“เราเรียนบริหารมา มันต้องทำงานออฟฟิศอย่างเดียว เราไม่อยากทำ ตอนแรกจะไปเรียนด้านกาแฟโดยตรงเลย แต่คิดไปคิดมา ลงสนามจริงเลยดีกว่า มันได้ทั้งทฤษฎี ความรู้ ประสบการณ์ ได้รู้วิธีคุมต้นทุน วิธีรับลูกค้า ยังไงก็ได้เยอะกว่าการไปเรียนแน่ ๆ” พล-ภัคพล วิเศษผลิตผล เจ้าของร้านกาแฟ Ports Coffee เล่าสั้นๆ เมื่อเราถามย้อนไปถึงอดีต ก่อนที่จะมาเป็นบาริสต้าอายุน้อย
บรรยากาศร้าน
The Vibes:
ในวันที่อากาศดีและมีแสงแดด การเดินเข้ามาในตรอกเล็กๆ ย่านมหาราชตรอกนี้ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่ที่ไหนสักแห่งในญี่ปุ่น เพราะดีไซน์ของร้าน Ports Coffee ชวนให้คิดถึงผลงานของสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ชอบมักจะมีส่วนประกอบของไม้ ผนังสีขาว กระจก และช่องแสง
Ports Coffee เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ขนาดหนึ่งคูหาที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางด้วยแสงที่สาดเข้ามาและการตกแต่งที่เน้นสีขาวเรียบง่าย เมื่อคุณเปิดประตูร้านเข้ามาจะพบกับเคาน์เตอร์สีขาว พลจะยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ คอยต้อนรับลูกค้าด้วยตัวเอง แนะนำเมล็ดกาแฟ และเชิญชวนให้คุณลองสั่งคานาเล่ไปชิมสักชิ้น ถ้าวันนี้คุณยังไม่แน่ใจว่าอยากดื่มอะไร ลองปรึกษาพลดูก็ได้
บรรยากาศร้าน
ตึกนี้เคยเป็นโกดังของศูนย์กระจายสินค้ามาก่อน ท้ายซอยเป็นท่าเรือส่งสินค้า เรือมาจอดแล้วก็เก็บของตรงนี้ได้เลย แต่พอเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน แถวนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจกระจายสินค้าก็ซบเซาลง เลยรีโนเวตใหม่กลายเป็นร้านกาแฟ และชื่อ Ports Coffee ก็มาจากเรื่องราวของตึกคูหานี้นี่แหละ ถ้าคุณลองแหงนหน้ามองเพดานดูจะพบว่า ภายในความโมเดิร์นของร้านก็ยังมีร่องรอยของอดีตซ่อนอยู่ตรงเพดานที่เป็นไม้เก่า
เครื่องดื่มของร้าน Ports Coffee
เครื่องดื่มของร้าน Ports Coffee
The Drinks:
“เมนูของเรามีน้อยแต่แน่นนะ” พลหยิบเมนูขึ้นมาให้ดู พร้อมอธิบายว่า เมนูกาแฟของที่ร้านมีไม่มากนัก แต่คัดมาเฉพาะเมนูที่คุณภาพคับแก้วจริงๆ ถ้าชงกาแฟมาแล้วช็อตไหนไม่ผ่านก็ไม่เสิร์ฟเลย ทำใหม่ให้ได้เครื่องดื่มที่อร่อยจริงๆ
เมล็ดกาแฟของที่ร้านจะมี 2 แบบ คือ House Blend ที่เป็นเมล็ดบราซิลกับเมล็ดลาว หลังจากที่พลฝึกฝนฝีมืออยู่ที่ร้านกาแฟมาหลายแห่ง ประสบการณ์ก็ได้บอกให้เขารู้ว่าส่วนใหญ่คนไทยจะชอบกาแฟที่มีบอดี้ชัดเจน ไม่เบา แต่ก็ไม่เข้มจนเกินไป เขาจึงเลือกเมล็ดบราซิลที่ออกไปทางถั่วกับเมล็ดลาวที่มีความเป็นดาร์กช็อกโกแลต เมื่อนำมาเบลนด์กันแล้วจะได้รสชาติที่กลมกล่อม ดื่มง่าย เป็นรสชาติที่ดื่มได้ทุกวัน
Hot Caffe Latte (90 บาท)
Iced Caffe Latte (100 บาท) และ Einspanner (120 บาท)
เมื่อมาถึงเราก็อยากให้คุณได้ลอง House Blend ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเมนู Hot Caffe Latte (90 บาท) ลาเต้ร้อนที่ใส่มาในแก้วกระดาษทรงปากกว้าง พลเล่าให้ฟังว่าแก้วทรงนี้ส่วนใหญ่ที่ญี่ปุ่นจะนิยมใช้กัน ในไทยหาค่อนข้างยาก แต่พลก็ไปตามหามาจนได้ เพื่อให้เข้ากับความรู้สึกญี่ปุ่นของร้าน นับว่าเป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่น่าสนใจ ส่วน Einspanner (120 บาท) กาแฟเวียนนาที่ด้านล่างเป็นกาแฟดำ ท็อปด้วยครีมสดด้านบนที่ปั่นแก้วต่อแก้ว ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนสำหรับคนที่ชอบกาแฟดำ แต่ก็อยากได้ความนวลของนมและวานิลลา
เมล็ดกาแฟอีกหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Special Blend เบลนด์ที่มีความคอนทราสต์ในรสชาติ เพราะมีส่วนประกอบเป็นเมล็ดคอสตาริกา เมล็ดเอธิโอเปีย ที่ให้ความรู้สึกฟรุตตี้ หอมสดชื่น และมีรสชาติเปรี้ยว แต่ก็มีเมล็ดลาวที่มีความหอมของดาร์กช็อกโกแลตมาตัดความเปรี้ยว เป็นรสสัมผัสอีกแบบหนึ่งที่น่าลอง
Hojicha Latte (100 บาท)
ส่วนเมนูที่ไม่ใช่กาแฟก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Hojicha Latte (100 บาท) ที่ใช้โฮจิฉะ 100% นำมาตีในถ้วยเซรามิก และเทลงบนนมสดรสชาตินุ่ม เป็นเมนูที่มีความเข้มข้น หอมชา และนุ่มละมุนจากนม ถ้าคุณเป็นคนไม่ชอบหวาน คุณจะตกหลุมรักโฮจิฉะแก้วนี้ตั้งแต่จิบแรก เพราะเป็นสูตรหวานน้อย แต่ถ้าอยากให้หวานมากกว่านี้ก็สามารถขอเพิ่มความหวานได้
Canale (75 บาท)
Butter Croissant (80 บาท)
The Dishes:
ระหว่างที่นั่งอยู่ในร้าน จะเห็นได้ว่าพลแนะนำคานาเล่ให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามา ชวนให้คิดว่าเมนูนี้จะต้องเป็นเมนูที่ดีที่จะลอง Canale (75 บาท) ขนมฝรั่งเศสที่มีเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นเหล้ารัมและวานิลลา คานาเล่ของทางร้านนั้นอบเอง เป็นสูตรหวานน้อย ใช้เวลาหมักแป้งถึง 24 ชั่วโมง ถ้าจะทำขายสำหรับวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็ต้องเริ่มหมักแป้งแล้ว พลบอกกับเราว่าถ้าอยากลองคานาเล่ต้องมาเช้าหน่อย เพราะเป็นเมนูที่ขายดีมาก บางครั้งต้องอบกันหลายรอบเลยทีเดียว
Canale (75 บาท) และ Hot Caffe Latte (90 บาท)
อีกหนึ่งวิธีกินคานาเล่ที่น่าสนใจที่พลบอกกับเราคือ การจุ่มคานาเล่ลงไปในลาเต้ร้อน ก็จะได้รสสัมผัสที่นุ่มนวล ลาเต้จะทำให้เนื้อคานาเล่ฉ่ำขึ้น และหอมกลิ่นกาแฟด้วย
“เราอยากให้ Ports Coffee เป็นร้านที่อบอุ่น ผ่อนคลาย ลูกค้ามาแล้วรู้สึกว่าอยากกลับมาอีก” การมาเยือนครั้งนี้ทำให้เราคิดว่าเป้าหมายของร้าน Ports Coffee น่าจะเป็นจริงในไม่ช้า เพราะผู้เขียนเองก็อยากกลับมานั่งกินคานาเล่ที่นี่อีกครั้งเหมือนกัน
Ports Coffee
Open: วันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดวันพุธ)
Address: 392, 16 ถนนมหาราช พระนคร กรุงเทพฯ
Budget: 100-200 บาท
Contact: 08 3973 1961
Website: https://facebook.com/Portsbkk-117614899833103
Map:
