องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพล (International Criminal Police Organization: Interpol) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (10 กุมภาพันธ์) ยืนยันว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือประเทศใดก็ตามที่กำลังเผชิญสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในประเทศ โดยเป็นการแสดงท่าทีหลังจากที่รัฐบาลทหารเมียนมาออกแถลงการณ์ขอความช่วยเหลือจากอินเตอร์โพลในการต่อสู้กับ ‘การก่อการร้าย’ ซึ่งเป็นคำที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้เรียกการกระทำของกลุ่มต่อต้านที่ยังคงเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร
“อินเตอร์โพลจะไม่ให้ความช่วยเหลือสำหรับคำขอใดๆ ที่อาจดึงองค์กรไปสู่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในประเทศ เช่น หนังสือแจ้งที่ร้องขอเรื่องฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือในบริบทของการรัฐประหาร” แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (8 กุมภาพันธ์) กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้แจ้งไปยังอินเตอร์โพล, หน่วยงานต่อต้านก่อการร้ายขององค์การสหประชาชาติและอาเซียน รวมถึงหน่วยงานตำรวจอาเซียน หรืออาเซียนาโพล (ASEANAPOL) เพื่อให้แสดงท่าทีประณามฝ่ายต่อต้าน ได้แก่ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw: CRPH) และกองกำลังป้องกันประชาชน (People’s Defence Force: PDF) โดยเรียกการขอความช่วยเหลือครั้งนี้ว่าเป็น “ความร่วมมือแง่บวกในการต่อสู้กับก่อการร้าย”
ขณะที่ วันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาที่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพ ได้จัดงานบรรยายสรุปสำหรับเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่ UN ในนครย่างกุ้ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างบรรยายสรุปได้มีการกล่าวหาฝ่ายต่อต้าน ทั้ง NUG, CRPH และ PDF ว่ากระทำการก่อการร้ายด้วยการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งทำลายอาคารและสิ่งปลูกสร้างสาธารณะ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และสะพานหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากองทัพเมียนมาถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายก่อเหตุสังหารหมู่และทารุณกรรมประชาชนอย่างโหดเหี้ยม
โดยก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม NUG ยังได้แสดงหลักฐาน ทั้งคำบอกเล่าจากพยานและคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ากองทัพเมียนมากระทำการอันโหดร้ายและป่าเถื่อนต่อประชาชน และชี้ถึงกรณีการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในรัฐกะยาเมื่อช่วงก่อนวันคริสต์มาสที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนถูกสังหารกว่า 30 คน รวมเด็กและผู้หญิงที่ถูกสังหารและจุดไฟเผาทั้งเป็นในรถยนต์หลายคัน
ซึ่ง NUG ยืนยันว่าจะใช้หลักฐานเหล่านี้ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อกองทัพเมียนมาผ่านช่องทางระหว่างประเทศต่างๆ รวมถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ
ภาพ: Photo by Hkun Lat / Getty Images
อ้างอิง:
