×

ผู้นำแอฟริกาใต้ชี้ การจับตัวปูตินถือเป็นการประกาศสงครามกับรัสเซีย-ทำลายแผนสันติภาพในยูเครน

19.07.2023
  • LOADING...
แอฟริกาใต้

ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ชี้ว่า การจับตัว วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ขณะกำลังจะเข้าร่วมการประชุม BRICS ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ ตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จะถือเป็นการประกาศสงครามกับรัสเซีย ทั้งยังทำลายแผนสันติภาพในยูเครนที่รัฐบาลแอฟริกาใต้มีส่วนร่วมพยายามผลักดันมาโดยตลอด

 

โดยผู้นำรัสเซียได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ รามาโฟซายังชี้แจงอีกว่า ทางการแอฟริกาใต้พยายามที่จะยื่นเรื่องยกเว้นการจับกุมปูติน โดยมองว่าการจับกุมผู้นำรัสเซียอาจคุกคามความมั่นคง สันติภาพ และความสงบเรียบร้อยของรัฐได้ ทั้งยังไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เข้าไปพัวพันกับการทำสงครามกับรัสเซียมากยิ่งขึ้น

 

ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การจับกุมปูตินตามหมายจับของ ICC ในมิติหนึ่งจะขัดต่อหน้าที่และบทบาทของเขาให้การปกป้องประเทศแอฟริกาใต้ รวมถึงทำลายความพยายามในการผลักดันแนวทางสันติภาพให้เกิดขึ้นในสมรภูมิสงครามรัสเซีย-ยูเครนอีกด้วย

 

ตามเงื่อนไขที่ระบุในสนธิสัญญาของศาลอาญาระหว่างประเทศ ประเทศสมาชิกควรยื่นเรื่องปรึกษา ICC หากพบปัญหาหรือเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถจะปฏิบัติตามคำร้องขอของศาล ICC ได้ และศาลอาจไม่ร้องขอให้ดำเนินการตามหมายจับดังกล่าว หากการดำเนินการนั้นจะทำให้รัฐต้องฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มกันทางการทูต

 

โดย ICC ได้ออกหมายจับปูตินในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เขามีส่วนต้องรับผิดชอบจากกรณีที่รัสเซียผลักดันเด็กๆ จากยูเครนไปยังรัสเซียโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งชี้ว่าปูตินไม่ได้ใช้อำนาจของเขาในการยับยั้งการผลักดันเด็กๆ เหล่านี้

 

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเคยออกมาระบุว่า หมายจับดังกล่าวของ ICC ไม่มีความหมาย แม้จะมีการออกหมายจับ แต่ ICC ก็ไม่ได้มีอำนาจในการจับกุมผู้ต้องสงสัย อีกทั้งสิทธิดังกล่าวจะสามารถใช้อำนาจศาลได้ในเฉพาะประเทศที่ลงนามในข้อตกลงของที่จัดตั้งศาล ICC เท่านั้น ซึ่งรัสเซียไม่ได้ร่วมลงนาม ความพยายามที่จะส่งตัวผู้นำรัสเซียไปรับการพิจารณาโทษจึงแทบจะไม่น่าเป็นไปได้

 

ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้มูลค่าการซื้อขายระหว่างแอฟริกาใต้และรัสเซียจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป แต่แอฟริกาใต้และรัสเซียก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นกันเรื่อยมา โดยเฉพาะการที่รัสเซียสนับสนุนพรรค ANC (African National Congress) ต่อสู้กับประเด็นการแบ่งแยกสีผิว

 

โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รามาโฟซาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่นำคณะผู้แทนสันติภาพจาก 7 ประเทศในแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็นแอฟริกาใต้ อียิปต์ คองโก เซเนกัล แซมเบีย ยูกันดา และคอโมโรส ในการร่วมหารือกับรัฐบาลยูเครนที่กรุงเคียฟและรัฐบาลรัสเซียที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อสนับสนุนสันติวิธีและผลักดันแนวทางสันติภาพให้เกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็ว

 

แฟ้มภาพ: Sergei Chirikov / AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising