×

Fed ส่งสัญญาณปรับนโยบายหลังปราบเงินเฟ้อสำเร็จ! ตลาดหุ้นฮือฮา รอลุ้นดอกเบี้ยลง ก.ย. นี้

24.08.2024
  • LOADING...

Fed ส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดว่าภารกิจปราบเงินเฟ้อสำเร็จแล้ว ส่งผลให้ตลาดการเงินที่เพิ่งเผชิญความปั่นป่วนครั้งใหญ่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนกลับมาคึกคักอีกครั้ง 

 

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชัดเจนในการปราศรัยที่การประชุม Jackson Hole ว่าถึงเวลาแล้วที่นโยบายการเงินต้องปรับตัว พร้อมเน้นย้ำว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อกำลังลดลง

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับในเชิงบวกทันที โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 สิงหาคม) ทำให้ดัชนีกลับมาอยู่ในระดับที่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งเป็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการร่วงหนักที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 

 

นอกจากนี้กองทุน ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนก็พุ่งขึ้นอย่างมากในสัปดาห์นี้ ส่วนดัชนี VIX ซึ่งเป็นมาตรวัดความกลัวของตลาด ก็ลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจุดที่บ่งชี้ถึงความตื่นตระหนก

 

ในขณะที่ตลาดรอคอยทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต พาวเวลล์ได้ย้อนกลับไปมองถึงสาเหตุของเงินเฟ้อที่นำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 11 ครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2023 เขากล่าวว่า “การกระทำของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา บทเรียนสำคัญจากประสบการณ์ล่าสุดคือ การคาดการณ์เงินเฟ้อที่มั่นคง เสริมด้วยการดำเนินการอย่างเข้มแข็งของธนาคารกลาง สามารถช่วยให้เกิดภาวะเงินฝืดโดยไม่จำเป็นต้องสร้างภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ”

 

พาวเวลล์กล่าวต่อว่า “เวลานั้นได้มาถึงแล้วที่นโยบายต้องปรับตัว ทิศทางชัดเจน แต่จังหวะเวลาและอัตราการลดดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะเข้ามา มุมมองที่เปลี่ยนไป และความสมดุลของความเสี่ยง” เขายังเน้นย้ำด้วยว่า Fed จะ ‘ทำทุกอย่างที่ทำได้’ เพื่อรักษาตลาดแรงงานให้แข็งแกร่งและควบคุมเงินเฟ้อให้ได้

 

นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบายอย่างชัดเจนที่สุด จากการมุ่งเน้นควบคุมเสถียรภาพราคามาสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตลาดแรงงาน นักลงทุนตีความว่า Fed อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้

 

ซีมา ชาห์ หัวหน้านักกลยุทธ์โลกของ Principal Asset Management กล่าวว่า “การที่ Fed เปลี่ยนมาใช้ท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นมากกว่าการควบคุม ทำให้การปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงกลายเป็นแรงหนุนนโยบายของ Fed แทนที่จะเป็นอุปสรรค ตลาดจะทำให้งานของ Fed ง่ายขึ้นมาก เสมือนเป็นกลไกปรับเสถียรภาพอัตโนมัติ”

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ร่วมการสำรวจของ Bloomberg ประเมินว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะหดตัวในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 แม้ว่าความเสี่ยงจะลดลงเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ตาม

 

ประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยกรณีที่ทั้งตลาดและธนาคารกลางถูกหลอกให้เชื่อว่าจะเกิด Soft Landing หรือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างนุ่มนวล แต่สุดท้ายก็เกิดภาวะถดถอยในอีกไม่กี่เดือนต่อมา การที่หุ้นและพันธบัตรปรับตัวขึ้นก็ไม่ได้ช่วยป้องกันภาวะถดถอยในช่วงก่อนปี 2000 และ 2008 

 

อย่างไรก็ดี เดวิด เมอริเคิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของ Goldman Sachs มองในแง่ดีว่า “แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ดัชนีภาวะการเงินโดยรวมของเราไม่ได้ตึงตัวมากนัก และผ่อนคลายลงพอสมควรในช่วงปีที่ผ่านมา โมเดลที่เราใช้ประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในภาวะการเงินต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริงบ่งชี้ว่า การผ่อนคลายนี้จะช่วยกระตุ้น GDP ในปี 2024 ได้ประมาณ 0.25%”

 

พาวเวลล์ยังเสริมด้วยว่า ยังมี ‘อีกมากที่ต้องเรียนรู้’ จากประสบการณ์นี้ และปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “นี่คือการประเมินเหตุการณ์ของผม ความเห็นของคุณอาจแตกต่างออกไป”

 

ภาพ: Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising