คุณว่าไหมว่าเรามักคุ้นเคยกับร้านอาหารไทยด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกคือร้านดั้งเดิมที่ตกแต่งหรูหราด้วยสีทอง ลายกระหนก และสารพัดความเป็นไทยแต่โบราณ แบบที่สองคือร้านที่ตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้บ้านๆ ตามภูมิภาคของอาหารที่ขาย รูปแบบของร้านอาหารที่ช่างจำเจเช่นนี้ทำให้สองพี่น้องเกิดไอเดียทำร้านอาหารไทยที่แม้รสชาติจะไม่แหวกแนวหรือไม่ใช่ไฟน์ไดนิ่ง แต่สไตล์ร้านช่างโดดเด่นเกินกว่าใครในซอยศาลาแดง 1 ที่แม้ขับรถผ่านก็ยังต้องแอบเหลียวมอง
ร้านตั้งอยู่หัวมุมถนนในซอยศาลาแดง 1 นี่เอง
Saladang Dining Hall หรือโรงอาหารศาลาแดงในชื่อภาษาไทย คือชื่อของร้านอาหารไทยน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากซอยศาลาแดง 1 สังเกตได้ง่ายไม่ว่าจะมาจากเส้นไหนก็ตาม ด้วยความที่อยู่หัวมุมซอยและมีความมินิมัลเตะตามาแต่ไกล ที่นี่จึงมีทั้งคนไทย คนต่างชาติ และนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามานั่งชิลหรือฝากท้องกันอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน
บรรยากาศเรียบง่ายแต่สวยงามภายในร้านที่ออกแบบโดยน้องชาย
จากประสบการณ์ทำธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว ทำให้สองพี่น้อง นุ่ม-สินธุ์สิริ และเนย-ชภัทร ติวุตานนท์ จัดแจงปักหมุดเปลี่ยนตึกแถวในซอยศาลาแดงให้กลายเป็นอาณาจักรความอร่อยย่อมๆ ของพวกเขาทั้งร้านอาหารและบาร์ ไม่ว่าจะเป็นร้านสเต๊ก The Meatchop Butcher & Spirits หรือ Happy Endings ร้านอาหารเวียดนามและเอเชียนบาร์เล็กๆ บนชั้นลอยของ The Meatchop กระทั่งร้านระดับรุ่นพี่ที่กลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวแถบเกาหลีไปแล้วอย่าง Bitterman ที่หลายคนน่าจะเคยไป และล่าสุดกับน้องคนสุดท้อง Saladang Dining Hall (ศาลาแดง ไดนิ่ง ฮอลล์) โรงอาหารของคนศาลาแดง ค็อกเทลบาร์ และพื้นที่สังสรรค์ในบรรยากาศที่เป็นกันเองสำหรับคนย่านนี้
ร้านโปร่งโล่ง และมี 2 ชั้นให้เลือก
The Vibe
พี่สาวเป็นคนออกไอเดีย ส่วนน้องชายออกแบบร้าน ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นส่วนผสมระหว่างร้านอาหารไทยกับบรรยากาศโมเดิร์น มินิมัล อบอุ่น และความเอิร์ธโทน ร้านมี 2 ชั้น ออกแบบให้แสงแดดส่องทั่วถึงทั้งชั้นล่างและชั้นบน แม้จะเป็นตึกแถวซึ่งมีเหลี่ยมมุมตึกเป็นเรื่องปกติ แต่ภายในกลับไม่รู้สึกว่าเป็นตึกแถว เพราะมีการออกแบบให้มีพาร์ทิชันโค้งมนสอดรับกับเหลี่ยมมุมให้ดูมีมิติยิ่งขึ้น ชั้นล่างรายล้อมด้วยกระจกใส แต่สิ่งที่โดดเด่นดูเหมือนจะเป็นค็อกเทลบาร์ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องลอนแบบสเปน รายล้อมด้วยโต๊ะเก้าอี้ไม้และมุมโซฟาสีเอิร์ธโทนน่าถ่ายรูปอย่างที่สุด ส่วนชั้นบนเหมาะสำหรับการสังสรรค์เป็นกลุ่มหรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัว แถมมีมุมนั่งเล่นบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
ผัดสายบัวตำรับสุโขทัย
The Dishes
โรงอาหารศาลาแดงนำเสนออาหารไทยเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดที่เราคุ้นเคยกันดีมาจัดแจงด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากไทยและต่างประเทศ ปรุงรสตามแบบฉบับของอาหารแต่ละเมนูโดยไม่พึ่งผงชูรส มั่นใจได้เลยว่ารสชาติอาหารทุกจานมาจากวัตถุดิบ เครื่องปรุง หรือพริกแกงล้วนๆ ไม่มีผงชูรสเจือปน
สั่งข้าวสวยร้อนๆ แล้วจิ้มเมนูกับข้าวมากินกัน ผัดสายบัว (180 บาท) จานนี้อาจพาคุณย้อนวัยไปสมัยเด็กๆ กับเมนูของที่บ้าน ผัดสายบัวมีหลายตำรับ บางที่ผัดน้ำมันหอย บางที่ผัดกระเทียมซีอิ๊ว ส่วนที่นี่ผัดกับกะปิและกุ้งตามตำรับสุโขทัย ผัดสายบัวที่ดีสายบัวต้องไม่ช้ำ ไม่เละ และต้องไม่มี (เยื่อ) ใยให้รำคาญปากเวลารับประทาน เราชอบกลิ่นทะเลที่ปะทะจมูกทุกครั้งเมื่อตักผัดสายบัวพร้อมข้าวสวยเข้าปาก
เสือร้องไห้เนื้อชุ่มฉ่ำ และหูหมูทอดจิ้มน้ำพริกอ่อง
สายเบียร์และนักกินกับแกล้ม คุณโชคดีแล้วที่มา Saladang Dining Hall เพราะ เสือร้องไห้ (280 บาท) รสเด็ดอย่าบอกใคร เนื้อแฟรงค์ออสเตรเลียย่างถ่านแล้วราดซอสพริกป่น โรยหอมแดง ข้าวคั่ว และบีบมะนาวอีกเล็กน้อย เสิร์ฟแบบมีเดียมแรร์ จะแกล้มเบียร์ กินเล่น หรือรับประทานคู่กับข้าวสวยก็เข้ากันได้ดีทุกแบบ
มื้ออาหารของคนไทย หากไม่มีน้ำพริกก็ดูไม่สมบูรณ์แบบ แนะให้ลอง หูหมูทอดจิ้มน้ำพริกอ่อง (170 บาท) แทนที่จะมีแคบหมูไว้จิ้มน้ำพริกอ่อง เปลี่ยนมาใช้หูหมูทอดสัมผัสกรุบกรอบไร้น้ำมัน จิ้มกับน้ำพริกอ่องที่มาแบบค่อนข้างแห้ง แกล้มด้วยผักสด กินเพลินไม่รู้เบื่อ
แกงเผ็ดเป็ดย่างและซี่โครงเนื้อวากิวอบน้ำปลาที่ย่างได้ที่จนเนื้อนุ่ม รับประทานง่าย
ลองสั่ง แกงเผ็ดเป็ดย่าง (220 บาท) มารับประทานกับข้าวสวย แกงกะทิกับพริกแกง ใส่เป็ดกรอบย่าง ให้รสสัมผัสหนังกรอบเนื้อนุ่มคล้ายเมนู Duck Confit แบบฝรั่งเศสเข้าไปในแกง เคี่ยวต่ออีกสักพักจนแกงซึมซาบเข้าเนื้อ
ซี่โครงเนื้อวากิวอบน้ำปลา (680 บาท) จะเรียกว่าจานหลักก็ไม่ได้ สเต๊กก็ไม่เชิง แต่เราอยากให้ทุกคนได้ลองกินซี่โครงเนื้อวากิวออสเตรเลียหมักน้ำปลาแล้วย่างบนเตาถ่านจนผิวนอกแห้งกรอบ ผิวในนุ่มจนใช้ส้อมฉีกให้เนื้อล่อนได้ ซี่โครงเนื้ออบจานนี้ยังมาพร้อมส้มตำไทยอีกด้วย
ค็อกเทลที่นี่เด็ดไม่แพ้บาร์ค็อกเทลที่ไหนนะ บอกเลย
The Drinks
ล้างปากด้วยของหวานสุดคลาสสิกที่ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็ชอบอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง (130 บาท) จากนั้นต่อด้วยค็อกเทลของหวานอีกสักแก้ว Monsoon Cup (260 บาท) อาฟเตอร์มีลค็อกเทลที่เบสด้วยเหล้าแม่โขง เพิ่มรสชาติครีมมี่จากกะทิ ไซรัปใบเตย เหล้ามะพร้าว และน้ำมะนาวอีกนิดหน่อย ก่อนที่จะโรยหน้าตกแต่งด้วยมะพร้าวคั่ว แก้วนี้ให้รสชาติหวานมัน ดื่มง่าย เหมาะสำหรับปิดท้ายมื้ออาหาร
Full Moon Bay
รัมค็อกเทลไว้ดื่มก่อนมื้ออาหาร แนะนำ Full Moon Bay (260 บาท) ที่ใช้เหล้ารัมภูเก็ตเป็นเบส ตามด้วยเวอร์มุท เก๊กฮวย และไข่ขาว โดดเด่นด้วยฟองนุ่มๆ และสีเหลืองนวลของดริงก์ที่ชวนดื่มตั้งแต่จิบแรกจนถึงหยดสุดท้าย ได้รสชาติเปรี้ยวอมหวานเบาๆ และหอมกลิ่นดอกเก๊กฮวย
What You Should Know
- ทุกเย็นระหว่างเวลา 17.00-19.00 น. มีโปร Happy Hour ให้เลือกระหว่างไทยค็อกเทล 1 แถม 1 หรือเซตเบียร์ 2 ขวดพร้อมกับแกล้ม ในราคาเพียง 300 บาท
- ข้ามถนนไปอีกนิดจะพบกับร้านอาหารพี่น้อง The Meatchop Butcher & Spirits และ Happy Endings หรือจะเดินเข้าซอยศาลาแดง 1 ไปอีกหน่อยก็มี Bitterman
- สามารถจอดรถได้ที่ตึกอื้อจื่อเหลียง ประทับตราจอดรถได้ฟรี 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือหากมาวันเสาร์ก็จอดฟรีทั้งวัน
Saladang Dining Hall
Open: เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-23.00 น.
Address: ซอยศาลาแดง 1 (ตรงข้าม Bangkok Screening Room) กรุงเทพฯ
Budget: 300-500 บาท
Contact: 09 5907 9947
Website: www.facebook.com/saladangdininghall
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์