×

สงครามกลางเมืองเมียนมา ตรงไหนยังเป็นจุดสู้รบเดือด อนาคตที่ยังมืดมน?

26.04.2024
  • LOADING...
สงครามกลางเมือง เมียนมา

การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมา และกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ แม้มีรายงานว่าบางจุดอย่างเมืองเมียวดีที่เคยเป็นพื้นที่สู้รบได้กลับมาสงบลงแล้วก็ตาม

 

รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช รองผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเมียนมา กล่าวกับ THE STANDARD ว่า การสู้รบส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ของรัฐชาติพันธุ์ ได้แก่ รัฐกะฉิ่น, รัฐชิน, รัฐอาระกัน (ยะไข่), รัฐฉาน, รัฐกะยา, รัฐกะเหรี่ยง และกระจัดกระจายในบางพื้นที่ของรัฐมอญ รวมถึงภาคพะโคและภาคตะนาวศรี ซึ่งมีชาวเมียนมาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น

 

โดยพื้นที่ที่มีการสู้รบกันอย่างดุเดือดในช่วงเวลานี้คือ รัฐยะไข่ รัฐกะฉิ่น และแถบจังหวัดเมียวดี ในรัฐกะเหรี่ยง 

 

รัฐยะไข่

 

สื่อท้องถิ่นเมียนมาอย่าง The Irrawaddy รายงานว่า กองทัพอาระกัน (AA) เคลื่อนพลไปทั่วรัฐยะไข่ นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวอย่างไม่เป็นทางการกับกองทัพเมียนมายุติลง เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 

 

โฆษกกองทัพชาติพันธุ์ในรัฐยะไข่เผยว่า ขณะนี้การสู้รบระหว่างกลุ่มต่อต้านและกองทัพเมียนมาเป็นไปอย่างดุเดือด พร้อมกับยอมรับว่า “นี่เป็นช่วงเวลาวิกฤต” ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่จะกำหนดอนาคตของรัฐยะไข่

 

จากกลุ่มกองกำลังที่ฝึกกำลังพลบนยอดเขาในรัฐกะฉิ่น ได้พัฒนาเป็นหนึ่งในกองทัพชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดของเมียนมา โดยกองทัพ AA ได้เข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 ด้วยความมุ่งหวังที่อยากจะผลักดันให้ (อย่างน้อยที่สุด) รัฐยะไข่ได้กลายเป็น ‘สมาพันธรัฐ’ (Confederation State)

 

ขณะนี้กองทัพ AA และพันธมิตรฝ่ายต่อต้านมีอิทธิพลครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐยะไข่ โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือ รวมถึงบางเมือง บางหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในรัฐข้างเคียงอย่างรัฐชิน ขณะที่กองกำลังทหารเมียนมากระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ของรัฐยะไข่เท่านั้น

 

รัฐกะฉิ่น

 

กองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) และกองกำลัง PDF (ปีกทหารของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือ NUG) ยึดด่านหน้าและเส้นทางเข้าด่านของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ตั้งอยู่ในเมืองพะกัน (Hpakant) รัฐกะฉิ่นได้ หลังปะทะกันต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ โดยสื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า กองทัพเมียนมาจัดส่งโดรนและกระสุนปืนผ่านการขนส่งทางอากาศ เพื่อช่วยเหลือทหารเมียนมาซึ่งประจำอยู่ที่ด่านดังกล่าว ก่อนที่ทหารเมียนมาจำนวนมากจะหลบหนีออกจากด่าน หลังต้านกองกำลังฝ่ายต่อต้านไม่ไหว

 

ขณะนี้เส้นทางสัญจรที่สำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับแหล่งแร่หยกของเมืองพะกัน ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้าน โดยการปะทะกันยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รัฐบาลทหารยังคงโจมตีทางอากาศ และวางเพลิงหมู่บ้านที่เชื่อว่า เป็นฐานที่มั่นของกองกำลังชาติพันธ์ุ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนไม่น้อย

 

รัฐกะเหรี่ยง

 

วิโรจน์ เลิศจิตต์ธรรม ผู้สื่อข่าว THE STANDARD ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พรมแดนไทย-เมียนมา เผยว่า ในฝั่งเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยงขณะนี้ กองกำลัง KNU และ PDF ได้ถอนกำลังออกจากตัวเมืองเมียวดีแล้ว แต่ยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่รอบนอก ขณะที่บรรดาผู้อพยพชาวเมียนมาที่หนีภัยมายังแม่สอดทั้งหมดเดินทางกลับไปยังฝั่งเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา 

 

แม้ช่วงกลางดึกจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ โดยคนในพื้นที่ระบุว่า เกิดจากเครื่องบินกองทัพโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มต่อต้านนอกเมืองเมียวดี แต่สถานการณ์โดยรวมบริเวณพรมแดนทั้งสองประเทศยังเป็นไปด้วยความสงบ และมีความพยายามที่จะเจรจาต่อรองเพื่อเปิดพื้นที่การค้าตามแนวชายแดนอีกครั้ง โดยเฉพาะด่านการค้าฝั่งเมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปะทะกันเมื่อหลายวันก่อน 

 

เมียวดียังคงอยู่ภายใต้อิทธิพลของ พ.อ. ชิต ตู่ ผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) สังกัดกองทัพเมียนมา และหวนกลับมาจับมือกับกองทัพอีกครั้ง หลังเคยประกาศตัดสัมพันธ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย KNA ช่วยคุ้มกันและเปิดทางให้ทหารเมียนมากลับเข้ากองพัน 275 ได้อีกครั้ง เพราะถูกกองทัพขู่จะถล่มเมืองชเวโก๊กโก่ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้และผลประโยชน์ที่สำคัญของ พ.อ. ชิต ตู่ และกลุ่ม KNA ที่ได้จากการร่วมลงทุนกับทุนจีนสีเทา โดย รศ.ดร.ดุลยภาค เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ของการสู้รบในเมียวดี

 

พื้นที่สู้รบอื่นๆ 

 

สื่อท้องถิ่นเมียนมายังรายงานว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านในรัฐกะยาหรือรัฐกะเหรี่ยงแดงควบคุมพื้นที่ของรัฐได้มากกว่า 90% โดยผู้แทนสภาบริหารชั่วคราวแห่งรัฐกะยา (IEC) ได้ประกาศว่า 2024 เป็นปีที่นักรบฝ่ายต่อต้านจะได้กลับบ้านเกิด พร้อมตั้งเป้าเอาชนะฐานที่มั่นของรัฐบาลทหารเมียนมาในเมืองพะซอง (Hpasawng) และเมือง Moebye รวมถึงฐานที่มั่นอื่นๆ อีก 6 แห่ง เพื่อขยายเขตอิทธิพลให้ครอบคลุมทั่วทั้งรัฐกะยา

 

ฝ่ายกองทัพเมียนมายังสูญเสียฐานที่มั่นอีกหนึ่งแห่งในภาคตะนาวศรี ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย ให้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร หลังกลุ่มต่อต้านและกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) เปิดฉากโจมตีที่มอทา (Maw Hta) ในเมืองทวาย เขตตะนาวศรี ทางตอนใต้สุดของเมียนมา และสามารถยึดฐานทัพดังกล่าวได้สำเร็จเมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ 

 

แฟ้มภาพ: V-Victory / Shutterstock 

อ้างอิง:

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising