×

ผู้บริหาร MORE แจง 3 ประเด็น กรณีเดินหน้าเพิ่มทุน PP ให้ ‘อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ’

22.11.2022
  • LOADING...

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะที่คณะกรรมการของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ชี้แจงข้อเท็จจริงและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในช่วงวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2565 และประเด็นเกี่ยวกับการซื้อขายและการชำระราคาของผู้ซื้อขายหุ้นของบริษัท รวมทั้งความสมเหตุสมผลของการทำรายการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (เพิ่มทุน PP) ให้กับ อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก และวาระการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ เป็นไปด้วยความรอบคอบรัดกุมแล้วหรือไม่ 

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ และคณะกรรมการตรวจสอบของ MORE ชี้แจงว่า การพิจารณาในมติต่างๆ ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ รัดกุม โดยยึดถือประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันยังได้ชี้แจงในรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

1. กรณีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนด้วยราคาตลาดอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากราคาหุ้น MORE มีความผันผวนมาโดยตลอด

 

บริษัทชี้แจงว่า ที่มาของการกำหนดราคาเสนอขายด้วยราคาตลาด เนื่องจากวันที่คณะกรรมการมีมติทำรายการ คือวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ราคาของหุ้น MORE อยู่ในช่วง 1.8-1.9 บาท และมีแนวโน้มที่ราคาหุ้นจะสูงขึ้น เพราะมีข่าวเผยแพร่ว่าบริษัทเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และจัดงาน Rolling Loud ในไทยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 ปี คณะกรรมการจึงเห็นว่าการออกหุ้นเพิ่มทุนด้วยการกำหนดราคาเสนอขายชัดเจนจึงไม่เหมาะสม จึงมีมติเลือกวิธีการกำหนดราคาเสนอขายด้วยราคาตลาด 

 

โดยคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดราคาที่ดีที่สุดตามสภาวะตลาดในช่วงที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ

 

ทั้งนี้ จากการที่บริษัทสอบถามไปยัง อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ได้ยืนยันว่าตนเองยังถือหุ้นครบ และไม่มีการขายหุ้นออกมาแม้แต่หุ้นเดียวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้เข้าชี้แจงกับหน่วยงานภาครัฐแล้ว

 

พร้อมกันนี้ อมฤทธิ์ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการจงใจขายเพื่อกดให้ราคาหุ้นต่ำลง เพื่อจะได้เพิ่มทุนในราคาที่ถูกลงหรือไม่นั้น โดยระบุว่า หากราคาหุ้นลดลง 1 บาท จะใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นใหม่ถูกลง 300 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าของหุ้นที่ถืออยู่ลดลงมากกว่า 1,500 ล้านบาท มีความสมเหตุสมผลอย่างไร และระยะเวลาการใช้สิทธิเพิ่มทุนครั้งนี้หลังผ่านการอนุมัติยังมีระยะเวลาอีก 6 เดือน จะทำให้เกิดเหตุการณ์ในเวลานี้ทำไม เพื่ออะไร เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลดีกับตนเลย ทั้งในฐานะผู้บริหารและผู้ถือหุ้น 

 

2. กรณีตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทได้รับเงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ MORE-W2 ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการลงทุนครั้งนี้ได้ โดยยังไม่จำเป็นต้องทำรายการเพิ่มทุนในช่วงที่เหตุการณ์ครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

 

คณะกรรมการบริษัทชี้แจงว่า คณะกรรมการได้แยกพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นเป็น 2 ประเด็น คือ 1. การสืบสวนหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการของภาครัฐ 2. การดำเนินธุรกิจของบริษัท 

 

ประเด็นที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์ กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ร่วมทุน หากยกเลิกการทำรายการดังกล่าวอีกจะยิ่งกระทบหนักขึ้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในแผนการร่วมลงทุน และหากมีการถอนตัวจากผู้ร่วมทุน บริษัทต้องคืนเงินมัดจำจากการร่วมทุน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว 

 

อีกทั้งต้นทุนโครงการ Rolling Loud โดยประมาณอยู่ที่ 899 ล้านบาท ขณะที่จำนวนเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ MORE-W2 อยู่ที่ 691 ล้านบาท ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ และยังมีความเสี่ยงที่จะถูก Rolling Loud USA ฟ้องร้องได้

 

3. กรณีที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ขายหุ้นในเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หากถือหุ้นมาก่อนวันที่ Record Date ซึ่งอาจทำให้การออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่ได้สะท้อนเสียงของผู้ถือหุ้น ณ ปัจจุบันที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ 

 

บริษัทชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ ตามกฎหมายที่มีมาก่อน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัท และหากบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหม่ ด้วยระยะเวลาดำเนินการตามกฎหมาย และการจัดเตรียมข้อมูลสารสนเทศต่างๆ จะทำให้บริษัทไม่สามารถจัดประชุมได้ทันตามกำหนดการเดิมภายในปีนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงการถูกฟ้องร้อง 

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า สิ่งสำคัญประการแรกที่ต้องทำในเวลานี้คือ เรียกความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กลับมา ซึ่งการที่บริษัทกำลังดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อจัดทำโครงการคอนเสิร์ต Rolling Loud ในไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ Rolling Loud Thailand จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทในอนาคต และยังเป็นการเสริมประสบการณ์และความสามารถในการดำเนินโครงการใหม่ในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising