7 มิถุนายน วันแรกของการดีเดย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการดีเลย์ในวันต่อๆ ไป
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า วัคซีนที่เข้ามาตอนนี้ยอดจองมันมากกว่ายอดวัคซีน เราก็ต้องเอาวัคซีนที่เรามีอยู่มาค่อยๆ ทยอยฉีดไปก่อนจนกว่าที่วัคซีนจะมีมากกว่าคนฉีด ซึ่งมันก็คงยาก เพราะปัญหาก็คือทั้งโลกก็ต้องการวัคซีนเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม จำนวนวัคซีนที่มีน้อยกว่ายอดจองฉีด หรือน้อยกว่าศักยภาพของการฉีดที่แต่ละจังหวัดเตรียมไว้รองรับก่อนหน้านี้เริ่มเห็นผลตั้งแต่วันแรกเมื่อมีหลายสถานบริการฉีดวัคซีนประกาศว่าพร้อมฉีดวัคซีนได้ในวันที่ 7-8 มิถุนายนเท่านั้น เพราะจำนวนวัคซีนมีมาไม่เพียงพอ
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนและไม่เคยเลื่อน เพราะฉะนั้นต้องฟังจากคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ต้องฟังเยอะ ฟังทีเดียว ยืนยันว่ามีวัคซีนฉีด มีวัคซีนฉีดตามนัด ใครนัดได้วันไหนก็มีวัคซีนฉีดวันนั้น
สำหรับเป้าหมายการฉีดวัคซีนของรัฐบาลคือ 100 ล้านโดสภายในปีนี้นั้น หากเป็นไปตามแผนที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เดือนมิถุนายนจะมีวัคซีนที่ส่งมอบมากกว่า 6 ล้านโดส เมื่อรวมกับวัคซีนที่ฉีดไปแล้วก่อนหน้าประมาณ 4 ล้านโดส ทำให้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ไทยจะฉีดวัคซีนได้ประมาณ 10 ล้านโดส
แต่หากนับตามเป้าหมายใหญ่ 100 ล้านโดส แปลว่าอีก 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.) ต้องฉีดวัคซีนอีก 90 ล้านโดส ตกเดือนละ 15 ล้านโดส หรือเฉลี่ย 5 แสนโดสต่อวัน
