×

เปิดไฟลิ่งหุ้นน้องใหม่ PRTR ผู้ให้บริการด้าน HR ครบวงจร ที่เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

10.08.2022
  • LOADING...
หุ้น PRTR

บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป หรือ PRTR ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น โดยจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เงินจากการระดมทุนครั้งนี้จะใข้สำหรับคืนหนี้ และเป็นทุนหมุนเวียน โดยล่าสุด JMART ได้ทำสัญญาซื้อ-ขายหุ้น PRTR จำนวน 90 ล้านหุ้น หรือ 15% ผ่านบิ๊กล็อตในวันแรกที่ PRTR เข้า-ซื้อขาย ในราคาเท่ากับ IPO 

 

PRTR ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

PRTR เป็นผู้ให้บริการด้าน HR ครบวงจร 

บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป หรือ PRTR เป็นผู้ให้บริการจัดหาบุคลากร และให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Outsourcing) แบบครบวงจร ได้แก่ การจัดหาบุคลากรในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ให้เพียงพอกับที่ลูกค้าต้องการ, การจัดทำข้อมูลเงินเดือน ค่าตอบแทน ผลประโยชน์พนักงาน, การบริหารจัดการและการฝึกอบรมพนักงาน และให้บริการสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) ตั้งแต่ระดับทั่วไป (Junior Level) จนถึงระดับผู้บริหาร (Executive Level) โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้สมัครงานที่กำลังหางาน (Candidate) และบริษัทที่กำลังหาพนักงานเข้ามาทำงานในส่วนต่างๆ

 

การประกอบธุรกิจของ PRTR จะดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย 4 บริษัท ที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจชัดเจน ได้แก่

 

  1. ธุรกิจบริหารจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing Services) การให้บริการบริหารจัดจ้างพนักงานที่มีคุณสมบัติและจำนวนสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงให้บริการงานด้านการบริหารบุคลากร (HR Outsourcing) 

 

  1. ธุรกิจให้บริการสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) ดำเนินการภายใต้บริษัทจัดหางานพีอาร์ทีอาร์ จำกัด (RE) และบริษัทจัดหางานพีอาร์ทีอาร์แอนด์เอ๊าท์ซอสซิ่ง (อีสเทิร์นซีบอร์ด) จำกัด (ES)

 

  1. ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ (Job Platform) ให้บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ ดำเนินงานภายใต้บริษัท เน็กซ์มูฟ แพลตฟอร์ม จำกัด (NEXMOVE) 

 

  1. ธุรกิจให้บริการฝึกอบรมและสัมมนา (Integrated Learning หรือ Training) ให้บริการฝึกอบรมและสัมมนา ดำเนินการภายใต้บริษัท เดอะแบล็คสมิธ จำกัด (BLACKSMITH)

 

ลูกค้าหลักคือบริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการ

กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัททั้งธุรกิจบริหารจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing Services) และธุรกิจการสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ บริษัทเอกชน และหน่วยงานราชการซึ่งรวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นไปยังบริเวณที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นต้น

 

ปี 2565 PRTR ให้บริการจัดจ้างพนักงานให้แก่ลูกค้ากว่า 400 บริษัท โดยมีพนักงาน Outsource มากกว่า 15,000 ราย ได้แก่ พนักงานขาย (Product Consultant), พนักงานโรงงาน (Worker), พนักงานติดต่อลูกค้า (Customer Service), วิศวกร/ช่างเทคนิค (Engineer/Technician), พนักงานสำนักงาน (Office Staff) และพนักงานไอที (IT)

 

PRTR ระบุในไฟลิ่งว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินระดมทุนไปใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ

 

ขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น 

ปัจจุบัน PRTR มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท และมีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท 

 

โดย PRTR จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

JMART จ่อซื้อบิ๊กล็อต 90 ล้านหุ้นในวันเทรดวันแรก 

บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อ-ขายหุ้นของ PRTR จำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลัง IPO จากผู้ถือหุ้นเดิมของ PRTR จำนวน 3 ราย ในราคาเท่ากับราคา IPO 

 

โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวในวันแรกที่หุ้น PRTR ซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยดำเนินการผ่านการซื้อ-ขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big-Lot Board) และจะดำเนินการชำระค่าหุ้นตามขั้นตอนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด

 

JAMRT ระบุว่า คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาถึงศักยภาพในเชิงธุรกิจ และผลการดำเนินงานของ PRTR ในฐานะที่เป็นผู้นำในด้านการบริการทรัพยากรบุคคลครบวงจร (HR One-Stop Service) เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โดย PRTR มุ่งเน้นงานด้านบริการบริหารจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing Services) และมุ่งเน้นการพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล จึงได้พิจารณาผลประโยชน์ในการทำธุรกิจร่วมกับกลุ่มบริษัทเจ มาร์ทในอนาคต เพื่อสร้าง Synergy Ecosystem ทางด้านการค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี

 

โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PRTR ประกอบด้วย  

 

  1. กลุ่มริศรา เจริญพานิช ถือหุ้น 21.4% หลัง IPO ลดลงเหลือ 17.8% 
  2. กลุ่มจารุวรรณ พานิชเจริญ ถือหุ้น 21.4% หลัง IPO ลดลงเหลือ 7.5% 
  3. อรฤดี เกตุทวี ถือหุ้น 19% หลัง IPO ลดลงเหลือ 14.2% 
  4. พอล เดวิด ชอนดี้ ถือหุ้น 18.4% หลัง IPO ลดลงเหลือ 6.2% 
  5. ลักษณ์ เด่นดี ถือหุ้น 10.4% หลัง IPO ลดลงเหลือ 7.8%

 

โดย PRTR ระบุในไฟลิ่งว่า พอล เดวิด ชอนดี้ และกลุ่มจารุวรรณ (จารุวรรณ พานิชเจริญ และ ริชาร์ด ฮิวจ์ เบนเนต) จะดำเนินการขายหุ้นที่ตนถืออยู่รวมกันจำนวน 101,145,000 หุ้น บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot) ในราคา IPO ณ วันที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก ให้แก่นักลงทุนจำนวน 3 ราย ดังนี้ 

 

  1. บุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัท จำนวน 90 ล้านหุ้น 
  2. บุคคลที่เกี่ยวข้องของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวน 10.02 ล้านหุ้น 
  3. นลินทิพย์ แก้วอำไพ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท จำนวน 1.125 ล้านหุ้น 

 

ภายหลังการซื้อขายหุ้นดังกล่าว พอล เดวิด ชอนดี้, จารุวรรณ พานิชเจริญ และ ริชาร์ด ฮิวจ์ เบนเนต จะถือหุ้นจำนวน 37.19 ล้านหุ้น, 23.38 ล้านหุ้น และ 21.69 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 6.2%, 3.9% และ 3.6% ตามลำดับ

 

รายได้-กำไร โตต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานของ PRTR ปี 2562-2564 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 4,525 ล้านบาท, 4,866.3 ล้านบาท และ 5,555.9 ล้านบาท ตามลำดับ แบ่งรายได้จากการให้บริการจำแนกตามธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ Outsource ธุรกิจ Recruitment และ Training โดยรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าในประเทศไทย 

 

ส่วนกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท, 120.7 ล้านบาท และ 183.2 ล้านบาท ตามลำดับ

 

สำหรับไตรมาส 1/65 PRTR มีรายได้จากการให้บริการ 1,422.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 11.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 46.3 ล้านบาท

 

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีสินทรัพย์ 1,302.1 ล้านบาท หนี้สินรวม 939.1 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 363 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising