×

2017 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของวงการเพลง

14.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • จากสถิติพบว่า มีคนที่หันมาใช้บริการสตรีมมิงมิวสิกเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 1 ล้านคนในทุกๆ เดือน และทำให้รายได้จากการสมัครบริการสตรีมมิงมิวสิกเพิ่มขึ้นถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2017
  • แค่เพียงสัปดาห์แรก อัลบั้ม Reputation ก็ขายได้แล้วกว่า 1.216 ล้านก๊อบปี้ในสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในอเมริกาประจำปี 2017 และทำให้เทย์เลอร์ สวิฟต์ กลายเป็นนางพญางูเก็งกองสายป๊อปที่วางหมากทางการตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม
  • เอ็ด ชีแรน ได้รับตำแหน่งศิลปินที่มียอดสตรีมสูงที่สุดใน Spotify ประจำปี 2017 ซึ่งมียอดสตรีมกว่า 6.3 พันล้านครั้ง

ข่าวสารจากวงการเพลงในปี 2017 สร้างทั้งเสียงฮือฮาและยังสร้างน้ำตาให้กับแฟนดนตรีหลายคน เพราะตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เห็นข่าวสารจากวงการเพลงมากมายที่สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและภาพรวมของโลกในปัจจุบันผ่านเสียงดนตรีและบุคคลในวงการดนตรีหลายแขนง

 

THE STANDARD ขอสรุปข่าวเด่นๆ จากวงการเพลงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนธันวาคมในปี 2017 เพื่อมาวิเคราะห์ให้คอดนตรีเก็บตกครบทุกประเด็นก่อนเตรียมตัวเข้าสู่ปี 2018

 

Photo: www.edmsauce.com

 

ยุคทองของมิวสิกสตรีมมิง

มีรายงานเมื่อต้นปี 2017 ว่า ประชาชนกว่า 30 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาสมัครใช้บริการสตรีมมิงมิวสิก ซึ่งทุบสถิติสูงกว่าทุกปีที่เคยมีมาเมื่อเทียบกับปี 2016 จากสถิติพบว่ามีคนที่หันมาใช้บริการสตรีมมิงมิวสิกเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 1 ล้านคนในทุกๆ เดือน และทำให้รายได้จากการสมัครบริการสตรีมมิงมิวสิกเพิ่มขึ้นถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 นอกจากนี้เรายังเห็นความตื่นตัวต่อการใช้บริการสตรีมมิงมิวสิกในประเทศไทยได้อย่างชัดเจนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อบริการสตรีมมิงมิวสิกเจ้าดังอย่าง Spotify เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพิ่มคู่แข่งให้กับบริการสตรีมมิงมิวสิกรายใหญ่ๆ ที่มีในไทยก่อนหน้านี้อย่าง JOOX และ Apple Music

 

*อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับบริการสตรีมมิงมิวสิกในไทยเพิ่มเติมที่ Spotify-JOOX-Apple Music สตรีมมิงมิวสิกไหนที่เหมาะกับคุณ และ เคยสงสัยกันไหม? ศิลปินที่เรารักได้เงินเท่าไรจากบริการสตรีมมิงมิวสิก

 

Photo: nymag.com

 

Chance The Rapper ชนะรางวัลแกรมมี่ สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

ท่ามกลางผู้เข้าชิงอย่าง The Chainsmokers, เคลซี บัลเลอรินี, มาเรน มอร์ริส และแอนเดอร์สัน พาร์ก แต่สุดท้ายรางวัลแกรมมี่ สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ก็ตกเป็นของ Chance The Rapper โดยนับเป็นรางวัลแรกในชีวิตการทำงานของเขาเลยทีเดียว เหตุผลก็เพราะการปรับกฎใหม่ของเวทีแกรมมี่อวอร์ดที่อนุญาตให้ศิลปินอิสระ ไม่มีสัญญากับค่าย และปล่อยเพลงผ่านการสตรีมมิงมีโอกาสได้เข้าชิงรางวัล

 

นอกจากนี้ Chance The Rapper ยังได้รับรางวัล Best Rap Performance จากเพลง No Problem ที่เขาฟีเจอริงกับ Lil Wayne & 2 Chainz และ Best Rap Album จากอัลบั้ม Coloring Book อีกด้วย นอกจากนี้ Chance The Rapper ยังขึ้นชื่อเรื่องการช่วยเหลือองค์กรเพื่อการศึกษาและคุณภาพชีวิตครูในโรงเรียนรัฐ โดยในเดือนกันยายน เขาได้ออกมานำเสนอการมอบรางวัลที่ใช้ชื่อว่า The Twilight Awards เพื่อมอบรางวัลให้กับครู พ่อแม่ และนักเรียนต้นแบบของโรงเรียนในชิคาโก ทั้งยังได้พิธีกรชื่อดังอย่าง เจมส์ คอร์เดน มาดำเนินรายการให้ด้วย

 

 

——————

 

Photo: www.billboard.com

 

เคนดริก ลามาร์ กับมิวสิกวิดีโอแห่งปี ‘Humble’

ผลงานมิวสิกวิดีโอที่ได้รับรางวัลวิดีโอแห่งปี 2017 จากเวที MTV Video Music Awards (VMAs) ปล่อยให้เราได้ชมกันครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2017 และจนถึงปัจจุบันมียอดวิวไปเกือบ 400 ล้านวิว วิดีโอชื่อดังตัวนี้กำกับโดย เดฟ เมเยอร์ส และ The Little Homies (ชื่อทีมที่เคนดริกและเดฟ ฟรี ผู้เป็นเพื่อนรักจับมือกันทำเพื่อกำกับวิดีโอ ใช่แล้ว เขามีส่วนในการกำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เองด้วย) ในวิดีโอมีทั้งซีนที่หลุดจากงานศิลปะ The Last Supper ของลีโอนาร์โด ดา วินชี ยุคศตวรรษที่ 15 ซีนโฟโต้ช็อปที่เผยให้เห็นผู้หญิงแบบแต่งหน้ากับหน้าสดไร้เครื่องสำอาง และซีนสำคัญที่สร้างภาพจำให้กับมิวสิกวิดีโอตัวนี้ไปโดยปริยาย นั่นคือซีนรวมชายชุดดำหลายคนที่กำลังก้มหัว และมีเคนดริกอยู่ตรงกลางเฟรม นอกจากรางวัลวิดีโอยอดเยี่ยม เคนดริกยังคว้ารางวัลวิดีโอฮิปฮอปยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และอีกหลายรางวัลจากการเข้าชิงทั้งหมด 8 รางวัล ถือเป็นศิลปินที่กวาดรางวัลไปเยอะที่สุดจากเวที VMAs 2017

 

*อ่านเรื่องราวของเคนดริก ลามาร์ เพิ่มเติมที่ เคนดริก ลามาร์ สุดยอดแรปเปอร์ที่คุณต้องทำความรู้จัก!

 

——————

 

Photo: popculture.com

 

การจากไปของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำวงร็อก Linkin Park ในวัย 41 ปี

เชสเตอร์ตัดสินใจจบชีวิตที่บ้านของตัวเองในลอสแอนเจลิส ภายหลังจากที่เขาต้องเผชิญกับอาการป่วยจากโรคซึมเศร้า โดยก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งสูญเสียเพื่อนคนสนิทอย่าง คริส คอร์เนลล์ แห่งวง Soundgarden และ Audioslave ที่ฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนเกิดข้อสันนิษฐานว่าเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เชสเตอร์ฆ่าตัวตายตาม ทั้งที่ทางวง Linkin Park เพิ่งปล่อยมิวสิกวิดีโอตัวล่าสุด Talking To Myself เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการตายของเขา

 

ภายหลังข่าวการจากไปของเชสเตอร์ที่กลายเป็นเรื่องโศกเศร้าของคนทั้งวงการดนตรีก็มีการจัดคอนเสิร์ตเพื่อไว้อาลัยให้เชสเตอร์ที่ Hollywood Bowl เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งรวบรวมศิลปินจากทั้งวงการ ตั้งแต่สมาชิกวง Linkin Park, Blink-182, Avenged Sevenfold, No Doubt, อลานิส นาดีน มอริสเซตต์ และเดอริก วิบลีย์

 

*อ่านเรื่องราวของเชสเตอร์ เบนนิงตัน เพิ่มเติมที่ ความเจ็บปวดที่กลายเป็นพลังขับเคลื่อนโลกดนตรีของ Chester Bennington แห่งวง Linkin Park และ เมื่อศิลปินสร้างสรรค์งานจากโรคซึมเศร้า เปลี่ยนบทเพลงให้กลายเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ

 

——————

 

Photo: www.billboard.com

 

‘Reputation’ อัลบั้มใหม่และลุคใหม่จากเทย์เลอร์ สวิฟต์

เปิดตัวแรงสุด เมื่อนักร้องสาวเทย์เลอร์ สวิฟต์ เปลี่ยนแนวและค่อยๆ กลายร่างจากนักร้องคันทรี เจ้าแม่เพลงป๊อป จนเดินทางมาถึงผลงานล่าสุดในอัลบั้มที่ 6 ของเธออย่าง Reputation และซิงเกิลแรกที่สร้างเสียงฮือฮาสุดๆ อย่างเพลง Look What You Made Me do ที่เรามีโอกาสได้เห็นเธอในมุมโหดๆ ร้ายๆ อย่างเต็มตัว และตอกกลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สังคมมีต่อเธอตลอดมา ในอัลบั้มยังมีศิลปินชื่อดังมาร่วมแจมอย่าง เอ็ด ชีแรน ในเพลง End Game ด้วย (ซึ่งเรากำลังจะได้ชมมิวสิกวิดีโอเร็วๆ นี้)

 

Reputation ขึ้นชาร์ตทั้งในออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, ไอร์แลนด์, เนเธอแลนด์, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ ยังมีผลรายงานจาก Nielsen SoundScan ว่าแค่เพียงสัปดาห์แรก อัลบั้ม Reputation ก็ขายได้แล้วกว่า 1.216 ล้านก๊อบปี้ในสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในอเมริกาประจำปี 2017 และทำให้เธอกลายเป็นนางพญางูเก็งกองสายป๊อปที่วางหมากทางการตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดเธอปล่อยซิงเกิลจากอัลบั้ม Reputation ออกมา ซึ่งก็ได้รับความนิยมเช่นเคย นั่นคือ Call It What You Want, …Ready For it? และ Gorgeous

 

*อ่านเรื่องราวของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ในปี 2017 เพิ่มเติมที่ Taylor Swift นักวางแผนการตลาดผู้สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมดนตรี และ ศึกษากลยุทธ์ Taylor Swift เมื่อเธอมีอำนาจเหนือทุกสื่อในการโปรโมตอัลบั้ม Reputation

 

 

——————

 

Photo: www.theamas.com

 

บรูโน มาร์ส คว้ารางวัล ‘ศิลปินแห่งปี’ เวที American Music Awards

ฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับ บรูโน มาร์ส ที่ปล่อยอัลบั้ม 24K Magic มาตั้งแต่ปลายปี 2016 แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปี 2017 พร้อมแสดงหลักฐานความสำเร็จด้วยรางวัลศิลปินแห่งปีจากเวที American Music Awards 2017 ซึ่งคิดคะแนนจากผลโหวตของแฟนเพลง บวกกับยอดขายเพลงสตรีมมิงและจำนวนครั้งที่เปิดทางวิทยุ

 

แถมบรูโนยังได้รางวัล Favorite Male Pop/Rock Artist, Favorite Soul/R&B Male Artist, Favorite Pop/Rock Album และ Video of the Year ในเพลง That’s What I Like และอีกหลายรางวัลติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย ถือว่าปีนี้เป็นปีทองของบรูโนจนเขาตัดสินใจทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผ่านการขึ้นคอนเสิร์ต 24K Magic World Tour ในรัฐมิชิแกน และประกาศว่าจะบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Flint Water Crisis หรือวิกฤตปัญหาน้ำปนเปื้อนสารตะกั่วในเมืองฟลินต์ รัฐมิชิแกน ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2014 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ และชาวเมืองฟลินต์ยังคงต้องบริโภคน้ำจากขวด หรือน้ำที่ผ่านการกรองแล้วเท่านั้น

 

*อ่านเรื่องราวของบรูโน มาร์ส เพิ่มเติมที่ Bruno Mars คว้ารางวัลใหญ่ ‘ศิลปินแห่งปี’ เวที American Music Awards! และ บรูโน มาร์ส ใจบุญ บริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัย Flint Water Crisis

 

 

——————

 

Photo: www.billboard.com

 

เอ็ด ชีแรน คว้าตำแหน่งศิลปินที่มียอดสตรีมมิงสูงที่สุดของ Spotify ปี 2017

บริการสตรีมมิงมิวสิก Spotify เผยข้อมูลว่า นักร้องหนุ่มชาวอังกฤษ เอ็ด ชีแรน เจ้าของบทเพลงสุดฮิตที่เปิดวนในวิทยุทั่วโลกอย่าง Shape of You ได้รับตำแหน่งศิลปินที่มียอดสตรีมสูงที่สุดใน Spotify ประจำปี 2017 ซึ่งมียอดสตรีมกว่า 6.3 พันล้านครั้ง และอัลบั้ม Divide ของเขายังมีคนสตรีมฟังถึง 3.1 พันล้านครั้ง! ซึ่งแน่นอนว่าเพลงที่ฮิตที่สุดของเขาก็คือ Shape of You ที่มียอดสตรีม 1.4 พันล้านครั้ง

 

โดยศิลปินที่ยอดสตรีมสูงตามมาติดๆ ได้แก่ Drake, The Weeknd, เคนดริก ลามาร์ และ The Chainsmokers โดยไม่มีศิลปินหญิงติดท็อป 5 เลย ส่วนฝั่งสาวแกร่งยอดสตรีมสูงสุดอันดับหนึ่งคือริฮานน่า ตามด้วยเทย์เลอร์ สวิฟต์ และเซเลนา โกเมซ

 

*อ่านเรื่องราวของเอ็ด ชีแรน เพิ่มเติมที่ “นี่แหละศิลปินตัวจริง!” Ed Sheeran กับสุดยอดคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทย!

 

 

——————

 

 

ปีของดนตรีสายอินดี้ในประเทศไทย

วงการดนตรีไทยยังพร้อมต้อนรับศิลปินหน้าใหม่ที่ปล่อยผลงานเพลงแนวใหม่มาอย่างสม่ำเสมอ และเป็นอีกครั้งที่สาวกดนตรีนอกกระแสมีบทบาทในวงการดนตรีไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ศิลปินที่เกิดใหม่และเกิดจากเวทีนอกกระแสกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อย่าง The Toys กับเพลงฮิต ก่อนฤดูฝน หรือวงดนตรีแนวซินธ์ป๊อป TELEx TELEXs กับเพลง Shibuya

 

อีกหลักฐานที่เห็นได้ชัดก็คือความคึกคักของเทศกาลดนตรีอย่าง Cat Expo ครั้งที่ 4 ที่มีวัยรุ่นและคนฟังเพลงทั้งนอกและในกระแสมากมายที่มาสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่กันอย่างคับคั่ง อีกทั้งยังถือเป็นปีแห่งการกลับมาของศิลปินระดับตำนานที่ห่างหายจากวงการดนตรีไปสักพักอย่าง นภ พรชำนิ กับผลงานใหม่ หมุนตามเธอไป หรือที่น่าสังเกตก็คือตำนานเพลงป๊อปอย่าง เบิร์ด ธงไชย ที่ปล่อยซิงเกิลส่งท้ายปีอันเป็นผลงานที่ทำร่วมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ ผู้นำเพลงป๊อปยุคปัจจุบันในเพลง พริบตา ที่ก็ได้รับกระแสตอบรับดีเช่นเคย และเพลงอื่นๆ ก็เป็นการร่วมทำงานกับศิลปินรุ่นใหม่ทั้งในและนอกกระแส ที่น่าสนใจว่าพี่เบิร์ดกำลังสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการดนตรีอีกครั้ง

 

 

ข่าวเศร้าส่งท้ายปี

ปิดท้ายปีด้วยความเศร้า เมื่อคิมจงฮยอน นักร้องเสียงหลักวง SHINee เลือกจบชีวิตตัวเองเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ในห้องพักของเขาที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ นำความโศกเศร้ามาสู่แฟนเพลง SHINee ทั่วโลก และในขณะเดียวกัน การจากไปของเขาได้สร้างกระแสที่ทำให้ผู้คนสนใจเรื่องของโรคซึมเศร้าในวงกว้าง

 

จงฮยอน หรือคิมจงฮยอน (Kim Jong-hyun) เกิดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 1990 ปัจจุบันอายุ 27 ปี โดยก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิลปินกับ SM Entertainment ในช่วงที่กำลังเรียนไฮสคูล จงฮยอนเคยอยู่ในวงดนตรีและมีส่วนร่วมในเทศกาลดนตรีต่างๆ จนกระทั่งปี 2005 จงฮยอนเข้าร่วมกับ SM Entertainment และเริ่มเดบิวต์ในตำแหน่งนักร้องนำของวง SHINee วันที่ 25 พฤษภาคม 2008

 

โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีในวงการ จงฮยอนนับเป็นไอดอลนักแต่งเพลงที่มีลิขสิทธิ์เพลงมากกว่า 70 เพลง โดยเพลงที่คุ้นหูสาวกเคป๊อปอย่าง Gloomy Clock (2013) ของ IU และ Breathe (2016) ของ Lee Hi ก็เป็นหนึ่งในผลงานของเขาเช่นกัน นอกจากนี้จงฮยอนยังได้รับรางวัล Bonsang จากงาน Golden Disk 2016 เป็นเครื่องการันตีในความสามารถ รวมถึงเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยมในงาน Mnet Asian Music Awards 2016

 

ผลงานสุดท้ายของจงฮยอนคือคอนเสิร์ตเดี่ยว Jonghyun Solo Concert Inspired ที่ SK Olympic Handball Gymnasium ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9 และ 10 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising