อิ่มอร่อยเกลี้ยงทุกจานกับเมนูสุพรีมดินเนอร์ใหม่สไตล์โมเดิร์นไทยที่ Sava

หลังจากที่ได้กระแสตอบรับอย่างดีมาโดยตลอดสำหรับสาขาที่เอ็มควอเทียร์ วันนี้ Sava ร้านอาหารไทยที่เสิร์ฟความอร่อยในคอนเซปต์ ‘Modern Thai Flavour’ โดย หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ก็ได้ขยายอาณาจักรมายังเอ็มโพเรียม ชั้น M ในพื้นที่ใกล้เรือนเคียงเหล่าแฟชั่นแบรนด์ไฮเอนด์

The Vibe

เพียงเดินมายังหน้าร้านก็เป็นต้องสะดุดตากับลวดลายพรินต์ที่รวบตึง 4 ปีนักษัตรเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ ม้า, หมู, ลิง และหมา หากไปยืนสังเกตใกล้ๆ ก็จะเห็นถึงคาแรกเตอร์ที่เด่นชัดของสัตว์แต่ละตัว ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกของ 4 ผู้ถือหุ้นของ Sava

นอกจากโซนเกาะกลางที่เหมาะสำหรับการนั่งจิบชายามบ่าย เพิ่มอรรถรสในการกินให้อร่อยล้ำด้วยเซ็ต Sava Afternoon Tea with Noritake ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ แล้ว ก็ยังมีโซนด้านในที่ให้บรรยากาศดีไปอีกแบบ

The Taste

นอกจากความตั้งใจให้คอนเซปต์อาหารที่ร้านเป็นแบบโมเดิร์นไทยแล้ว สิ่งที่หมูให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ เรื่องของรสชาติที่ต้องสร้างความรู้สึกแบบ Refined Home-Cooked Meals ที่จะมอบรสสัมผัสของอาหารไทยที่เข้าใจง่าย กินง่าย กินแล้วชวนนึกถึงอาหารในวัยเด็ก และยังสามารถแชร์กันกินได้หลายคน แน่นอนว่าการเปิดร้านใหม่ในครั้งนี้ Sava ก็ได้เปิดตัวเมนูดินเนอร์ใหม่ด้วยเช่นกัน

ประเดิมกันกับจานที่ใหญ่สะดุดตาที่สุด River Prawn Paella with Shrimp Paste (1,500 บาท ต่อ 3-4 คน) ข้าวผัดมันกุ้งท็อปด้วยกุ้งแม่น้ำย่างตัวโตและไข่เยิ้มๆ หรือก็คือปาเอญาเวอร์ชันไทยนั่นเอง ความอร่อยของจานนี้คือข้าวที่ไม่ใช่แค่ข้าวผัดเฉยๆ แต่เป็นข้าวผัดที่มีความเกรียมติดกระทะเล็กน้อย ให้เท็กซ์เจอร์กรุบกรอบเคี้ยวเพลิน บีบเลมอนลงไปเล็กน้อย ยิ่งเพิ่มรสชาติให้จานนี้มีความจี๊ดจ๊าดยิ่งขึ้น

ตักข้าวมาแล้วต้องตักเนื้อสัตว์และรสชาติความจัดจ้านมากินคู่ด้วยกับจานพะแนงสองจาน เริ่มที่ Grilled Australian Lamp Cutlets (850 บาท) แกะสามขาเสิร์ฟในถาดเหล็กสั่งทำพิเศษ ราดซอสพะแนงมาแบบฉ่ำๆ เนื้อแกะย่างมาได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคือกลิ่นไม่แรง เห็นสีพะแนงจัดจ้านแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะรสชาติจะออกหวานนำเผ็ดตามเล็กๆ เท่านั้น

ต่อด้วยจานที่สายเนื้อต้องหลงรัก Grilled Australian Stiploin Grain-Fed 200 Days Steak (850 บาท) ที่ชิ้นเนื้อใหญ่จุใจ ย่างมาในระดับมีเดียมนุ่มกำลังดี หากให้กินแล้วเดาราคาของจานนี้ ก็คงคิดว่ามีแตะแบงก์เทาสองใบ ด้วยคุณภาพและรสชาติที่ดีเกินคาด ยิ่งได้ไวน์แดงจากชิลีที่ทางร้านแนะนำมาแพริ่งด้วยคือต้องยกนิ้วให้

Lump Crab Meat Omelette (360 บาท) ไข่เจียวฟูปูที่ฟูสมชื่อ ให้ความรู้สึกประหนึ่งตักเค้กกิน ตัวไข่จะเป็นไข่เจียวล้วน ตักกินกับปูที่ท็อปมาด้านบนกับข้าวปาเอญาร้อนๆ คือดี

เอาใจสายกุ้งกันต่อกับ Spaghetti with Grilled River Prawn and Shrimp Paste Sauce (850 บาท) สปาเกตตีกุ้งแม่น้ำตัวโต และ River Prawn with Salt and Garlic (650 บาท) กุ้งแม่น้ำทอดกระเทียม จากที่ได้ชิมเมนูกุ้งมาทั้งหมดต้องบอกว่า กุ้งที่นี่มีความสด เนื้อกรอบ เด้ง แน่น ทุกตัว ยิ่งตักกินกับไข่กุ้งด้วยยิ่งฟิน

มาถึงจานสุดท้ายของอาหารคาว Grilled Salmon with Garlic Butter Sauce (450 บาท) แซลมอนย่างซอสครีมกระเทียมที่ทีม LIFE ต่างต้องเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีมาก!” พร้อมโหวตเป็นเดอะเบสต์ของค่ำคืนนี้ แซลมอนย่างมาได้นุ่มกำลังดี เข้ากันกับตัวซอสที่มีความหอมฉ่ำครีมกระเทียมแบบไร้ที่ติ เรียกว่าเป็นเมนูที่ต้องสั่งและต้องซ้ำ

ใครที่เป็นแฟน Sava จะรู้ว่าที่นี่มีขนมหวานจานซิกเนเจอร์อย่าง พุดดิ้งมะตูม (230 บาท) ท่ีควรสั่งมาลองให้ได้สักครั้ง ด้วยตัวเท็กซ์เจอร์และรสชาติที่ไม่เหมือนใครจริงๆ แต่หากใครที่เป็นแฟนมะพร้าวกะทิด้วย เราอยากให้ลองอีกสองจานที่เก๋ทั้งรูปและอร่อยไม่แพ้กัน ขนมดอกจอกครองแครงและไอศกรีมมะพร้าวอ่อนพาร์เฟต์ (190 บาท) ความเค็มหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของครองแครง เข้ากันดีกับรสชาติและความหอมของไอศกรีมมะพร้าวแบบ 10/10

ส่วนอีกจานคือ ขนมใส่ไส้ไดฟูกุ (120 บาท) ที่ข้างในสอดไส้มะพร้าวฝอยหวานแน่นๆ ทำเอาอิ่มท้องตึง

นอกจากเมนูของหวานข้างต้นแล้ว ที่จริงทาง Sava ยังมี Ice-Cream Parlor เมนูไอศกรีมใหม่ที่รังสรรค์โดยเชฟเป่าและเชฟพรต ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในไม่ช้าอีกด้วย

“จริงๆ มันเริ่มจากไอศกรีมทอด เราคุยกันว่าอยากทำของที่ดูกินง่าย แมส แต่เราก็ได้มีการคุยกันและปรับสูตรกันเยอะ” เชฟเป่ากล่าว

“มันผ่านมาหลายเจเนอเรชันกว่าจะได้มาถึงจุดนี้” หมูกล่าว

ภาพ: Sava

ไอศกรีมคอลเล็กชันแรกนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด ‘Modern Nostalgic’ ชนิดที่ตักเข้าปากแล้วจะต้องคุ้นเคยในรสชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้สัมผัสใหม่ที่ไม่เคยลองที่ไหนมาก่อน ด้วยเทคนิคการทำที่พิถีพิถัน ไม่ได้ง่ายเหมือนภาพที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นรสข้าวโพดคลุกเนยที่ชวนให้นึกถึงซุปข้าวโพดโบราณ, รสคอร์นเฟล็กซ์ที่ชวนให้นึกถึงการได้กินซีเรียลตอนเด็กๆ และรสช็อกโกแลตที่ชวนให้นึกถึงเค้กช็อกโกแลตปอนด์

ซึ่ง LIFE มีโอกาสได้ชิมตัวไอศกรีมของแต่ละรสแล้วก็ต้องการันตีอีกเสียงว่า ชวนให้นึกถึงความทรงจำวัยเด็ก และคงต้องติดดาวให้รสข้าวโพดเป็นพิเศษเลยล่ะ

Good For

ใครที่ชอบอาหารไทยที่มีความเป็นคอมฟอร์ตฟู้ดในเวอร์ชันที่พรีเมียมยิ่งขึ้น แต่ยังมีความเข้าถึงได้ ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ นอกจากนี้ยังเหมาะเป็นที่นั่งพักกายพักใจกินของอร่อยๆ หลังจากที่เมื่อยจากการช้อปปิ้งอีกด้วย