เค้กน้ำผึ้งที่ทำขึ้นสำหรับคนที่ไม่กินน้ำผึ้ง? เค้กที่เป็นสัญลักษณ์ของการชนะสงคราม? เค้กแต่ละชิ้นที่ Belka คาเฟ่รัสเซียเล็กๆ น่ารักย่านสุรศักดิ์แห่งนี้ล้วนมีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
Belka คาเฟ่ที่จะเรียกว่าห้องสมุดรัสเซียก็น่าจะได้ เพราะที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟแค่ขนมรัสเซีย แต่มีทั้งภาพเขียนจากรัสเซีย ของตกแต่งที่บอกเล่าประวัติศาสตร์รัสเซีย และหนังสือเกี่ยวกับรัสเซียอัดแน่นเต็มชั้นไปหมด แม้แต่เครื่องปรับอากาศในร้านยังถูกปรับให้หนาวที่สุดเพื่อให้ได้ความรู้สึกของการนั่งอยู่ในบ้านสักหลังที่รัสเซียเลย
ทางร้านมีเค้กซิกเนเจอร์ที่มีขายทุกวันอยู่สองอย่างคือ Medovik และ Napoleon ส่วนเค้กหมุนเวียนอีกสามอย่าง Pavlova, Russian Sour Cream Pie และ Eskimo นั้นอาจจะต้องลุ้นสักหน่อยว่าวันไหนจะมีอะไรบ้าง โดยเค้กของทางร้านจะถูกปรับสูตรให้หวานน้อยลงเพื่อให้กินง่ายขึ้น และชิ้นเล็กลงเพื่อให้สามารถลองได้หลายอย่างในการมาเยือนครั้งเดียว
เริ่มที่เค้กที่ทางร้านอบทุกวันอย่าง Medovik (90 บาท) เค้กน้ำผึ้งและซาวร์ครีมรัสเซียที่เรียกกันว่าสเมตานาซ้อนสลับกันหลายชั้น เรื่องราวของเค้กชิ้นนี้เกิดขึ้นในยุคสมัยของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 พระราชินีของพระองค์คือ ซารีนาเอลิซาเบธ ที่เป็นคนไม่ชอบน้ำผึ้งระดับที่จะอารมณ์เสียทุกครั้งเมื่อเจอน้ำผึ้งในอาหารหรือขนมที่กำลังกินอยู่ วันหนึ่งมีพ่อครัวขนมหวานคนใหม่ที่ไม่รู้เรื่องราวนี้เข้ามาทำงานและได้คิดค้นเค้กเมดาวิกนี้ขึ้นมา เมื่อพระราชินีกินเข้าไปก็ตกหลุมรักเค้กนี้ในทันทีโดยลืมไปเลยว่าเคยไม่ชอบน้ำผึ้ง
ต่อด้วย Napoleon Cake (90 บาท) เค้กที่มีความคล้ายกับขนมมิลย์เฟยของฝรั่งเศสที่มีการซ้อนกันของชั้นแป้งและครีม ที่รัสเซียหยิบเอามาทำใหม่ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการชนะสงคราม โดยแป้งที่ซ้อนกันหลายชั้นนั้นเป็นเหมือนกับกองทัพฝรั่งเศส ส่วนเกล็ดขนมปังที่โรยอยู่ด้านบนนั้นหมายถึงหิมะที่ทับถมอยู่บนกองทัพฝรั่งเศสตามเหตุการณ์จริงที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้เพราะความหนาวอันโหดร้ายของรัสเซีย โดยปกติแล้วที่รัสเซียจะทำเค้กนี้เป็นสี่เหลี่ยมธรรมดา ทางร้านนำมาปรับให้กลายเป็นชิ้นกลมเล็กพอดีคำ และทำซอสสตรอว์เบอร์รีเพิ่มสำหรับตัดเลี่ยนด้วย
ส่วนเค้กที่หมุนเวียนมาอีกสามอย่างคือ Pavlova (120 บาท) เมอแรงก์ที่ข้างในมีซอสเบอร์รีและครีมสด ด้านบนมีสตรอว์เบอร์รีลูกโตวางอยู่ แม้ไม่ใช่ขนมรัสเซีย แต่ได้ชื่อมาจากนักบัลเลต์สาวชาวรัสเซีย อันนา ปาฟลาวา นักบัลเลต์คนแรกที่ได้เดินสายการแสดงไปทั่วโลก เธอโด่งดังด้วยบทบาท The Dying Swan ในช่วงปี 1920 เธอได้ไปแสดงบัลเลต์ที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และกลายเป็นขวัญใจชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จนมีขนมเป็นของตัวเองและเป็นที่นิยมมาก จนเกิดเป็นศึกระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ว่าใครกันแน่ที่คิดค้นปาฟลาวา
Russian Sour Cream Pie (150 บาท) พายซาวร์ครีมที่มีความคล้ายชีสเค้ก แต่เลี่ยนน้อยกว่า เสิร์ฟพร้อมผลไม้ประเภทเบอร์รีหลากชนิด และซาวร์ครีมรัสเซียหรือสเมตานานั้นเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมีติดครัวเอาไว้ ในรัสเซียซาวร์ครีมไม่ได้ใช้แค่ในการทำขนม แต่ชาวรัสเซียกินทุกอย่างกับซาวร์ครีมเพราะสภาพอากาศที่หนาว พวกเขาต้องการพลังงานและไขมัน ถ้าอยากกินซาวร์ครีมรัสเซียก็ต้องลองสั่งเมนูนี้ดู เพราะทางร้านบอกว่าคัดเลือกแล้วคัดเลือกอีกให้คล้ายกับที่รัสเซียที่สุด
Eskimo (120 บาท) มูสเค้กที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากไอศกรีมแท่งที่เป็นที่นิยมในรัสเซียมาตั้งแต่สมัยยังเป็นสหภาพโซเวียตอย่างไอศกรีมเอสกิโม ไอศกรีมนมเคลือบช็อกโกแลตที่วางขายในราคาถูกให้กลายเป็นของหวานที่ราคาจับต้องได้สำหรับประชาชนทั่วไป ทางร้านจึงหยิบไอศกรีมนี้มาแกะสูตรและแปลงให้กลายเป็นมูสเค้ก เริ่มจากความกรุบกรอบของฐานเค้กที่เป็นคุกกี้ ครีมนมตรงกลางที่ทำมาจากวิปครีมและคอทเทจชีสที่ทางร้านคัดเลือกมาแล้วว่าคล้ายกับที่รัสเซียที่สุด ปิดท้ายด้วยชั้นบนสุดที่เป็นไวต์ช็อกโกแลตและดาร์กช็อกโกแลต
เค้กและห้องสมุดรัสเซียขนาดย่อมนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย มะปราง-รณิษฐา จาติเสถียร และ คิว-ปุญญภาพ ดินวูน สองเจ้าของร้านที่คนหนึ่งเรียนมาทางด้านรัสเซียโดยเฉพาะ และอีกคนหนึ่งเรียนโบราณคดี นี่เลยเป็นคำตอบว่าทำไมคาเฟ่แห่งนี้ถึงอัดแน่นไปด้วยงานศิลปะ ประวัติศาสตร์ และสัญลักษณ์ทางการเมืองของรัสเซีย หากคุณมีเวลา ลองคุยกับเจ้าของร้านทั้งสองดู คุณจะได้ความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับรัสเซียกลับไปเล่าต่อได้เพียบ
Belka
Open: วันเสาร์-พฤหัสบดี 10.00-19.00 น. (ปิดวันศุกร์)
Address: 10/1 ถนนศรีเวียง สีลม กรุงเทพฯ (ตรงข้ามโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน)
Budget: 100-200 บาท
Contact: 08 5166 2446
Website: https://www.facebook.com/belkacafe.th/
Map:
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
