ผู้นำโลกเห็นพ้องแนวทางสร้างสันติภาพในลิเบีย เคารพกฎห้ามส่งอาวุธให้คู่ขัดแย้ง

ผู้นำชาติมหาอำนาจหลายประเทศเห็นพ้องในที่ประชุมสุดยอดที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ว่าจะหาทางคลี่คลายวิกฤตความขัดแย้งในลิเบียอย่างสันติวิธี และไม่สนับสนุนกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับคู่ขัดแย้ง ในระหว่างที่ข้อตกลงหยุดยิงยังมีผลบังคับใช้

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมสันติภาพนาน 4 ชั่วโมง ว่าทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และตกลงกันที่จะผลักดันแผนสันติภาพฉบับครอบคลุมให้เดินหน้าต่อไป

“เราเห็นพ้องว่า ควรเคารพข้อกำหนดห้ามการส่งอาวุธไปยังลิเบีย และควรควบคุมการเข้าออกให้เข้มงวดขึ้นกว่าแต่ก่อน” แมร์เคิลกล่าว

ลิเบียติดหล่มสงครามกลางเมืองมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การปฏิวัติอาหรับสปริง ที่นำไปสู่การโค่นล้มระบอบเผด็จการของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011 โดยปัจจุบันการสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด ระหว่างกองกำลังฝ่ายที่สวามิภักดิ์ต่อ นายพลคาลิฟา ฮัฟตาร์ กับฝ่ายรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ที่สนับสนุนโดยสหประชาชาติ

นอกจากแมร์เคิลแล้ว ผู้ที่ร่วมประชุมเมื่อวานนี้ (19 มกราคม) ยังมี ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย, ประธานาธิบดีเรเจป ตอยยิป แอร์โดอัน ของตุรกี, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ขณะที่สหรัฐฯ ส่ง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนร่วมประชุม

ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น จอห์นสันระบุว่า “ประชาชนลิเบียทนทุกข์มามากพอแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ประเทศดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไป”

ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า กองกำลังของนายพลฮัฟตาร์ได้ปิดท่าเรือที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงท่อส่งน้ำมันในประเทศด้วย

ขณะที่ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย แสดงความวิตกว่า บรรดาชาติมหาอำนาจยังไม่มีการจัดประชุมสันติภาพระหว่างคู่ขัดแย้งอย่างจริงจัง และกังวลว่า ข้อตกลงหยุดยิงจะได้ผลแค่ไหน และจะรักษาไว้ได้อย่างไร

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: