×

TASTE: Larder ร้านบรันช์สุดเท่ที่อยากนำเสนอวิถีการกินอาหารของชาวโปแลนด์

14.09.2022
  • LOADING...
Larder

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ร้านนี้เกิดจากสองเชฟเพื่อนซี้ คือ Adrian Klonowski และ Radek Zarębiński พวกเขาเคยทำงานในร้านอาหารมิชลินในกรุงเทพฯ อยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนตัดสินใจออกมาเปิดร้านของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ถนัดและชอบ นั่นก็คือเบเกอรีและชาร์คูเทอรีสไตล์โปแลนด์ที่พวกเขาลุยเองทุกขั้นตอน
  • เมนูอาหารที่ Larder จะเป็นสไตล์มื้อเช้าเสิร์ฟตลอดวัน เน้นจำพวกขนมปัง ชาร์คูเทอรี ไส้กรอก อาหารจานเล็ก และแซนด์วิชโปแลนด์ (Ka Nap Ki) ซึ่งแต่ละอย่างเสิร์ฟมาแบบเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติและองค์ประกอบที่จัดจ้านชัดเจน แถมกินสนุกจนเก็บให้เป็นร้านที่อยากแวะมาบ่อยๆ ได้เลย

“พวกเราอยากให้ทุกคนได้กินอาหารที่มีคุณภาพจริงๆ ก็เท่านั้น อย่ามัวแต่กินของไม่อร่อยเลยน่า” นี่คือคำพูดที่เราชอบระหว่างนั่งคุยกับเชฟชาวโปแลนด์เจ้าของ Larder (ลาร์เดอร์) ร้านชาร์คูเทอรีและเบเกอรีสัญชาติโปแลนด์ในซอยสุขุมวิท 39

 

ร้านนี้เกิดจากสองเชฟเพื่อนซี้สัญชาติเดียวกัน คือ Adrian Klonowski และ Radek Zarębiński พวกเขาเคยทำงานในร้านอาหารมิชลินในกรุงเทพฯ อยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนตัดสินใจออกมาเปิดร้านของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ถนัดและชอบ นั่นก็คือเบเกอรีและชาร์คูเทอรีสไตล์โปแลนด์ที่พวกเขาลุยเองทุกขั้นตอน

 

Larder

Larder

 

Adrian ผู้เคยทำงานในครัว Gaa บอกว่า พวกเขาตั้งใจออกแบบร้านให้มีลักษณะเป็นพื้นที่กว้างๆ “เพราะพวกเราไม่มีอะไรต้องปิดบังทุกคนสักหน่อย” ก็เลยอยากโชว์ทุกขั้นตอนระหว่างทีมทำขนมและอาหาร ร้านนี้จึงไม่มีกำแพงแบ่งโซนครัวและโซนนั่งรับประทาน แต่ในขณะเดียวกันทุกอย่างกลับเป็นสัดส่วนและให้บรรยากาศเหมือนนั่งกินข้าวอยู่ใน ห้องเก็บอาหาร อย่างที่ชื่อร้านบอก

 

เพราะเมื่อทุกคนเปิดเข้ามา สิ่งแรกที่จะเห็นคือชั้นวางขนมปังอบใหม่ทุกวัน มีตั้งแต่ซาวโดวจ์ที่เด็ดไม่แพ้ใคร ไปจนถึงขนมอบหลายชนิดที่จะสั่งกลับบ้านหรือกินในร้านก็ได้

 

และถ้าหันไปมองทางขวาจะเจอตู้โชว์ผลงานของ Radek ผู้มาจากครัว Gaggan ส่วนตอนนี้รับหน้าที่ดูแลชาร์คูเทอรีทั้งหมดของ Larder ซึ่งทุกคนแวะมาซื้อโคลด์คัตหรือชาร์คูเทอรีอื่นๆ กลับทำกินเองที่บ้านได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องสั่งกินในร้านเท่านั้น

 

Larder

Larder

 

เมนูอาหารที่ Larder จะเป็นสไตล์มื้อเช้าเสิร์ฟตลอดวัน เน้นจำพวกขนมปัง ชาร์คูเทอรี ไส้กรอก อาหารจานเล็ก และแซนด์วิชโปแลนด์ (Ka Nap Ki) ซึ่งแต่ละอย่างเสิร์ฟมาแบบเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติและองค์ประกอบที่จัดจ้านชัดเจน แถมกินสนุกจนเก็บให้เป็นร้านที่อยากแวะมาบ่อยๆ ได้เลย

 

เราแนะนำให้ลองสั่งเมนูหลายๆ อย่างมาชิม เริ่มตั้งแต่ ‘Bread (20 บาทต่อแผ่น)’ ที่ให้ทุกคนเลือกขนมปังมากินเล่นระหว่างรอ หรือจะสั่งมาชิมดูก็ได้ โดยมีให้เลือกทั้งฟอกกาเซีย ซาวโดวจ์ และไรย์ซาวโดวจ์ ต้องกินคู่กับเนยที่ร้านทำเอง ‘Anchovies Butter (30 บาท)’ เนยแอนโชวีที่ช่วยชูรสขนมปังได้ดีมากทีเดียว

 

Larder

 

เข้าสู่จานหลักด้วยเมนูแซนด์วิชโปแลนด์ ‘Tuna 3000 (250 บาท)’ ร้านใช้ขนมปังซาวโดวจ์ท็อปด้วยซอสทาร์ทาร์ ไข่ต้ม และทูน่าชิ้นสวย ข้างๆ กันมีชิปกรอบๆ มาให้ด้วย เป็นเมนูรสชาติดีแบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากอย่างที่เชฟทั้งสองตั้งใจ “เพราะถ้าเลือกใช้วัตถุดิบดี อาหารก็จะอร่อยด้วยตัวมันเองได้” พวกเขาบอกเคล็ดลับ

 

เช่นเดียวกับ ‘Croque Khun Poo Ying (250 บาท)’ หรือคร็อกมาดาม แซนด์วิชแฮมชีสไตล์ฝรั่งเศส แต่ในเวอร์ชันของ Larder จะใช้ขนมปังซาวโดวจ์ผ่ากลางประกบพาสทรามีทำเอง ก่อนราดด้วยซอสมายองเนสและมัสตาร์ด ตัดรสด้วยกะหล่ำปลีดอง ท็อปด้วยไข่ดาวสวยๆ อีกที ทำให้กินแล้วรสชาติมีหลายมิติจนน่าติดใจ

 

Larder

 

และเมื่อเราเห็นเมนูแซนด์วิชที่ถูกคิดมาให้เลือกหลากหลายขนาดนี้ เลยแอบถาม Adrian ว่า แล้วเมนูโปรดของเขาคือจานไหน Adrian ลุกไปทำเมนูใหม่ ‘Soppressata Calabrese (270 บาท)’ มาใช้เราชิมทันที

 

เป็นแซนด์วิชขนมปังซาวโดวจ์ที่ประกบซาลามีรสเผ็ดนิดๆ ไว้ตรงกลาง ก่อนจะราดด้วยซอสเพสโต้ให้แบบจุกๆ เต็มแผ่น จานนี้ต้องกินร้อนๆ เพราะกัดไปแล้วจะกรอบ รสชาติจัดจ้าน ถ้าใครชอบอาหารมีอโรมาชัดเจนแบบเราต้องรักเมนูนี้แน่นอน

 

Larder

Larder

 

มาพักด้วยเมนูกินเล่นบ้างดีกว่า เพราะเป็นไฮไลต์สำคัญของร้านเหมือนกัน เนื่องจาก Adrian และ Radek อยากทำอาหารบ้านเกิดเสิร์ฟในร้านนี้ด้วย แต่หากจะบอกว่าเป็นอาหารโปแลนด์เสียทีเดียวก็คงไม่ใช่ เพราะพวกเขาอธิบายว่านี่คือ “The way we eat in Poland” มากกว่า 

 

ซึ่งหมายถึงว่า “ชาวโปแลนด์นิยมกินอาหารจานเล็กๆ แบบนี้แหละ ในมื้อหนึ่งจะมีหลายๆ อย่างแบ่งกินด้วยกัน แต่บางมื้อเราก็กินแซนด์วิชแบบที่เสิร์ฟในร้าน”

 

ส่วนเมนูที่เจ้าของทั้งสองอยากให้ทุกคนมาลองก็มี ‘Polish Biala (150 บาท)’ ไส้กรอกโปแลนด์ฝีมือ Radek นำไปย่างให้ผิวกรอบนิดๆ ก่อนเสิร์ฟ กินคู่กับซอสมัสตาร์ดที่ทำเองเช่นกัน ต้องบอกอีกแล้วว่าเรียบง่ายแต่รสชาติดีมาก ไม่ต่างจาก ‘Anchovies with potato & dill (140 บาท)’ ที่ใช้วัตถุดิบเพียง 3 อย่างและราดน้ำมันมะกอกนิดหน่อยก็กลายเป็นอีกจานที่ดี

 

หรือ ‘Papril-ash (140 บาท)’ เป็นเมนูที่ Radek หยิบมาเสิร์ฟพร้อมบอกว่า นี่แหละจานโปรดของเขา เป็นข้าวสไตล์โปแลนด์ที่มีรสชาติแปลกใหม่ แถม Radek เล่าให้ฟังว่านี่เป็นเมนูที่เด็กโปแลนด์หลายคนไม่ชอบด้วย แต่เขานำมาทำใหม่ให้รสชาติดีขึ้น

 

Larder

Larder

 

ส่วนคนไหนอยากลองโคลด์คัตเน้นๆ ร้านจะมีให้เลือกหลายส่วนหลายชนิด ราคา 140-200 บาท เราแนะนำให้จับคู่กับขนมปังหรือแซนด์วิชรสชาติเบาๆ ก่อนปิดท้ายมื้อด้วยของหวานที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน เช่น Bostock (170 บาท) ขนมปังกาแฟเคลือบอัลมอนด์และช็อกโกแลต หรือ Pączki (80 บาท) โดนัทโปแลนด์แป้งนุ่มสอดไส้ครีมที่หวานกำลังดี 

 

Larder

Larder

 

ตอนนี้ร้านจะเปิดเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น ให้ทุกคนแวะมานั่งจิบกาแฟกินมื้อแรกของวันหรือมื้อสายกับเพื่อนได้ในบรรยากาศเป็นกันเอง

 

โดยภายในเดือนตุลาคมนี้ Adrian และ Radek บอกว่าพวกเขาจะเปิดมื้อดึกเพิ่ม พร้อมเสิร์ฟไวน์หรือแอลกอฮอล์ให้มานั่งจิบพร้อมโคลด์คัตได้อีกด้วย ส่วนตอนนี้ถ้าใครยังหาร้านอาหารเช้าบรรยากาศชิลๆ ใจกลางเมืองไม่ได้ เราว่าลองแวะมาที่นี่ดูจะไม่ผิดหวัง

 

You may also like: Sarnies Sourdough, Vivin Grocery, Landhaus

 

Larder

Open: เปิดทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.

Address: ซอยสุขุมวิท 39

Budget: 250-500 บาท

Instagram: @larderbkk

Map: https://goo.gl/maps/6MnMJ7R1VPyPC1N78

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X