เครื่องสำอางกับผู้หญิงเป็นเหมือนเพื่อนสนิทกันก็จริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เพื่อนสนิทก็อาจกลายเป็นศัตรูอันตรายได้ หากผลิตภัณฑ์นั้นหมดอายุ THE STANDARD อยากเห็นทุกคนสวยอย่างปลอดภัย จึงรวบรวมระยะเวลาการหมดอายุของเครื่องสำอางแต่ละประเภทมาฝาก ดังนั้นหากไม่อยากหน้าพังเพราะเครื่องสำอางหมดอายุก็ต้องเข้มแข็งแล้วตัดใจทิ้งซะ

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องสำอางหมดอายุ

จุดสังเกต: ทุกครั้งที่เราซื้อเครื่องสำอางมาแล้ว จุดแรกที่ต้องสังเกตคือบริเวณฉลากของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีการระบุ วันที่ผลิต ในภาษาอังกฤษจะพิมพ์ตัวย่อว่า MFD ย่อมาจาก Manufactured Date บางแบรนด์ใช้ตัวย่อ MFG ย่อมาจาก Manufacturing Date ส่วน วันหมดอายุ สังเกตจากคำว่า EXP ย่อมาจากคำว่า Expiration Date, Expiry Date นอกจากนี้ยังสังเกตได้จาก Period After Opening (PAO) ซึ่งมีสัญลักษณ์รูปบรรจุภัณฑ์เปิดฝาที่มีตัวเลขกำกับ เช่น 6M หรือ 12M หมายถึงช่วงเวลาวันหมดอายุหลังจากเปิดใช้

 

Tips: บางแบรนด์แจ้งเฉพาะวันที่ผลิต MFD หรือ MFD เท่านั้น แต่เราก็สามารถทราบอายุการใช้งานเครื่องสำอางแต่ละประเภทดังนี้

 

 

ระยะเวลาสูงสุดในการใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภท

แป้งฝุ่น ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 24 เดือน

แป้งอัดแข็ง ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 12 เดือน

มาสคาร่า ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 3-6 เดือน

บลัชออน ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 12-18 เดือน

ลิปสติก ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 18 เดือน

รองพื้น ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 6 เดือน

อายแชโดว์ ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 12 เดือน

ลิควิดอายไลเนอร์ ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 3-6 เดือน

แชมพู ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 24 เดือน

เจลอาบน้ำ ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 24 เดือน

ลิปกลอส ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 18-24 เดือน

อายแชโดว์เนื้อฝุ่น ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 2 ปี

อายแชโดว์เนื้อครีม ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 12-18 เดือน

ยาทาเล็บ ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 1 ปี

น้ำหอม ระยะเวลาสูงสุดในการใช้งาน 2-5 ปี

 

 

ไม่รู้ไม่ได้ อันตรายจากการใช้เครื่องสำอางหมดอายุ

รายงานจากผลสำรวจโดย Genius Beauty พบว่า ในแต่ละวันผู้หญิงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามได้มากสุดถึง 20 ไอเท็มต่อวัน การรวมตัวกันของสารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องสำอางเหล่านี้ บางไอเท็มมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแอบแฝงอยู่ หากผู้หญิงมีการแต่งหน้าทุกวัน ร่างกายสามารถดูดซับสารเคมีเหล่านั้นผ่านทางผิวหนังมากกว่า 2 กิโลกรัมต่อปี แม้นั่นจะเป็นผลสำรวจจากการใช้เครื่องสำอางปกติก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมาก หากลองจินตนาการว่าเป็นเครื่องสำอางหมดอายุ ความน่ากลัวจะเพิ่มเป็นทวีคูณ

 

 

เหตุผลที่ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหมดอายุ

เครื่องสำอางหมดอายุเป็นแหล่งสะสมของสารปนเปื้อนและแบคทีเรียจำนวนมาก หากเอามาใช้งานต่ออาจมีผลทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ เช่น มาสคาร่า อายไลเนอร์ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสใกล้ชิดกับดวงตาโดยตรง หากขนแปรงมาสคาร่าหรือหัวอายไลเนอร์เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ผลที่ตามมาคือดวงตาอักเสบ บวมแดง ลิปสติกหมดอายุ มีผลทำให้เกิดเยื่อบุในปากอักเสบ รวมถึงรองพื้นและครีมต่างๆ ที่เคยใช้ดี เห็นผลปัง แต่หลังๆ ใช้แล้วมีรอยแดง เป็นสิว หรือเกิดอาการแพ้ นั่นอาจเป็นเพราะเครื่องสำอางชิ้นโปรดหมดอายุการใช้งานแล้วก็เป็นได้  

 

แม้จะตัดใจยากแค่ไหนก็ต้องทิ้งให้ได้ ผิวของเราจะได้ปลอดภัยจากอันตรายที่จะตามมาโดยไม่รู้ตัว

 

Tips: วิธีเช็กแบบอื่นๆ

1. หากผลิตภัณฑ์มีสีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม หรือสัมผัสแตกต่างออกไป จากเคยเกลี่ยง่ายกลายเป็นเกลี่ยยาก อาจเป็นเพราะหมดอายุแล้ว ให้ทิ้งไปได้เลย
2. ในบลัชออนที่หมดอายุ บางทีสีจะไม่เหมือนเดิม หากดูใกล้ๆ จะมีจุดขาวๆ หรือเหลืองผุดขึ้นมาคล้ายเชื้อรา ห้ามใช้งานต่อ ควรทิ้งทันที
3. สังเกตจากกลิ่นที่ไม่ปกติ เช่น เซรั่มบางตัวมีกลิ่นที่อ่อนลง ไม่หอมเข้มข้นเหมือนเดิม หรือบางผลิตภัณฑ์มีกลิ่นเหม็นหืนลอยมาก็ไม่ควรเก็บไว้ แม้จะเสียดายแค่ไหนก็ตาม

 

Photo: ShutterStock