“บ้านของเรากำลังลุกเป็นไฟ พวกผู้ใหญ่เอาแต่พร่ำบอกว่า เรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อคนรุ่นใหม่ เพื่อมอบความหวังให้พวกเขา แต่ฉันไม่ต้องการความหวังของคุณ ฉันไม่ต้องการให้คุณคาดหวัง ฉันต้องการให้คุณตื่นตระหนกต่างหาก” ธันเบิร์กกล่าว

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising