×
SCB Omnibus Fund 2024

‘ศรีจันทร์’ รีเฟรชแบรนด์ลูก ‘Sasi’ จากเครื่องสำอางสู่ Beauty and Lifestyle Brand หวังลบภาพความขมุกขมัวให้ชัดเจนขึ้น

27.06.2022
  • LOADING...
ศรีจันทร์

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ‘ศรีจันทร์’ ซึ่งวันนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 70 ปี ได้แตกแบรนด์ลูกออกมาโดยใช้ชื่อว่า ‘Sasi’ ซึ่งเกิดจากการที่แบรนด์อยากจะขยายฐานกลุ่มลูกค้าเดิมไปสู่กลุ่ม Young Generation มากขึ้น

 

“ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของ Sasi คืออายุตั้งแต่ 16-35 ปี เป็นกลุ่มที่เลือกซื้อเครื่องสำอางคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งการดูแลผิว และการแต่งหน้าในชีวิตประจำวันได้ง่าย สะดวก และทันสมัย” ระบิล สิริมนกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

แต่ในความเป็นจริงภาพของ Sasi กลับยังไม่ชัดเจนมากนัก จะเด็กก็ไม่เด็ก จะเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง ทำให้เกิดเป็นภาพความขมุกขมัวและความสับสนในแง่ของการวางโพสิชันของแบรนด์เอง ซึ่งที่ผ่านมานั้น Sasi เน้นสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง และลิปทินต์ในราคาหลักสิบไปจนถึงหลักร้อย

 

ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาด ‘ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Makeup)’ มีมูลค่ารวม 2.26 หมื่นล้านบาทในปี 2564 (Euromonitor) และการเกิดขึ้นของแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยมากมาย ไม่นับรวมแบรนด์ใหญ่ที่มีสรรพกำลังในการทุ่มกับตลาดนี้ไม่อั้น ทำให้ Sasi รู้ดีว่าหากยังเป็นแบบเดิมต่อไปน่าจะสู้ได้ยากกับการแข่งที่ดุเดือดขึ้นทุกวัน

 

ทำให้แบรนด์แม่อย่าง ‘ศรีจันทร์’ ตัดสินใจรีเฟรชแบรนด์ ‘Sasi’ จากเครื่องสำอางสู่ Beauty and Lifestyle Brand โดยเน้นไปที่ความงามของผู้หญิงผ่านไลฟ์สไตล์ ซึ่งความสวยงามนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของเมกอัพ แต่ยังรวมถึงเรื่องของเทรนด์แฟชั่น การมิกซ์แอนด์แมตช์ ทั้งการแต่งหน้าแต่งตัว ความมั่นใจ และทัศนคติ ให้ออกมาเป็นความงามในแบบฉบับของแต่ละบุคคล

 

“Sasi อยากเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าให้มากขึ้น (A Day in A Life) เพราะผู้หญิงไม่ได้สนใจแค่เรื่องความงามภายนอกเพียงอย่างเดียว ทุกคนอยากจะสื่อสารตัวตนผ่านทางความคิด ทัศนคติ และพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่มีอยู่ภายในด้วย เราจึงมั่นใจว่า Brand Personality ของเรานั้นมาจากอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าจริงๆ นั่นคือ ความมั่นใจ ความทันสมัย และการพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่อย่างรวดเร็ว”

 

การรีเฟรชในครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วผ่านการออกไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ หมวกและกระเป๋า ซึ่งออกแบบมาจากลายโมโนแกรมของ Sasi ตลอดจนยังคงโฟกัสที่กลุ่ม Base Makeup ที่นอกจากคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ต้องมาเป็นอันดับ 1 ราคาต้องย่อมเยา จับต้องได้

 

“ปีที่แล้วเราโตในระดับตัวเลขหลักเดียว แต่ช่วง 5 เดือนแรกของปีตัวเลขดีขึ้น ทำให้ปีนี้เราเชื่อว่าจะสามารถเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้คนจะสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้แล้ว”

 

ปัจจุบันรายได้หลัก 60% ยังมาจากแบรนด์ศรีจันทร์ ส่วน Sasi อยู่ที่ราว 35% และอื่นๆ อีก 5% ด้วยกัน 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising