“การทำร้านอาหารเป็นความฝัน เราเป็นลูกจ้างเขามาตลอดทั้งชีวิต ตอนนี้เกษียณแล้วก็อยากมีอะไรที่เป็นของตัวเองบ้าง” พันธ์ุ-สิทธิพันธุ์ สุนทรกุล เจ้าของร้านครัวศรีฟ้า เล่าถึงที่มาของร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ 59 บาท ที่เขาใช้เงินเกษียณของเขาทำร้านนี้ขึ้นมา
บรรยากาศร้าน
พันธ์ุ-สิทธิพันธ์ุ สุนทรกุล เจ้าของร้านครัวศรีฟ้า
ครัวศรีฟ้าเป็นร้านบุฟเฟต์ข้าวแกงราคา 59 บาท ที่มีกับข้าวมากมายถึง 27 อย่างให้เลือกตัก เคาน์เตอร์ยาวเต็มไปด้วยถาดกับข้าว ทั้งกะเพรา ไก่กระเทียม ผัดหน่อไม้ ผัดฟักทอง ผัดบวบ ไก่อบ และหม้อใบใหญ่ที่ใส่ต้มจับฉ่าย ไข่พะโล้ หรือจะเลือกเป็นอาหารจานเดียวอย่างข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู บะหมี่หมูแดงก็มี แม่ครัวของร้านบอกว่าเริ่มทำกับข้าวกันตั้งแต่ตีสี่ก่อนที่จะเปิดร้านเวลาเก้าโมง แต่ในช่วงมาตรการห้ามนั่งกินที่ร้าน ครัวศรีฟ้าต้องขายข้าวแกงแบบกล่องกระดาษและแกงถุงราคา 40 บาทแทน
ระหว่างที่เรากำลังคุยกับลุงพันธุ์อยู่ ก็มีชายหนุ่มสองคนเข้ามาซื้อข้าวในร้าน ทำให้เราได้เห็นการใช้บริการร้านอาหารครัวศรีฟ้า ลุงพันธุ์ยื่นกล่องกระดาษใส่อาหารให้พวกเขาคนละกล่อง แล้วบอกว่า “ตักข้าวได้เต็มที่ ส่วนกับข้าวเลือกตักได้สองอย่าง กินเยอะแค่ไหนก็ตักเลยนะ”
ชายคนแรกตักข้าวผัดปลาเค็มไปจนพูนกล่อง เสริมด้วยกะเพราอีกเล็กน้อย ส่วนอีกคนตักข้าวเปล่าแบบกำลังดี ส่วนกับข้าวเขาเลือกเป็นกะเพราและผัดฟักทอง ก่อนจะบอกกับลุงพันธุ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “เดี๋ยวผมมาต่ออีกกล่องนะ”
การตักกับข้าว
บรรยากาศร้าน
ลูกค้าที่ต้องยืนกินริมทางเท้า
พวกเขาเดินถือกล่องกระดาษและไปยืนกินอยู่ที่ริมทางเท้า แม้ว่าในร้านจะมีโต๊ะเก้าอี้อยู่มากมาย และจัดเป็นสัดส่วนให้นั่งกินได้โต๊ะละ 1 คนพร้อมกับฉากกั้นที่กั้นทุกที่นั่ง แต่ด้วยมาตรการห้ามนั่งกินในร้าน โต๊ะเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้อย่างดีเหล่านั้นก็หมดความหมายไป
เราถามว่าพวกเขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่หรือ ได้ความว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆ ในสำนักงานแถวนี้ พวกเขาแวะมากินที่ร้านครัวศรีฟ้าอยู่บ้างในช่วงที่นั่งกินในร้านได้ตามปกติ เพราะครัวศรีฟ้ามีกับข้าวให้เลือกหลากหลาย ราคาถูก แค่จานละ 59 บาทสามารถตักกี่ครั้งก็ได้ แต่เมื่อนั่งในร้านไม่ได้ พวกเขาก็จำเป็นต้องซื้อแบบกล่องกระดาษกล่องละ 40 บาทที่ตักได้ครั้งเดียวมายืนกินหน้าร้านแทน ถ้ายังไม่อิ่มค่อยต่อกล่องที่สอง
ลูกค้าร้านครัวศรีฟ้า
การคุยกับพวกเขาและการสังเกตลูกค้าที่เดินเข้าร้านทำให้เรารู้ว่าร้านครัวศรีฟ้านี้เป็นที่พึ่งของคนรายได้น้อยในย่านนี้จริงๆ ลูกค้าที่เดินเข้ามามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทั่วไป คนงานก่อสร้าง คนส่งของ คนชรา เพราะครัวศรีฟ้าเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถตักทุกอย่างได้เอง ทำให้พวกเขาสามารถตักกับข้าวได้มากเท่าที่พวกเขาอยากกิน เพราะการไปซื้อข้าวแกง 40 บาทที่ร้านอื่นอาจไม่ได้ปริมาณเยอะขนาดนี้
“การทำร้านบุฟเฟต์ไม่ง่ายเลย เราเปิดร้านอาหารหลังเกษียณ เราไม่ได้เอากำไรเป็นตัวตั้ง เราเอามาเลี้ยงชีพ ไม่ได้หวังอะไรมากกับชีวิต แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับโควิด” ลุงพันธ์เล่าถึงยอดขายที่ตกฮวบลงอย่างน่าใจหายเมื่อมีมาตรการห้ามนั่งกินในร้าน เพราะร้านครัวศรีฟ้าเน้นขายแบบบุฟเฟต์เป็นหลัก เมื่อต้องซื้อกลับบ้าน ลูกค้าก็หาย และการขายแบบกล่อง 40 บาทในตอนนี้ก็ช่วยได้ในระดับรอดไปหนึ่งวันเท่านั้น
ช่วงเที่ยงถึงบ่ายสองโมงเป็นช่วงที่ลูกค้าทยอยเข้าร้านมาเรื่อยๆ แต่ลุงพันธ์บอกว่าลูกค้าหายไปเยอะมาก ไม่เยอะเหมือนแต่ก่อนแล้ว ยิ่งช่วงหลังบ่ายสองโมงนั้นไม่มีลูกค้าเลยจนคนในร้านสามารถนั่งหลับได้ จะคึกคักอีกครั้งก็ตอนหกโมงเย็นที่ทางร้านจะแจกแกงถุงฟรีคนละ 2 ถุง
“ช่วงเวลาหลังเกษียณมันเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต เราจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อยากใช้เวลาที่มีอยู่ทำประโยชน์ให้สังคม อะไรที่แบ่งปันได้เราก็จะแบ่งปัน”
Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.
Address: ถนนโพธิ์แก้ว เยื้องปั๊มน้ำมัน ปตท. ซอยโพธิ์แก้ว 3 นวมินทร์ กรุงเทพฯ
Budget: 40-100 บาท
Contact: 08 1918 5240
Website: https://www.facebook.com/kruasrifah
Map:
