×

Moderna เผย วัคซีนเข็มกระตุ้นจาก Moderna มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอต่อการรับมือเชื้อโอไมครอน

21.12.2021
  • LOADING...
Moderna

วานนี้ (20 ธันวาคม) บริษัทด้านเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่อย่าง Moderna เผยว่า วัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Shot) หรือวัคซีนเข็มที่ 3 จาก Moderna มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอต่อการรับมือเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน 

 

โดยวัคซีนสูตรปัจจุบันคือ mRNA-1273 ดร.พอล เบอร์ตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของ Moderna ชี้ว่า วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงมาก จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ช่วยปกป้องประชาชนให้ก้าวข้ามช่วงเทศกาลคริสต์มาสและฤดูหนาวนี้ที่เชื้อโอไมครอนมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดอย่างหนักไปได้ คาดวัคซีนโควิดที่ปรับปรุงมาเพื่อรับมือกับเชื้อโอไมครอนโดยเฉพาะจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า

 

ทาง Moderna เผยอีกด้วยว่า วัคซีนโควิดเพียง 2 เข็ม อาจกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันโควิดให้เกิดขึ้นได้น้อยเมื่อต้องรับมือกับเชื้อโอไมครอน ขณะที่วัคซีนเข็มกระตุ้นจาก Moderna ขนาด 50 กรัม สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้เพิ่มสูงขึ้น 37 เท่า เพื่อรับมือไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้ ส่วนวัคซีนเข็มกระตุ้นจาก Moderna ขนาด 100 กรัม สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าได้ โดยสูงกว่าระดับภูมิคุ้มกันก่อนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นถึง 80 เท่า

 

เบื้องต้นข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบ Peer Reviewed แต่อย่างใด โดยทาง Moderna เตรียมเสนอให้ทางการสหรัฐอเมริกาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 กรัมให้กับประชาชน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก แม้จะเพิ่มโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยก็ตาม โดยทางการสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 และ 2 ขนาด 100 กรัม ขณะที่วัคซีนเข็มกระตุ้นลดเหลือเพียง 50 กรัม ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

 

โดยวัคซีนโควิดชนิด mRNA จากทั้ง Moderna และ Pfizer-BioNTech มีความเกี่ยวโยงกับอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นได้น้อยมากอย่างอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นชาย ซึ่งหลายผลการศึกษาบ่งชี้ว่า วัคซีนโควิดจาก Moderna มีแนวโน้มที่จะเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์สูงกว่า ขณะนี้มีประเทศที่พบผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนี้แล้วอย่างน้อย 89 ประเทศทั่วโลก 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง: 

 

ภาพ: Giovanni Cancemi / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising