ไม่ต้องออกจากบ้านก็มีมื้อพิเศษได้ 10 ร้านเดลิเวอรีที่เราคัดมาแล้วว่าน่าสนใจ!

สถานการณ์โควิดเริ่มมีท่าทีแย่ลง วันเสาร์-อาทิตย์คนเริ่มไม่ออกไปกินข้าวข้างนอก หลายออฟฟิศประกาศให้ทำงานที่บ้านได้ ร้านอาหารต่างๆ จึงขยับขยายมาทำอาหารเดลิเวอรี และร้านเดลิเวอรีเจ้าใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นเพียบ สำหรับใครที่กำลังวางแผนการทำงานที่บ้านว่าจะกินอะไรดี หรือกำลังวางแผนมื้อพิเศษแบบไม่ต้องออกจากบ้านสำหรับสุดสัปดาห์นี้ เรารวบรวม 10 ร้านเดลิเวอรีที่น่าสนใจมาให้ทุกคนเลือกกัน มีตั้งแต่อาหารไทย อาหารอินเดีย อาหารสุขภาพ พิซซ่า ไปจนถึงเบียร์คราฟต์เดลิเวอรีเลย

ภาพ: KUBKAOeveryday

1.KUBKAOeveryday

เพราะคนเราต้องกินข้าวทุกวัน เลยเกิดเป็น ‘KUBKAOeveryday’ ร้านอาหารเดลิเวอรีที่มาจากความรักในการทำอาหารไทยแบบ Home Cooking ของกลุ่มเพื่อน 3 คนที่มักจะทำอาหารและถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียอยู่เสมอจนมีแต่คนอยากลองชิม และจากความคิดที่ว่าอย่างไรคนเราก็ต้องกินข้าวทุกวัน เลยนำคำนี้มาตั้งเป็นชื่อร้านเสียเลย เมนูที่ทางร้านขายดีก็จะเป็น ‘เมี่ยงดอกไม้’ ทำจากดอกไม้ Edible Flower สีสันสดใส ‘ข้าวผัดต้มยำกุ้ง’ และ ‘น้ำพริกอ่อง’ สูตรเมือง ใช้น้ำอ้อยเคี่ยว เมนูน่ากินเหล่านี้ราคาเริ่มต้นที่ 55 บาทเท่านั้นเอง

Facebook: facebook.com/KKeverydaybox/

โทร: 09 5538 1973

ภาพ: A.MA&I

2.A.MA&I

ไม่มีเมนูไหนดีต่อใจ เท่าเมนูฝืมือแม่ ด้วยความรักและตั้งใจที่จะรักษา สืบสาน และต่อยอดสูตรอาหารของอาม่า จึงเกิดเป็น ‘A.MA&I’ (อาม่า แอนด์ ไอ) ที่มีความหมายว่า จากอาม่าสู่ฉัน ตามธรรมเนียมในครอบครัวคนจีนที่สิ่งต่างๆ ถูกส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น และสูตรอาหารของอาม่าก็เช่นกัน ร้านอาหารเดลิเวอรีร้านนี้เน้นเป็นอาหารจีนดั้งเดิม บางเมนูก็หากินได้ยากแล้ว อย่าง ‘โควกวยเกี่ยมฉ่าย’ หรือ ต้มมะระผักกาดดอง ‘ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง’ และ ‘ชุดข้าวซาเอี่ย’ หรือกับข้าวจีน 3 อย่าง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 100 บาท และเมนูในแต่ละวันนั้นไม่เหมือนกัน เรียกได้ว่าสั่งร้านนี้อย่างไรก็ไม่มีเบื่อ

Facebook: facebook.com/AMAI-109927143741342/

Instagram: instagram.com/a.ma.and.i/

ภาพ: Curry in Boxes

3.Curry in Boxes

Curry in Boxes ร้านอาหารอินเดียสไตล์ Home Cooking ที่เกิดจากความรัก และทำเพื่อความรักของเชฟหนุ่มชาวอินเดียและสาวสองชาวไทย ให้บริการเฉพาะเดลิเวอรีที่ต้องสั่งอาหารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ในแต่ละวันรับออร์เดอร์เพียง 15 ออร์เดอร์ เมนูของร้านจะเป็นเมนูประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Chicken Tikka Masala’ แกงไก่ย่างรสชาติเข้มข้น หรือเมนูที่หลายคนรักอย่าง ‘Prawn Biryani’ ข้าวหมกกุ้งที่ให้กุ้งเยอะแบบอย่างไรก็อิ่ม ในแต่ละวันเมนูจะแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมี Thali Set หรืออาหารถาดหลุมที่รวมอาหารอินเดีย 5 อย่างไว้ด้วยกันในราคา 250 บาท สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองกินอาหารอินเดีย ให้ได้รู้กันไปเลยว่าชอบแบบไหน

Facebook: facebook.com/curryinboxes/

4.KRBB The Boutique Butcher

คนรักเนื้อก็มีมื้อพิเศษได้โดยไม่ต้องออกไปล่าที่ไหน เพราะ ‘KRBB’ ร้านเนื้อขวัญใจคนรักเนื้อได้ออกเมนูเดลิเวอรีในชื่อของ ‘a la KRBB’ ให้ทุกคนได้ไปฟินกับเนื้อฮิมาวาริ เนื้อวัวนมสัญชาติไทย หัวใจญี่ปุ่น เลี้ยงด้วยเมล็ดทานตะวัน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น และรสสัมผัสของเนื้อจริงๆ มาทำเป็นเมนูไทยๆ อย่าง ‘ข้าวผัดเนื้อเค็ม’ หรือ ‘สุกี้แห้งเนื้อ’ แต่นอกจากเมนูไทยๆ ง่ายๆ ราคาเริ่มต้นที่ 290 บาท เขาก็ยังมีเมนูสุดอลังการอย่าง ‘ข้าวผัดมันเนื้อฮิมาวาริ กับเนื้อสันคอฮิมาวาริย่าง’ สำหรับมื้อหรูด้วยนะ

Facebook: facebook.com/krbbbutcher/

Website: alakrbb.com/

ภาพ: Again & Again

5.Again & Again

‘Again & Again’ ร้านข้าวกล่องมาแรงในโลกทวิตเตอร์ ที่จะมาลบภาพจำของอาหารสุขภาพที่ดูน่าเบื่อ จืดชืด อกไก่ที่แข็งและแห้งจนกินแล้วรู้สึกเหมือนทำโทษตัวเองที่อ้วนเกินไป สร้างประสบการณ์ใหม่ที่เข้ากับวัยรุ่นสมัยนี้ เกิดเป็น ‘ข้าวอกไก่นู่มม’ ข้าวกล่องที่มีประโยชน์จากอกไก่อบที่หมักจนนุ่มและหอมโรสแมรี พร้อมไข่ดาวที่ทำจากไข่ออร์แกนิกจากฟาร์มของทางร้านเอง แน่นอนว่าข้าวกล่องนี้ไม่มีการใช้น้ำมันเลย และราคาน่ารักมาก เพียงแค่ 69 บาทเท่านั้นเอง ทั้งสุขภาพดี รู้สึกดี และถ่ายรูปขึ้นแบบนี้ต้องสั่งมาตุนแล้ว มีบริการจัดส่งฟรีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ไอคอนสยาม และตามแนวรถไฟฟ้า BTS ด้วยนะ

Twitter: twitter.com/againandagainoo

ภาพ: Plantiful.bkk

6.Plantiful

ในช่วงเวลาแบบนี้ เสริมภูมิคุ้มกันด้วยผักและธัญพืชจะดีที่สุด ‘Plantiful’ ร้านอาหารเดลิเวอรีที่เน้นส่วนผสมหลักจากพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ผ่านขั้นตอนการแปรรูปน้อยที่สุด เหมาะกับคนรักสุขภาพหรือคนที่กำลังควบคุมอาหาร ทางร้านจะขายเป็นคอร์ส เริ่มต้นที่คอร์ส 3 วัน 1,500 บาท จะได้รับอาหารวันละ 2 มื้อ คืออาหารกลางวัน อาหารเย็น และของกินเล่นอีก 1 อย่าง เรียกได้ว่าถ้าสมัครแล้วก็ไม่ต้องออกจากบ้านไปไหนให้เสี่ยงเลย ส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในด้วยนะ

Facebook: facebook.com/plantiful.bkk/

Website: plantifulbkk.com/

7.สุดคั่ว by สุพรรณิการ์

‘สุดคั่ว by สุพรรณิการ์’ ร้านเดลิเวอรีที่นำเสนอ ‘คั่วพริกเกลือเมืองตราด’ ที่เด่นในเรื่องของพริกเกลือที่ทำจากการตําพริกขี้หนูสวน กระเทียม ปรุงรสด้วยนํ้าตาลเล็กน้อย และบีบมะนาวสดๆ ลงไปเพื่อเพิ่มความเปรี้ยว แล้วนำไปคั่วกับอาหารทะเลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปู กุ้ง ไข่ปลาหมึก หรือไข่ปู มีทั้งแบบผัดข้าวและแบบราดข้าว เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวหรือไข่ต้มที่ทำมาจากไข่เป็ดสีส้มสวยสดใส พร้อมส่งถึงหน้าประตูบ้านแบบไม่ต้องไปจังหวัดตราดก็ลิ้มรสชาติแบบเมืองตราดแท้ๆ ได้แบบง่ายๆ

Facebook: facebook.com/soodkuabysupanniga

Website: supannigagroup.com/delivery

ภาพ: นิลทิมพง

8.นิลทิมพง

อยากกินมื้อพิเศษ ปลาย่างตัวใหญ่ๆ กุ้งแม่น้ำเผามันเยิ้มๆ ก็ไม่ต้องไปไหนไกล ‘นิลทิมพง’ ร้านอาหารเดลิเวอรีที่เน้นเมนูปลาตามชื่อร้านเลย ไม่ว่าจะเป็นปลานิล ปลาทับทิม ปลากะพง นอกจากนั้นยังยกพวกเพื่อนๆ ทั้งกุ้ง ปลาหมึกมาด้วย สำหรับใครที่อยู่คนเดียว กลัวว่าปลาทั้งตัวจะกินไม่ไหว ทางร้านก็มีอาหารจานเดียวอย่าง ‘ข้าวแมวกะพง’ แต่ถ้าอยากฉลองจัดใหญ่ก็มีเมนูอย่าง ‘ปลาเผา’ ที่เลือกได้ว่าจะเป็นปลาอะไร ‘กุ้งอบเกลือ’ กินเพลินๆ และ ‘ปลาหมึกย่าง’ หอมๆ

Facebook: facebook.com/nintimpong/

Instagram: instagram.com/nintimpong/

โทรศัพท์: 0922695665

9.Phed Mark เผ็ดมาร์ค

กะเพราธรรมดาๆ ก็พิเศษได้ด้วยความเผ็ดและวัตถุดิบชั้นยอด ‘Phed Mark เผ็ดมาร์ค’ ร้านกะเพราย่านเอกมัยที่เพิ่งประกาศปิดร้านชั่วคราว และย้ายไปทำเป็นเดลิเวอรีอย่างเดียวในช่วงนี้ เมนู ‘กะเพราเนื้อ’ ของทางร้านนั้นไม่ธรรมดาด้วยวัตถุดิบที่สรรหามา และผลัดเปลี่ยนไปในทุกวัน บางวันกะเพราเนื้อของทางร้านก็ใช้เนื้อฮิมาวาริ บางวันก็ใช้เป็นเนื้อแองกัส รับรองว่าใช้เนื้อที่ดีในทุกวันแน่นอน ส่วน ‘กะเพราหมู’ นั้นก็คัดเลือกเนื้อหมูที่ดีมาเหมือนกัน ในส่วนของความเผ็ดนั้นมีแบบสแตนดาร์ดกับแบบเผ็ดน้อย แต่ถ้ากินเผ็ดได้ เราแนะนำให้สั่งแบบสแตนดาร์ดไปเลย

Facebook: facebook.com/PhedMark/

Instagram: instagram.com/phedmarkbkk

ภาพ: Gallery Pizza

10.Gallery Pizza

บางครั้งอาหารง่ายๆ อย่างพิซซ่าก็สามารถช่วยเยียวยาจิตใจจากความเครียดได้ ‘Gallery Pizza’ พิซซ่าเตาถ่านทำมือที่เดลิเวอรีแบบยังร้อนๆ ถึงหน้าประตูบ้าน และแน่นอนว่าร้านเปิดจนถึงตีสี่ ไม่ว่าคุณจะนอนไม่หลับ หรือดูซีรีส์เพลินยันเช้า ร้านพิซซ่าเดลิเวอรีแห่งนี้สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้ มีพิซซ่าหน้าแปลกๆ ที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคยให้เลือกหลายหน้าอย่าง ‘Artichoke Capri’ พิซซ่าหน้าอาร์ติโชก หรือจะเป็น ‘Honey Napoli’ พิซซ่าหน้าซาลามีนโปลีราดด้วยน้ำผึ้งพริก สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศที่จำเจจากพิซซ่าหน้าเดิมๆ ต้องลอง พิซซ่าทุกถาดมีขนาดเดียวคือ 8 ชิ้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 265 บาท สั่ง 2 ถาดราคาอยู่ที่ 499 บาทเท่านั้น

Facebook: facebook.com/GalleryPizzaBkk/

Website: gallerypizzabkk.com

โทร: 020-411-044

ติดตามบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และเหตุการณ์โควิด-19 กันต่อได้ที่

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์