×

ผ่อนคลาย 3 ชั่วโมงพร้อมเฟิร์มหุ่นลดบวมกับ The Slim & Firm Journey ที่ Sindhorn Wellness by Resense

22.02.2024
  • LOADING...
Sindhorn Wellness by Resense

เราเชื่อว่า น้ำหนัก ไขมันส่วนเกิน หรือสัดส่วนที่ไม่กระชับ ล้วนเป็นความกังวลยอดฮิตของใครหลายคน โดยเฉพาะกับสาวๆ ในทุกยุค ทุกสมัย และเราก็เชื่ออีกเช่นกันว่า ทุกคนรู้ดีว่าการออกกำลังกายและคุมอาหารคือทางออกที่ดี ปลอดภัย และยั่งยืนที่สุดอีกเช่นกัน แต่ต้องแลกมาด้วยเวลาและวินัยอย่างสม่ำเสมอ

 

ทว่า ข้อจำกัดและปัญหารูปร่างของแต่ละคนไม่เท่ากัน วันนี้เราเลยอยากชวนผู้อ่าน LIFE มาทำความรู้จักกับ Sindhorn Wellness by Resense สปาสุดหรูใจกลางกรุง ที่มีโปรแกรมเพื่อเรือนร่างที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความกังวลของใครหลายคนอย่าง The Slim and Firm Journey

 

What is it?

 

ก่อนจะไปทำความรู้จักกับโปรแกรม เราอยากพาไปยลความงามของสปาแห่งนี้กันก่อน Sindhorn Wellness by Resense ตั้งอยู่ใน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในย่านหลังสวน ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวอาคารสุดล้ำ และยังรายล้อมไปด้วยพื้นที่สวนเขียวชอุ่มเย็นตา เพียงกดลิฟต์จากชั้นล็อบบี้ขึ้นมาที่ชั้น 9 ก็จะพบกับตัวสปา ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับสระว่ายน้ำ โดยมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจด้านหน้าอย่างกว้างขวาง 

 

 

ก้าวเข้ามาในตัวสปาก็จะเจอกับพื้นที่รองรับเรียบหรูพร้อมน้ำ Infused-Water เพื่อสุขภาพให้บริการ

 

 

ในส่วนของห้องให้บริการที่นี่จะมีอยู่ที่ 26 ห้อง โดยมีห้องคู่ 1 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีบรรยากาศและบริการที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ห้องสำหรับบอดี้ทรีตเมนต์เพื่อความผ่อนคลาย ก็จะมีแบ็กกราวด์เป็น City View สบายตา 

 

 

นอกจากทรีตเมนต์แล้ว อีกจุดเด่นของ Sindhorn Wellness by Resense คือ Hydro Experiences ที่นี่มีบริการวารีบำบัดที่หลากหลาย อย่างเช่น ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับบริการ Hammam ธรรมเนียมอาบน้ำแบบโบราณ ที่ช่วยให้ความผ่อนคลายพร้อมบำรุงผิวทั่วเรือนร่าง โดยแขกผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกได้ระหว่างสไตล์ Morocco หรือ Turkish 

 

 

ห้องสำหรับ Hydrotherapy ที่ใช้น้ำในการบำบัดร่างกาย มอบความผ่อนคลายสบายตัวไปอีกแบบ  

 

 

ในส่วนของโซนห้องน้ำและห้องแต่งตัวกว้างขวาง คงดีไซน์ความหรูหราสมกับเป็นสปาในโรงแรม 5 ดาว

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้สปาที่ Sindhorn Wellness by Resense โดดเด่นและแตกต่างอย่างที่สุดคงต้องยกให้ Thermal Journey รีแล็กเซชันโซนทั้ง 7 ห้อง ที่ใช้อุณหภูมิร้อน-เย็นในการบำบัดร่างกาย ซึ่งช่วยในการปรับสมดุลอารมณ์ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย

  

 

จากไลฟ์สไตล์ของเราที่ออกกำลังกายเป็นทุนเดิม แต่มีปัญหาเรื่องสัดส่วนไม่กระชับ เนื่องจากการลดน้ำหนักแบบผิดวิธีในอดีต เราเลยเลือกรับเป็นบริการเป็น Journey แบบจัดเต็ม โดยมีทั้ง Thermal Journey (30 นาที), Hydromassage Algae Contouring Bath (1,300 บาทต่อ 20 นาที) และ The Slim & Firm (7,500 บาทต่อ 120 นาที) ที่มัดรวมทั้ง Anti-Cellulite Massage (60 นาที) และ Ballancer (60 นาทีต่อ 2 ส่วน) นวัตกรรมที่ช่วยนวดตัวด้วยแรงดัน กระตุ้นการทำงานของ Lymphatic System หรือระบบไหลเวียนของน้ำเหลือง ลดอาการบวมน้ำ และกระชับสัดส่วนเข้าไว้ด้วยกัน

 

 

Experience

 

เริ่มกันที่ Thermal Journey ด้วยความที่โซนนี้ถูกออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนรวมโดยไม่แบ่งแยกเพศ ทางสปาเลยจะแนะนำให้สวมใส่เป็นชุดว่ายน้ำหรือจะใส่เป็น Disposable Bra และ Bath Robe แทนได้เช่นกัน 

 

ทันทีที่เดินเข้าโซนก็จะเจอกับ Salt Sauna และ Cold Room ทางด้านซ้ายมือเป็นสองห้องแรก ห้องซาวน่าเกลือนี้จะใช้เกล็ดเกลือหิมาลายันในการบำบัด ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องระบบทางเดินหายใจ มอบความรู้สึกสดชื่น และหลับสบายยิ่งขึ้น

 

 

ในขณะที่ห้อง Cold Room ก็คือหนาวสมชื่อ โดยห้องนี้มีอุณหภูมิอยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส ใครที่กังวลเรื่องรูขุมขนกว้างแนะนำให้มาอยู่ห้องนี้ รับรองว่าตอบโจทย์ (แค่ต้องแกร่งสู้ความหนาวสักหน่อย) 

 

 

มาโซนอาบน้ำกันบ้าง ที่นี่ก็จะมีด้วยกันสองห้องคือ Experience Shower ห้องที่มีการใช้หัวฉีดน้ำจากรอบด้าน มอบความรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นชุ่มฉ่ำ

 

 

ส่วนใครที่เป็นสายเอ็กซ์ตรีม แนะนำให้ลอง Cold Bucket Shower เพราะน้ำที่อยู่ในถังนั้นมีอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส แค่ไปยืนใต้ถังแล้วดึงเชือก ก็เตรียมสัมผัสได้ถึงความเย็นเยือกในเสี้ยววินาทีได้เลย

 

 

มาถึง Aroma Steam Room ห้องสตีมที่แค่เปิดประตูก็ได้กลิ่นหอมของยูคาลิปตัสฟุ้งออกมา ไอน้ำและอุณหภูมิที่ร้อนนี้นอกจากจะช่วยเปิดรูขุมขน ขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวแล้ว แน่นอนว่ายังช่วยเรื่องความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และกลิ่นหอมของยูคาลิปตัสเองก็ช่วยให้หายใจโปร่งโล่งยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

 

ส่วน Bio Sauna จะเป็นห้องที่อุณหภูมิสูงที่สุดของที่นี่ อยู่ที่ราวๆ 60 องศาเซลเซียส ฟังดูท่าจะร้อนจัด แต่พอลองเข้าไปสัมผัสจริงๆ แล้วรู้สึกสบายตัวกว่าที่คิด 

 

 

และแล้วก็มาถึงโซนที่เราประทับใจที่สุด Tepidarium Loungers โซนนอนพักชมวิวเมืองบนเก้าอี้หินอ่อนอุ่นๆ ในรูปทรงที่ถูกดีไซน์มาให้เข้ากับสรีระ แค่เอนตอนนอนลงก็พร้อมหลับได้เลย เพราะตัวเก้าอี้อุ่นพอดี สบายตัวมากจริงๆ 

 

 

สำหรับใครที่สงสัยว่าควรเข้าห้องไหนก่อน-หลัง คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่คุณเลือกรับ แต่ทั้งนี้ หากจะเลือกเข้าเฉพาะที่อยากเข้าก็ไม่ผิด เพียงแต่การเรียงลำดับเข้าตามโปรแกรมจะทำให้คุณได้ประโยชน์จากการบำบัดสูงสุดนั่นเอง

 

ก่อนที่จะผล็อยหลับในโซนนี้ไป 3 ชั่วโมง เทอราปิสต์ก็มาเชิญเราไปทำทรีตเมนต์ต่อ โดยเริ่มกันที่ Hydromassage Algae Contouring Bath มองผิวเผินดูเหมือนเป็นอ่างน้ำธรรมดา แต่พอได้ลองหย่อนตัวแช่แล้วสัมผัสได้ถึงความสบายด้วยแรงดันของน้ำแบบอ่อนโยนทั่วทิศ และยังมีการสลับเปลี่ยนสีไฟเพื่อปรับมู้ด เพิ่มความผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน

 

 

และน้ำที่แช่นี้ยังอุดมไปด้วย Firming Algae Extract สารสกัดจากสาหร่ายที่จะช่วยกระตุ้นการขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย

 

 

ตามด้วย Anti-Cellulite Massage ส่วนหนึ่งของทรีตเมนต์ในโปรแกรม The Slim & Firm ก่อนอื่นจะมีการแปรงผิวด้วย Dry Brush เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด พร้อมขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ตามด้วยการนวด

 

 

หลังจากที่เคยผ่านการนวดมาหลายรูปแบบ สัมผัสได้เลยว่าการนวดสลายเซลลูไลต์นั้นมีเทคนิคที่ค่อนข้างแตกต่าง และให้ความรู้สึกมากกว่าทรีตเมนต์อื่นๆ ด้วยการออกแรงกดคลึงดึงผิวแบบล้ำลึก ซึ่งให้ความรู้สึกสะใจเบาๆ

 

 

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวดร่วมด้วยนั้นถูกคัดสรรมาอย่างพิเศษ นอกจากจะช่วยให้กระชับแล้ว ก็ยังให้ความชุ่มชื้นบำรุงผิวไปในตัว 

 

 

หลังนวดตัวจนฉ่ำใจครบชั่วโมงแล้ว ก็ถึงเวลาไปอวกาศ ใช่แล้ว ชุดอวกาศที่ว่าก็คือ Ballancer นั่นเอง ที่จริงแล้ว Ballancer ยังมีคุณสมบัติมากกว่าแค่แก้ปัญหาสัดส่วน แต่ยังมีโหมดที่สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้ออีกด้วย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมนวัตกรรมนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาอีกเช่นกัน 

 

 

หากใครที่ไม่ได้เลือกรับบริการโปรแกรม The Slim & Firm และเลือกรับบริการ Ballancer เพียงอย่างเดียว ก่อนที่จะสวมใส่ชุดอวกาศนี้ ทางเทอราปิสต์ก็จะมีการทาทรีตเมนต์ลงบนผิวให้เช่นกัน

 

 

การรับบริการด้วยเครื่อง Ballancer จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนบนและล่าง โดยเราสามารถเลือกรับบริการในวันเดียวกันได้ แต่จะต้องแยกทำทีละส่วน

 

 

หลังจากที่สวมใส่ชุดพร้อมไปอวกาศแล้ว ก็จะสัมผัสได้ถึงแรงบีบของชุดจากเบาไปแรง แต่ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนกำลังถูกนวด ระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน เทอราปิสต์ก็จะมีบริการนวดศีรษะผ่อนคลายให้อีกระดับ เรียกว่าสบายทั่วร่างสุดๆ

 

 

หลังจากถอดชุดอวกาศออกแล้ว สังเกตเห็นได้ว่าร่างกายมีการขับเหงื่อออกประมาณหนึ่ง พร้อมความรู้สึกเบาสบายตัวยิ่งขึ้น 

 

Result

 

หลังเสร็จสิ้นทรีตเมนต์แล้วเราได้มีการไปออกกำลังกายตามปกติ แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเหงื่อออกมากกว่าปกติและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น นอกจากนี้คือร่างกายมีการขับลมบ่อยขึ้นอีกด้วย  

 

Good for

 

Sindhorn Wellness by Resense ถือเป็นหนึ่งในสปาระดับลักชัวรีที่ครบครันทั้งเรื่องบรรยากาศ การบริการ และความหลากหลายของทรีตเมนต์ ที่จริงจะแค่แวะมาใช้บริการ Thermal Journey แบบ Day Pass ก็ฟินแล้ว 

 

ส่วน The Slim & Firm Journey* ทั้งหมดที่เราเลือกรับบริการนั้นค่อนข้างเหมาะกับคนที่ชอบทำทรีตเมนต์แบบผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็เน้นเรื่องกระชับสัดส่วนไปด้วย แต่อย่างที่บอกว่าการจะลดสัดส่วนและไขมันได้อย่างยั่งยืนนั่นคือ การออกกำลังกายและคุมอาหาร ดังนั้นแล้วการทำทั้งสองอย่างควบคู่ไปด้วยจะให้เห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

 

นอกจากนี้ในส่วนของการนวดสลายเซลลูไลต์และเครื่อง Ballancer เองก็ต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยความถี่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล 

 

Sindhorn Wellness by Resense

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล 

 

Sindhorn Wellness by Resense 

Open: เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-22.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-22.00 น. 

Address: Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok 

Tel: 0 2095 9999

Website: https://sindhornwellness.com/ 

Facebook: https://www.facebook.com/sindhornwellness

Instagram: https://www.instagram.com/sindhornwellness/ 

Budget: 

  • Thermal Journey Day-Pass (1,500 บาท++) หากใช้บริการทรีตเมนต์จะสามารถรับบริการ Thermal Journey ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • Hydromassage Algae Contouring Bath (1,300 บาทต่อ 20 นาที) 
  • The Slim & Firm (7,500 บาทต่อ 120 นาที) 

Map: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising