ญี่ปุ่น เล็งเก็บค่าธรรมเนียมการปีน ‘ภูเขาไฟฟูจิ’ พร้อมจำกัดนักท่องเที่ยว...

รัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดยามานาชิในญี่ปุ่น เตรียมออกกฎระเบียบใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของประเทศ และแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

กฎดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวล้นฟูจิ และหวังอนุรักษ์ธรรมชาติและระบบนิเวศโดยรอบในพื้นที่ หลังประสบปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวมหาศาล จนทำให้ภูเขาไฟฟูจิต้องเผชิญกับภาวะ ‘คนล้น’ (Overcrowding) ที่เกินกว่าขีดความสามารถของภูเขาไฟฟูจิในการรองรับนักท่องเที่ยว

รายงานระบุว่า กฎระเบียบใหม่ที่ว่านี้หมายรวมถึงกรณีที่รัฐบาลจังหวัดยามานาชิได้ลงมติโหวตให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าภูเขาไฟฟูจิมูลค่า 2,000 เยน หรือราว 480 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งนอกจากจะช่วยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นภูเขาไฟฟูจิไม่ให้มากเกินไปแล้ว ยังหวังช่วยแก้ปัญหาเรื่องการจัดการขยะและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่างๆ เช่น การทิ้งขยะไม่เป็นที่ และการสวมรองเท้าแตะปีนขึ้นฟูจิ

Kotaro Nagasaki ผู้ว่าราชการจังหวัดยามานาชิ กล่าวว่า กฎเกณฑ์เงื่อนไขที่เพิ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมมาตรการความปลอดภัย ซึ่งครอบคลุมสำหรับการปีนภูเขาไฟฟูจิ ในขณะเดียวกันก็เป็นหลักประกันว่า ภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นสมบัติของโลกจะถูกส่งต่อไปยังลูกหลานในอนาคต

ด้าน Toshiaki Kasai เจ้าหน้าที่จากแผนก World Heritage Fuji Division กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเยือนภูเขาไฟฟูจิไว้ที่วันละ 4,000 คน อีกทั้งยังกำหนดให้มีไกด์คอยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รอบๆ ภูเขาและเส้นทางปีนสู่ภูเขาไฟฟูจิ เพื่อคอยแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวกรณีละเมิดกฎระเบียบมารยาทบนภูเขา เช่น นอนข้างทาง จุดไฟ หรือสวมใส่เสื้อผ้าผิดประเภท

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐเพื่อหวังช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งในญี่ปุ่นประสบกับปัญหา Overtourism หรือ ‘นักท่องเที่ยวล้นเกิน’ ซึ่งรวมถึงภูเขาไฟฟูจิขนาดความสูง 3,776 เมตรแห่งนี้

โดยข้อมูลของจังหวัดยามานาชิพบว่า มีนักท่องเที่ยวมาเยือนฟูจิมากถึง 5 ล้านคนในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ล้านคนในปี 2012 ทำให้ภูเขาไฟฟูจิต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นขยะที่ทิ้งเกลื่อนกลาด ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น และนักเดินป่าที่ประมาทเลินเล่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: