×

กรมอุตุฯ ญี่ปุ่นเชื่อ แผ่นดินไหวขนาด 7.1 เมื่อวันเสาร์เป็น ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน

15.02.2021
  • LOADING...
กรมอุตุฯ ญี่ปุ่นเชื่อ แผ่นดินไหวขนาด 7.1 เมื่อวันเสาร์เป็น ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน

กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เชื่อว่าแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ที่เกิดขึ้นในบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น (13 กุมภาพันธ์) เป็น ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ของแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ซึ่งครั้งนั้นทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 2 หมื่นคน และทำให้เกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ จนเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีออกสู่อากาศ และกลายเป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดของโลกในรอบ 25 ปี

 

ส่วนข้อมูลของแผ่นดินไหวในครั้งนี้จากกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey) ระบุว่าแผ่นดินไหวมีศูนย์กลางลึกลงไป 36 กิโลเมตร และอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนามิเอะราว 46 ไมล์ ซึ่งเมืองนามิเอะก็อยู่ห่างจากเมืองฟุกุชิมะราว 60 ไมล์ สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่าผู้คนทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังคงเฝ้าระวังเหตุ หลังมีแรงสั่นสะเทือนหลายครั้งเกิดขึ้นตามหลังแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ด้วย

 

JMA ยังคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในวันจันทร์นี้ และเตือนว่าพื้นดินอาจเกิดการอ่อนตัวจากแผ่นดินไหว และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดดินถล่ม นอกจากนี้ยังมีคำเตือนด้วยว่าแผ่นดินไหวที่มีแรงสั่นสะเทือนเท่ากับแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์อาจเกิดขึ้นได้อีกในสัปดาห์หน้าหรือนานกว่านั้น ส่วนสำนักข่าว CNN ระบุว่าแผ่นดินไหวทำให้เกิดเหตุดินถล่มและถอนรากถอนโคนส่วนของทางด่วนสายหลัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งเมืองฟุกุชิมะและเมืองมิยางิ นอกจากนี้ตลิ่งริมทางดังกล่าวยังเกิดทรุดตัว ถนนและรั้วกั้นจมอยู่ใต้โคลน

 

ด้านสำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงอาคารในกรุงโตเกียว และทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับในอาคารหลายแสนหลังทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น จนกระทั่งถึงเช้าวันอาทิตย์ กระแสไฟฟ้าจึงกลับมาใช้งานเป็นปกติได้แทบทั้งหมด และบ้านเรือนหลายพันหลังยังไม่มีน้ำใช้ จนทำให้ประชาชนต้องต่อแถวรับน้ำดื่มจากรถบรรทุก

 

โนโบรุ เอนโดะ เจ้าของร้านทำผมในเมืองอิวากิ จังหวัดฟุกุชิมะ วัย 64 ปี ระบุกับ Reuters ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เทียบไม่ได้กับแผ่นดินไหวเมื่อ 10 ปีที่แล้วซึ่งสั่นไหวอยู่นานหลายนาที และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกบ่อยครั้งอยู่หลายสัปดาห์ ในครั้งนี้มีผู้คนค่อนข้างมากที่กลับไปใช้ชีวิตตามปกติกันแล้ว และยังมีบางพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วน อาโออิ โฮชินะ เจ้าของบาร์ในเมืองอิวากิ ระบุว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในท้องที่ทำให้บาร์ของเธอถูกปิดตั้งแต่เดือนมกราคม และกำลังจะกลับมาเปิดได้ในวันจันทร์นี้ ทว่าก็กลับมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้เสียก่อน และเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็ทำให้ความทรงจำที่น่ากลัวจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 10 ปีก่อนกลับมาอีกครั้ง

 

“ร่างกายของฉันมีปฏิกิริยาทันที และฉันไม่สามารถหยุดตัวสั่นได้ ขาของฉันก็สั่นเหมือนกัน แต่ฉันไม่สามารถวัดได้ว่าอะไรจะปลอดภัยกว่าระหว่างการวิ่งออกไปหรืออยู่ข้างใน ดังนั้นฉันจึงลงเอยด้วยการเต้นแปลกๆ” เธอกล่าวพร้อมหัวเราะเบาๆ

 

มีรายงานจาก NHK ด้วยว่ามีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 150 คนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ และยังไม่มีรายงานความผิดปกติใดๆ ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยแม้ NHK จะระบุว่ามีน้ำราว 160 มิลลิลิตรรั่วออกจากบ่อเก็บเชื้อเพลิงใช้แล้วที่เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายใดๆ ส่วนบริษัท East Japan Railway ระบุว่าจะใช้เวลาราว 10 วันกว่าที่รถไฟสาย Tohoku Shinkansen จะกลับมาให้บริการได้ตามปกติเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังมีการระงับการให้บริการระหว่างสถานี Nasushiobara และ Morioka ไปก่อนหน้านี้

 

ทั้งนี้ ANA Holdings บริษัทสายการบินในญี่ปุ่น ระบุว่าจะเพิ่มเส้นทางบินพิเศษและเพิ่มขนาดของเครื่องบินในเส้นทางอื่นๆ ที่บินไปยังตอนเหนือของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์และวันจันทร์นี้ ส่วนบริษัทผู้ผลิตเบียร์อย่าง Asahi Group และ Kirin Holdings ซึ่งมีโรงงานในเมืองฟุกุชิมะและเซนไดระบุว่ากำลังประเมินผลกระทบที่เกิดกับสถานที่ของทางบริษัท โดย Kirin ระบุว่าโรงงานในเมืองเซนไดได้รับความเสียหายเล็กน้อยและกำลังตรวจสอบสถานการณ์ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Toyota และ Nissan ระบุว่าไม่มีโรงงานใดของบริษัทในพื้นที่ดังกล่าวที่ได้รับความเสียหาย

 

ภาพ: STR / Jiji Press / AFP

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์ 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising