วันนี้ (1 ตุลาคม) พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวถึงความคืบหน้าในการลำเลียงผู้เสียชีวิตจากเหตุรถบัสโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดไฟไหม้ระหว่างเดินทางไปทัศนศึกษาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 23 รายเสร็จสิ้นในเวลา 17.00 น.
จากนั้นร่างทั้งหมดจะถูกส่งไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ทาง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้จัดตั้งจุดอำนวยการที่สถาบันนิติเวชวิทยาขึ้นเป็นการชั่วคราว เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลว่าเป็นศพผู้ใดบ้าง เพื่อที่จะได้เร่งนำส่งร่างให้กับครอบครัวไปบำเพ็ญกุศลตามความเชื่อทางศาสนา
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า ร่างที่เก็บกู้มาเป็นเพศชาย 11 ราย เพศหญิง 7 ราย และยังระบุเพศไม่ได้ 5 ราย ในส่วนการตรวจสอบอุปกรณ์กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะดำเนินการเป็นลำดับต่อไป
ในช่วงเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่พยายามเคลื่อนย้ายรถบัสที่เกิดเหตุออกจากพื้นผิวจราจร เพื่อคืนถนนให้ประชาชนสัญจร โดยตลอดปฏิบัติการเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงที่ใต้ท้องรถตลอดเวลา เนื่องจากเกิดประกายไฟพุ่งออกมาในขณะที่พยายามขยับรถในครั้งแรก ทำให้กังวลว่าอาจเกิดระเบิดซ้ำ
จนกระทั่งเวลา 19.31 น. รถบัสที่เกิดเหตุสามารถเคลื่อนออกจากถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า หลังจากใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยจะนำซากรถไปจอดที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์สาเหตุต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ต้องยกชุดเบรกออกในกระบวนการเคลื่อนย้ายรถ เนื่องจากรถบัสเป็นระบบอัตโนมัติ เมื่อรถมีปัญหาเบรกทำให้รถไม่สามารถขยับได้
เมื่อเคลื่อนย้ายซากรถบัสที่เกิดเหตุออกไป เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงได้เข้ามาทำความสะอาดถนน เพื่อเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติ