×

ไมเนอร์ ฟู้ด และซีอาร์จี ห่วงโควิด-19 ระลอกใหม่กระทบธุรกิจแรงกว่ารอบก่อนหน้า หวังสถานการณ์จบเร็วใน 2-3 สัปดาห์

08.04.2021
  • LOADING...
ไมเนอร์ ฟู้ด และซีอาร์จี ห่วงโควิด-19 ระลอกใหม่กระทบธุรกิจแรงกว่ารอบก่อนหน้า หวังสถานการณ์จบเร็วใน 2-3 สัปดาห์

ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ทว่า การระบาดอีกระลอกของโรคโควิด-19 ซึ่งครั้งนี้จุดระบาดเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจบ้าง โดยเฉพาะ ‘ธุรกิจร้านอาหาร’ ซึ่งยอดขายหลักมาจากการนั่งกินในร้าน ทว่า การระบาดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงที่จะเดินเข้าไปในร้าน

 

ไมเนอร์ ฟู้ด ยังมั่นใจยอดขายเดือนเมษายนโต 25-40%

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประเมินกับ THE STANDARD WEALTH ว่า การระบาดรอบนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากกว่าการระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี เพราะครั้งนั้นคลัสเตอร์อยู่ในต่างจังหวัดอย่างสมุทรสาครและระยอง แต่ครั้งนี้กลับอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งอาจจะสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้บริโภคได้

 

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

 

ก่อนหน้านี้ไมเนอร์ประเมินว่า ธุรกิจจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ โดยประเมินว่ายอดขายจะเติบโตกว่า 25-40% โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน 

 

โดยการเติบโตที่ก้าวกระโดดถูกประเมินว่าจะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การปิดเทอม ซึ่งในเดือนเมษายนน่าจะปิด 100% ตลอดจนการที่รัฐบาลเปิดให้สามารถเดินทางไปยังต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ และสุดท้ายคือการหมดระยะเวลาของโครงการคนละครึ่ง

 

อ่านต่อ: ไมเนอร์ ฟู้ด คาด ยอดขายเดือนเมษายนจะเติบโต 25-40% อานิสงส์จากปิดเทอมและสงกรานต์

 

“ตอนนี้เรายังไม่ได้ถอดความมั่นใจออกไป เพราะอย่างอาทิตย์แรกของเดือนเราโต 20% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน ดังนั้นเดือนเมษายน 25% โตได้แน่นอน แต่จะถึง 40% ไหม ต้องดูจากสถานการณ์อีกที ซึ่งในช่วงนี้เราต้องมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิดและปรับตัวตามสถานการณ์ โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยในร้านเป็นเรื่องสำคัญ”

 

อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่มีข่าวว่าร้านอาหารอาจจะต้องปิด 3 ทุ่มนั้น ประพัฒน์ระบุว่า หากปิดจริงก็จะส่งผลกระทบถึงยอดขายในมื้อเย็น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนยอดขายกว่า 30-40% แม้ยอดขายจะไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่จะมีผลแน่นอน เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจที่จะเดินเข้าร้าน

 

ซีอาร์จีเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่หนักมาก

ด้าน ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี (CRG) บอกกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ช่วง 2-3 เดือนแรกของปี แม้ยอดขายกระทบประมาณ 10% จากสถานการณ์การระบาดในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปี ทำให้ผู้บริโภคยังกังวลอยู้บ้าง แต่ในส่วนของกำไรนั้นเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี (CRG) 

 

ในส่วนของทราฟฟิกในร้านนั้นกลับมา 80-90% แล้ว เมื่อเทียบก่อนช่วงโควิด-19 แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า ทราฟฟิกลดลงประมาณ 10% ในขณะที่ยอดขายยังทรงตัวอยู่

 

“ส่วนตัวมองว่าต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถ้าคุมไม่อยู่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากกว่าการระบาดในช่วงปลายปี 2563 เพราะรอบนี้เป็นการระบาดในกรุงเทพฯ ส่วนจะหนักหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐ ตลอดจนความร่วมมือของประชาชนในการควบคุมโรค”

 

แม่ทัพซีอาร์จีประเมินว่า การระบาดครั้งใหม่น่าจะสร้างผลกระทบสั้นๆ ในช่วง 2-3 อาทิตย์ต่อจากนี้ และภายใน 1-2 เดือนก็น่าจะกลับมาเป็นปกติ หากจะให้ประเมินผลกระทบยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะประเมินได้อย่างชัดเจน แต่ก็จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงนี้ซีอาร์จีจะเน้นเรื่องความสะอาดให้เข้มข้นและรัดกุมยิ่งขึ้น 

 

“อย่างช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้เชื่อว่าคนอาจจะออกมากินข้าวในร้านน้อยลงบ้าง จากผู้ที่กังวลในสถานการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่เรายังมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่หนักมาก”

 

ส่วนกรณีที่อาจจะต้องปิดร้าน 3 ทุ่มนั้น ณัฐมองว่า จะไม่กระทบมากนัก เพราะจะมียอดขายจากเดลิเวอรีเข้ามาช่วยหนุน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็น 16-17% จากยอดขายทั้งหมดแล้ว 

 

โดยเดือนเมษายนปีนี้นับว่าดีกว่าปีที่แล้วมากซึ่งต้องปิดร้าน และผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ยังไม่คุ้นชินกับการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี แต่รอบนี้ผู้บริโภคกลุ่มนี้คุ้นชินแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ยอดขายจากเดลิเวอรีจะเติบโตขึ้นมา แม้ไม่สามารถชดเชยจากยอดขายแบบนั่งกินในร้านได้ทั้งหมด แต่กระนั้นก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเข้ามาช่วยเลย 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising