ต๊ะ พิภู พุ่มแก้วกล้า น่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดตอนเริ่มเข้ามาจัดรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ และเป็นที่พูดถึงมากมายอีกทีก็ตอนออกจากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ และล่าสุดนี้ก็ถูกจับตามองอีกครั้งเมื่อย้ายมาอยู่ที่ THE STANDARD ในฐานะผู้ดำเนินรายการ THE STANDARD Daily รายการข่าวและวาไรตี้ที่ออกอากาศสดทาง Facebook และ YouTube ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลาประมาณสองทุ่ม โดยเริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2561
รู้จัก ต๊ะ พิภู มากขึ้นในเวอร์ชันภาษาอังกฤษกับรายการ We Need To Talk โดย โบ สาวิตรี ที่ THE STANDARD Podcast ใครถนัดอ่านเชิญด้านล่าง แต่ถ้าถนัดฟัง แตะปุ่ม Play ด้านบนได้เลย
02:32
ก่อนจะเป็น ต๊ะ พิภู ที่คนดูรู้จักดี
ที่จริงผมอยากเรียนเศรษฐศาสตร์นะ แต่คะแนนไม่ถึง (หัวเราะ) ก็มาลงเอยที่คณะที่เหมือนจะเกี่ยวๆ คือคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอกสาขาวิชาสถิติ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือการเรียนเลขนั่นเอง แต่เป็นคณิตศาสตร์แบบที่ยากสุดๆ
สมัยมัธยมที่วชิราวุธวิทยาลัย ผมก็ไม่ใช่เด็กเรียน แต่ชอบคุยกับเด็กเรียนหรือเด็กเนิร์ดนะครับ คนพวกนี้มีอะไรน่าสนใจเยอะ คบกับพวกเขาแล้วรู้สึกตัวเองฉลาดขึ้น (หัวเราะ) ผมเล่นกีฬาเยอะ ฟุตบอล รักบี้ บาสเกตบอล ว่ายน้ำ ปิงปอง เล่นหมด
ผมเคยไปทำงานที่ร้าน Iberry ที่สยามอยู่พักใหญ่ครับ อยากหาเงินเอง สมัยนั้นได้แค่ชั่วโมงละ 25 บาท รวมแล้วได้วันละ 250 หักค่าเดินทางเหลือไม่ถึง 200 บาท แต่ได้ประสบการณ์และได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย มาถึงทุกวันนี้ ผมกล้าพูดว่าผมตักไอศกรีมเก่งมากนะ (ยิ้ม) เวลาไปกินบุฟเฟต์กัน ผมจะอาสาตักไอศกรีมตลอด ไม่ง่ายนะครับ ต้องมีทักษะ วางมือองศาไหน บิดข้อมือยังไง ข้อมือแรงต้องดีนะ (หัวเราะ)
07:15
หนึ่งปีที่อังกฤษ กับชีวิตในมหาวิทยาลัยริมทะเล
ตัวเลือกเราน้อย เพราะจบมาเกรดไม่ค่อยสวยงาม (หัวเราะ) แต่มหาวิทยาลัยของผมก็เป็นตัวเลือกดีที่สุดที่เกรดอย่างเราจะเข้าได้นะครับ นั่นคือ Bournemouth University เรียนต่อปริญญาโททางด้าน International Business Finance
เมืองบอร์นมัธนี่เหมือนเป็นหัวหินของกรุงเทพฯ นั่นคืออยู่ลงไปทางใต้ของลอนดอนประมาณ 2-3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ แล้วก็เป็นเมืองชายทะเลด้วย นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลือกที่นี่เลยนะ คือผมได้ไปทะเลทุกวันน่ะ บางวันไปวิ่ง บางวันไปหาอะไรกิน บางวันไปนั่งมองทะเลแล้วคิดถึงบ้าน
ผมไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวเท่าไรนะ เป็นคนปรับตัวเก่ง เข้ากับคนง่าย ปัญหาเดียวที่มีในตอนแรกคือการสื่อสาร เพราะยังฟังภาษาท้องถิ่นเขาไม่รู้เรื่อง มันฟังยากมาก ครูเคยบอกว่าวิธีเรียนภาษาที่ดีที่สุดคือ ‘เรียนบนเตียง’ แต่ตอนนั้นผมไม่มีโอกาสเรียนบนเตียงกับใครเลย (หัวเราะ) ผมก็เลยเรียนภาษาอังกฤษบนเตียงกับตัวเองนี่แหละฮะ เปิดคอมฯ นอนดูหนังไปวันๆ หนังและดนตรีเป็นสิ่งที่ช่วยฝึกภาษาได้ดีมากนะ
รวมเวลาที่อยู่อังกฤษทั้งหมดคือประมาณ 12 เดือน ที่จริงอยากอยู่นานกว่านี้ อาจจะสัก 2-3 ปี แต่ตอนนั้นเรียนจบก็ได้เวลากลับแล้วล่ะ กลับมาเมืองไทยก็ได้งานเป็นดีเจวิทยุ แล้วก็งานอื่นๆ อีกหลายอย่าง คิดดูแล้วได้เงินมากกว่าตอนทำงานที่อังกฤษเยอะ เลยตัดสินใจกลับเลยดีกว่า
ตอนอยู่ที่โน่นผมทำงานพิเศษเป็นพนักงานคุมเครื่องเล่นในสวนสนุกสำหรับเด็ก หน้าที่คือตรวจความเรียบร้อยของระบบความปลอดภัยต่างๆ ก่อนจะกดปุ่มให้รถไฟเหาะเดินเครื่อง ฟังดูน่าสนุกใช่ไหม แต่ความจริงมันไม่ได้สนุกขนาดนั้นนะครับ (หัวเราะ) คือที่บอกว่าเป็นสวนสนุกสำหรับเด็กนี่คือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบเลยนะ เครื่องเล่นก็จะแล่นช้าๆ น่าเบื่อๆ ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร เหมือนทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากกว่า (หัวเราะ)
สิ่งที่ชอบมากที่สุดตอนอยู่อังกฤษ อาจฟังดูแปลกนะ แต่ผมคิดถึงอากาศของที่นั่นแฮะ หลายคนบอกว่าอากาศที่นั่นหดหู่จะแย่ แต่ผมชอบนะ นอกจากนั้นผมยังชอบวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม แล้วก็ฟุตบอลด้วย โดยรวมแล้วบอกเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน ผมชอบจิตวิญญาณของความเป็นอังกฤษน่ะ
ส่วนสิ่งที่ชอบน้อยที่สุดคืออาหาร ผมไม่กินพุดดิ้ง ชาก็ชอบนะ แต่ฟิชแอนด์ชิปส์นี่เบื่อสุดๆ แล้วครับ (หัวเราะ) ขออภัยคนที่ชอบอาหารอังกฤษด้วยนะครับ
15:09
Chapter ใหม่ของชีวิตกับ THE STANDARD Daily
เพิ่งทำมาประมาณ 1 เดือนครับ เรียกว่ายังใหม่มาก แต่ก็สนุกมาก เรายังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ ผมคิดว่าเรายังไม่เจอตัวตนที่ใช่ของรายการนะ ยังต้องสร้าง ต้องหากันต่อไป พยายามกันไป พัฒนากันไปทุกวัน และความเป็นรายการสดน่ะ สมัยนี้คนจะเบื่อเราได้ง่ายมาก และสามารถเปลี่ยนไปชมอย่างอื่นได้ไวมาก ถ้าเขารู้สึกว่าเราไม่น่าสนใจพอ ตรงนี้แหละครับยากที่สุด ทำอย่างไรคนดูจะอยากอยู่กับเราไปตลอดรายการ
สนุกครับ ถ้าไม่สนุกผมคงไม่ทำแต่แรก หนึ่งในความสนุกคือได้มีโอกาสพบคนน่าสนใจหลากหลายในทุกๆ วัน บางครั้งเป็นบุคคลที่อาจมีโอกาสได้คุยแค่ครั้งหนึ่งในชีวิต และเราจะมีโอกาสได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากแขกรับเชิญแต่ละคนเสมอ
เรื่องราวและข่าวที่ผมอยากนำเสนอคือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาในสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณอยู่ทุกวัน บางอย่างคุณรู้ดีว่าเป็นปัญหา แต่ไม่ตระหนักว่าเราควรต้องหันมาใส่ใจมันให้มากขึ้น อะไรก็ตามที่เรารู้สึกว่ามันสำคัญที่คุณต้องรู้ เรื่องที่เราสามารถชวนคุณมาลงลึกกับมันได้ อะไรก็ตามที่น่าจะทำให้สังคมดีขึ้น ปัญหาบ้านเราเยอะครับ เราต้องช่วยกัน ผมเองก็กำลังพยายามในส่วนที่ตัวเองจะทำได้ในฐานะสื่อมวลชนให้ดีที่สุดผ่านทางรายการนี้แหละ
แขกรับเชิญที่อยากได้มาออกรายการที่สุด ถ้าให้เลือกตอนนี้ นายกรัฐมนตรีของเรานี่แหละครับ ถ้าท่านจะยินดีมา แต่ผมรู้ว่าท่านไม่น่าจะอยากมา (หัวเราะ) อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองพี่น้องที่ตอนนี้มีข่าวว่าอยู่อังกฤษก็ด้วยนะครับ อยากเชิญมาออกทั้งคู่
รายการเรายังใหม่มากครับ บางคนยังไม่รู้จักเลย อย่าว่าแต่จะอยากมาหรือเปล่า แต่พวกเราก็จะพยายามต่อไปให้ถึงจุดที่สักวันหนึ่งทุกคนจะอยากมาออกรายการ THE STANDARD Daily ให้ได้
แขกรับเชิญที่จะไม่เชิญมาออกรายการแน่นอนเหรอครับ อืม ผมคิดว่าเราไม่น่าจะใช้คำว่า ‘ไม่เชิญแน่นอน’ ได้นะ เพราะผมคิดว่าทุกคนมีคุณค่าและความน่าสนใจในตัวเอง ผมเชื่อว่าผมจะคุยได้กับทุกคน และพยายามเรียนรู้จากพวกเขาได้ทั้งนั้น และสามารถสกัดอะไรบางอย่างออกมาจากตัวเขาได้เพื่อให้แรงบันดาลใจบางอย่างกับคุณผู้ชม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็มาออกรายการเราได้ทั้งนั้นครับ
ติดตาม We Need To Talk Podcast ได้ทางหน้าเว็บไซต์ที่ TheStandard.Co/Podcast หรือถ้าคุณฟังพอดแคสต์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วย iOS หรือ Android ไม่ว่าจะใช้แอปฯ อะไรฟังอยู่ ใช้แอปฯ นั้นๆ เสิร์ชได้เลยว่า We Need To Talk หรือเสิร์ช THE STANDARD ก่อน แล้วดูลิสต์รายการพอดแคสต์ทั้งหมดในเครือ เมื่อเจอแล้วก็ Follow หรือ Subscribe เอาไว้ได้เลย
Credits
The Host สาวิตรี สุทธิชานนท์
The Guest พิภู พุ่มแก้วกล้า
Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข
Episode Producers ภูมิชาย บุญสินสุข, อธิษฐาน กาญจนะพงศ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor ภูมิชาย บุญสินสุข
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์
Photographer ปฏิพล รัชตอาภา
Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Music Westonemusic